ไลฟ์สไตล์

ทันตกรรมความงามมาแรง Beyond Smile Dental Clinic 

ทันตกรรมความงามมาแรง Beyond Smile Dental Clinic 

25 ก.ย. 2561

ทันตกรรมความงามมาแรง Beyond Smile Dental Clinic ติดท็อปเท็น คลินิคยอดนิยมระดับเอเชียใต้

 

               ปัญหาของคนไทยเรื่อง “ฟัน” ถือเป็นเรื่องใหญ่ และเรื้อรังมานาน คนส่วนใหญ่มักมองข้ามการดูแลสุขภาพช่องปาก และเลือกหาหมอฟันเป็นที่สุดท้าย ทั้งที่ความเป็นจริง เรื่องของ “ฟัน” เป็นเรื่องที่สำคัญพอ ๆ กับ ดวงตา จมูก และปาก ในยุคของเทรนด์ความงามและศัลยกรรมมาแรง Beyond Smile Dental Clinic 1 ใน 10 คลินิคทันตกรรมยอดนิยมระดับเอเชียใต้ เลือกชูกลยุทธ์ “Smile Design ออกแบบรอยยิ้ม” คือการมีรอยยิ้มและฟันที่สวยงาม โดยใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในการจัดฟันแบบ Invisalign วิเคราะห์และออกแบบรอยยิ้มให้กับคนไข้ เพื่อให้มีรอยยิ้มที่สมส่วนและเข้ากับใบหน้า และริมฝีปากของคนไข้ได้มากที่สุด

ทันตกรรมความงามมาแรง Beyond Smile Dental Clinic 

 

              ทพญ.ณัฐวรรณ วงศ์สุขเกษม กรรมการผู้จัดการบริษัท บียอนต์ สไมล์ จำกัด เผยว่า  “ที่ผ่านมาปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสุขภาพช่องปาก มักมองข้ามจุดนี้ไป อาจเป็นเพราะว่าอาการของโรคและความรุนแรงไม่ได้เยอะเหมือนป่วยทางร่างกายอย่างบางคนเป็นโรคหัวใจ ความดันในเลือดสูง มักมีอาการแสดงออกเยอะ และส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวันเยอะเลยทำให้ไม่เห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก บวกกับการขาดความรู้ เหมือนเราไม่ค่อยได้รับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับด้านนี้มากพอ  ว่าสุขภาพช่องปากไม่แข็งแรงจะส่งผลอะไรได้หลายอย่าง อาทิ ถ้าเราปวดฟันแล้วไม่ดูแลจะทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดส่งผลต่อระบบย่อยอาหารในร่างกายตามมา และฟันผุก็ส่งผลถึงโรคหัวใจได้อีกด้วย  แต่ปัจจุบัน  เทรนด์ความงามมาแรง คนไข้มาทำฟันเริ่มไม่ได้มาทำเพื่อการรักษาแล้ว เค้าจะเริ่มมาทำเพื่อความสวยงามมากขึ้น อย่างเมื่อก่อนจะแก้ปัญหาอย่างเดียว ฟันผุเราก็อุด ฟันบิ่นเราก็เติมขึ้นมา แต่ตอนนี้เทรนด์ความงามมาแรงมากไม่ใช่แค่การรักษาอย่างเดียว แต่ต้องใช้งานได้ดี ต้องสวยด้วย 
                  Beyond Smile Dental Clinic ได้ออกแบบกลยุทธ์ให้เข้ากับเทรนด์ความงามในยุคนี้ชื่อ “Smile Design ออกแบบรอยยิ้ม” เป็นการวิเคราะห์และออกแบบรอยยิ้มให้กับคนไข้ เพื่อให้มีรอยยิ้มที่สมส่วนและเข้ากับใบหน้า และริมฝีปากของคนไข้ได้มากที่สุด โดยใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในการจัดฟันแบบ Invisalign ซึ่งมีผลดีมากกว่าการจัดฟันแบบธรรมดา สมัยก่อนจะเน้นการเรียงฟันอย่างเดียวให้สวยงาม อาจจะไม่ได้คำนึงถึงโครงหน้าและรอยยิ้มของคนไข้ว่าควรมีลักษณะอย่างไร ตรงส่วนนี้จะทำให้ Smile Design เข้ามามีบทบาทในการจัดฟัน ปัจจุบันซึ่งเราจะออกแบบรอยยิ้ม ให้เหมาะสมกับโครงหน้าของคนไข้ก่อน ทำให้ทราบว่าลักษณะฟันควรเป็นอย่างไร ตำแหน่งของฟันที่ถูกต้องควรอยู่ตรงไหน แล้วจะนำข้อมูลเหล่านั้นเข้ามาร่วมออกแบบการจัดฟัน เรียงฟันโดยการจัดฟันใสแบบ Invisalign ซึ่งใช้เวลาในการจัดน้อยกว่าปกติประมาณ 1 ปี  สำหรับขั้นตอนของการจัดขั้นแรกตรวจสภาพฟันเบื้องต้น ขั้นต่อมาคุณหมอจะทำการถ่ายรูปรอยยิ้มของคนไข้ในมุมต่าง ๆ และทำการแสกนฟันด้วยเครื่องสแกนดิจิทัล iTero จากนั้นคุณหมอจะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าโปรแกรม เพื่อทำ Smile Design และเมื่อได้รอยยิ้มที่เหมาะสมแล้ว คุณหมอจะนำข้อมูลมาออกแบบตำแหน่งฟันร่วมกับการจัดฟันใสเพื่อให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่เมหาะสมและสร้างรอยยิ้มที่สวยงามรับกับโครงหน้า การจัดฟันใสแบบนี้จะช่วยทำให้ฟันเรียงตัวสวย ปรับรูปหน้า และทำให้คนไข้ยิ้มได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น”

                   ทพญ.ณัฐวรรณ กล่าวต่อว่า “เมื่อก่อนเรามักจัดฟันเป็นแบบเหล็กเวลารับประทานอาหารมักมีเศษอาหารติด แต่เดี๋ยวนี้เทรนด์เปลี่ยนไปกลายเป็นจัดฟันใส ซึ่งการจัดฟันแบบนี้เน้นไปที่ความสวยงามเป็นหลัก ช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน ไม่ต้องพึ่งเครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่นที่ผิวฟันอย่างที่นิยมใช้กันทั่วไป วิธีนี้กำลังมาแรงไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่เป็นที่นิยมทั่วโลก ดารานักแสดงนิยมทำกันมาก เพราะไม่ต้องใช้เหล็กดัด สามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ง่ายต่อการดูแลรักษา เพราะสามารถถอดออกและแปรงฟันได้ตามปกติ จึงทำให้ง่ายต่อไล์ฟสไตล์ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องมือจะหลุดบาดปาก แต่ในการรักษาผู้ใช้ต้องมีระเบียบวินัยถ้าผู้ใช้สวมใส่เครื่องมือประมาณ 20-22 ชั่วโมงต่อวัน และถอดออกเฉพาะเวลารับประทานหรือทำความสะอาดฟัน จะทำให้ฟันเข้าที่ได้เร็วยิ่งขึ้นซึ่งระยะเวลาในการรักษาอย่างเร็วที่สุดคือ 3 เดือนครึ่ง ส่วนช้าสุดไม่มีจำกัด อยู่ที่สภาพของฟันและระเบียบวินัยของผู้ใช้ แต่ข้อเสียของการจัดฟันวิธีนี้คือราคาค่อนข้างสูง และถ้าเกิดปัญหา หรือทำหายต้องทำใหม่เลย ส่วนการจัดฟันผลข้างเคียงที่ผู้รักษาต้องพึงทราบคือการจัดฟันคือการจัดเรียงฟันใหม่เป็นการบังคับฟันให้ไปอยู่ตำแหน่งที่สวย ดังนั้นถ้ามีการขยับก็ต้องมีบ้างที่มีการอ่อนแอลง แต่เมื่อเราทำการรักษาถูกหลัก ให้เวลากับมันและไม่ไปเร่งรีบมากเกินไปก็จะไม่มีผลมากมายซึ่งทั้งนี้ก็ต้องอยู่กับการดูแลรักษาของคนไข้เองด้วย การดูแลแปรงฟันให้ถูกหลัก การรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะไม่แข็งจนเกินไป มาพบหมอตามที่หมอนัด จะช่วยทำให้ไม่มีปัญหาใหญ่ในอนาคต” 
         

           “หลังจากที่เราเปิดตัวการจัดฟันแบบนี้ไปไม่นาน ปรากฎว่ามีกระแสตอบรับมาก 3 ปีที่ผ่านมาถือว่าธุรกิจเติบโตและดีมากขึ้น เราพยายามให้การดูแลบริการคนไข้อย่างดีที่สุดซึ่งธุรกิจนี้เราจะมองแต่ผลกำไรอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องมองในแง่ของการรักษา เน้นการรักษาให้ดีเป็นหลัก เราคิดว่าถ้าเราตั้งใจทำอะไรอย่างหนึ่งเพื่อเขา เราคิดว่าเขาจะรู้สึกได้ว่าเราตั้งใจใส่ใจ ทำให้เขาอย่างสุดความสามารถ ธุรกิจทันตกรรมเราไม่สามารถมองถึงแค่ตัวเงินอย่างเดียวได้ เราต้องมีความมีจรรยาบรรณ มีความหวังดีที่ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไข้ รักษาให้ดีและถูกหลักที่สุด เพื่อให้เขามีการใช้ชีวิตสุขภาพที่ดี ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาทำการรักษาจะเป็นระดับ B+ ถึง A ธุรกิจเติบโตเกิน 50 % โดยเฉพาะในด้านการจัดฟันใส เราถือเป็น 1 ใน 10 ของคลินิคที่มีเคสด้านการจัดฟันใสเยอะที่สุดในเอเชียใต้ ที่ผ่านมานอกจากคนไทย เรามีลูกค้าต่างชาติมาใช้บริการ อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา และทางยุโรป ซึ่งแพทย์ของเราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ พูดได้ สื่อสารให้เข้าใจได้ ทำให้เขารู้สึกไว้ใจเราสื่อสารกับเขารู้เรื่องทำให้เขามาทำต่อเนื่อง และแนะนำต่อ ส่วนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดของเราเน้นโซเชียลเป็นหลัก เรามี Facebook , Website และ IG ตอนนี้กำลังจะทำ Youtube และเราเริ่มใช้นักแสดง นางแบบ ที่มาทำการรักษาจริงช่วยรีวิวให้ ตอนนี้เราก็มีแผนที่จะเตรียมขยายสาขา 2 และตั้งใจจะเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการดูแลรักษาคนไข้ที่มาใช้บริการให้ครอบคลุมการดูแลรักษามากขึ้นอีกด้วย” ทพญ.ณัฐวรรณ กล่าวปิดท้าย
               สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Beyond Smile Dental Clinic upper ชั้น U ศูนย์การค้า the phyll สุขุมวิท 54 Faceook : beyondsmilethailand หรือ โทร 092 421 8484