ฮุนเซนฟุ้งเขมรรวยวัฒนธรรมนั่งกก.มรดกโลก | คมชัดลึก

 เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2552  นายธีระ  สลักเพชร    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานแถลงข่าวผลการคัดเลือกคณะกรรมการมรดกโลก( World Heritage Committee-WHC) วาระปี ค.ศ. 2009-2013 ที่ห้องประชุมชั้น 19 วธ.ว่า ที่ประชุมสมัยสามัญขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ครั้งที่ 35 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ประกาศผลการคัดเลือกคณะกรรมการมรดกโลก เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนประเทศไทย นางโสมสุดา ลียะวณิช รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะผู้แทนของประเทศไทยได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการมรดกโลก โดยจะดำรงตำแหน่งดังกล่าว ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 - 2556 ซึ่งจะทำให้ไทยมีบทบาทในเวทีโลก และสามารถช่วยผลักดันแหล่งโบราณสถานด้านวัฒนธรรม และทางธรรมชาติของไทย ในการเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

 นายธีระ กล่าวอีกว่า ในการคัดเลือกในครั้งนี้ได้มีผู้แทนจากประเทศภาคีสมาชิกได้รับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการในตำแหน่งที่ว่างลง จำนวน 12 ประเทศ จาก 21 ประเทศ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ผลปรากฎว่า กลุ่มที่ 1. ประเทศที่ไม่มีมรดกโลก 1 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับอิริเรตส์ กลุ่มที่ 2. ประเทศยุโรปตะวันออก 1 ประเทศ ได้แก่ ประเทศรัสเซีย ส่วนกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มประเทศที่เหลืออีก 10 ประเทศ ผลการคัดเลือกในรอบแรก ได้รับคะแนนคัดเลือก ดังนี้ อันดับที่ 1. สวิตเซอร์แลนด์ 104 คะแนน อันดับ 2 กัมพูชา 83 คะแนน อันดับ 3 ไทย 82 คะแนน อันดับ 4. แอฟริกาใต้ 78 คะแนน และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 73 คะแนน ส่วนในรอบที่สองได้รับคัดเลือก 5 ประเทศ คือ อันดับ 6. เอธิโอเปีย 69 คะแนน อันดับ 7. เม็กซิโก 56 คะแนน อันดับ 8.เอสโตเนีย 55 คะแนน อันดับ 9 อิรัก 52 คะแนน อันดับ 10 มาลี 46 คะแนน

 รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า การที่นางโสมสุดา ได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการมรดกโลก จะช่วยผลักดันการเสนอแหล่งวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทยที่มีความโดดเด่นระดับสากล และควรเสนอขึ้นเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ที่อยู่ในระหว่างการเสนอชื่อรอบสุดท้าย จำนวน 2 แหล่ง เข้าสู่การขึ้นบัญชีรายชื่อรอการประกาศเป็น มรดกโลก ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดมธานี และเส้นทางเชื่อมทางวัฒนธรรมปราสาทหินพิมาย เชื่อมปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และกลุ่มปราสาทตาเมือน รวมไปถึงแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่จะเตรียมเสนอขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative list) ได้แก่

 1.เส้นทางวัฒนธรรมศรีวิชัยไชยา - นครศรีธรรมราช – สทิงพระ – ยะรัง และเคดาห์ ในประเทศมาเลเซีย 2. แหล่งวัฒนธรรมล้านนา 3.แหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสนและสุวรรณโคมคำ จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย และเมืองบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 4.ภูมิทัศน์วัฒนธรรมแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา 5.กลุ่มสถาปัตยกรรมของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ 6.พระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช 7.องค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนคร นอกจากนี้ยังมีมรดกโลกทางธรรมชาติ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีก 2 แห่ง คือ 1.กลุมป่าแก่งกระจาน 2.พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน

 “ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องบอกว่าเหนื่อยมาก เพราะไทยเปิดตัวช้ากว่าประเทศอื่น แต่ทุกคนก็ทุ่มเท เท่าที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กระบวนการขอคะแนนเสียงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะผู้แทนของประเทศที่จะลงคะแนนให้เหตุผลว่าไม่อยากเลือกไทย และ กัมพูชา เนื่องจากยังมีปัญหาความขัดแย้งกรณีปราสาทเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อน ยังตกลงกันไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงกำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียงใหม่ ว่าของให้ประเทศสมาชิกเลือกทั้งสองประเทศทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อให้มีช่องทางหารือ ตกลงแก้ปัญหากรณีปราสาทเขาพระวิหาร นำไปสู่สันติภาพ ซึ่งก็ได้ทั้งสองก็ได้รับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการมรดกโลกทั้งคู่” นายธีระ กล่าว

 รมว.วธ. กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีแนวทางแก้ไขปัญหาปราสาทเขาพระวิหารนั้น ตนยังไม่ขอลงลึกในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว อยากให้ทั้งสองประเทศมองด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน การใช้ประโยชน์ร่วมกัน ลดความขัดแย้ง ที่สำคัญตนทราบว่าผู้แทนกัมพูชาเป็นบุตรชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่าทางคณะกรรมการมรดกโลกมีความสนใจจะมาจัดการประชุมสัญจรที่ประเทศไทยด้วย ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยจะขอเป็นเจ้าภาพการประชุมมรดกโลกในอนาคตด้วย

 “ความสำเร็จของการที่ประเทศไทยได้รับเป็นคณะกรรมการมรดกโลกในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส กระทรวงต่างประเทศ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทีเกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันหาเสียงจนได้คะแนนเสียงสนับสนุนจากประเทศภาคีสมาชิกด้วย ซึ่งนางโสมสุดา จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 30 พ.ย.นี้ “ นายธีระ กล่าว

 อย่างไรก็ตาม นางโสมสุดา ก่อนหน้านี้ได้แสดงวิสัยทัศน์ของประเทศไทยเกี่ยวกับมรดกโลกดังนี้ 1.ประเทศไทยตระหนักถึงวัตถุประสงค์หลักการจัดทำบัญชีมรดกโลกขึ้นเพื่อปกป้องคุ้มครองตัวมรดกและคุณค่าที่เป็นสากลทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ อันเป็นประโยชน์โดยรวมของประชาคมโลก อาทิ เตรียมความพร้อมสำหรับความเสี่ยง ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คุณค่าข้อมูลทางวิชาการ เพื่อการใช้สอยอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การประกวดชิงตำแหน่งเพื่อชื่อเสียงและกอบโกยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวและการเมือง

 2.ไทยเล็งเห็นว่ามีอีกหลายประเทศที่ยังไม่มีแหล่งมรดกโลกแม้แต่แห่งเดียว เพื่อความเป็นธรรมและเสมอภาค ขอสนับสนุนให้มีแหล่งมรดกโลกอย่างครบถ้วนและทั่วถึง เพื่อเป็นตัวแทนของทุกอารยธรรมในโลก ไม่จำกัดเฉพาะแต่มรดกสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่โต จับต้องได้ แต่ควรครอบคลุมถึงสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มีคุณค่าทางจิตใจ วัฒนธรรม ถือว่าเป็นความหมายที่แท้จริงของมรดกโลก โดยมีการตั้งกองทุนพิเศษเพื่อภารกิจนี้โดยเฉพาะในลักษณะการจัดการที่สมดุล

 3.ขอสนับสนุนการรวมกลุ่มกันของหลายๆประเทศเพื่อแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ ความรู้ ความคิดเห็น เป็นเครือข่าย เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการอนุรักษ์และบริหารจัดการมรดกโลกของแต่ละกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามกรอบการทำงานโครงการ Global Strategy โดยไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางของการปรึกษาหารือทั้งในด้านงบประมาณและเทคนิค

ฮุน เซนฟุ้งเขมรรวยวัฒนธรรมนั่งกก.มรดกโลก

 สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวถึงเรื่องที่เขมรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการมรดกโลก (ดับเบิลยูเอชซี) ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ว่า กัมพูชาได้รับเลือกเพราะความรุ่มรวยในสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ตลอดจนสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่ไม่อาจจับต้องได้ โดยมีอยู่หลายอย่างที่ได้รับการจารึกไว้ในรายชื่อมรดกโลก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงโขนและหนังตะลุงกัมพูชา บริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหาร และตัวปราสาทพระวิหาร

 ขณะที่นายจุช เพือง รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวดีพีเอว่า การที่กัมพูชาได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสินมรดกโลกถือเป็นก้าวที่สำคัญ

 "ตอนนี้เราได้นั่งในคณะกรรมาธิการแล้ว เราจะได้มีสิทธิ์มีเสียงบนโต๊ะแล้วก็อยากให้แหล่งอื่นๆ ในเขมรได้รับเลือกเป็นมรดกโลก เพราะมีวัดและมรดกของชาติอีกเป็นจำนวนมากที่มีคุณค่าในระดับสากล และว่าเขมรเป็นเพียงประเทศเล็กๆ แต่ตอนนี้ชื่อของกัมพูชาเป็นที่รู้จักทั่วโลกเพราะความหลากหลายทางวัฒนธรรม แล้วเขมรก็อยากแบ่งปันประสบการณ์ในการปกป้องมรดกโลกกับประเทศอื่น แล้วก็เรียนรู้จากประเทศอื่นเพื่อเสริมความรู้ของตัวเองเช่นกัน