
อนาคตอายุ80ปียังต้องทำงานเตรียมพร้อมสูงวัยอย่างสมดุล
อนาคตอายุ80ปียังต้องทำงานเตรียมพร้อมสูงวัยอย่างสมดุล : รายงาน โดย... ชุลีพร อร่ามเนตร [email protected]
“ คนในอนาคตอายุยืนมากขึ้น คนอายุ 60 ปี จะไม่ใช่วัยเกษียณอีกแล้ว หลายคนอาจต้องทำงานถึงอายุ 80 ปี” พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล
ปัจจุบันมีจำนวนผู้สูงอายุ 11.2 ล้านคน หรือประมาณ 17.1% และคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีคือ 2565 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 13.6 ล้านคนหรือประมาณ 20.6% ซึ่งถือว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความต้องการด้านโครงการที่พักอาศัยคุณภาพที่สนับสนุนการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี จึงได้ทำโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณริมถนนพหลโยธิน (รังสิต) ปทุมธานี
ซึ่ง "ธนาธิป ศุภประดิษฐ์" บอกว่าเป็นการบูรณาการการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร (อินทิเกรด เฮลท์แคร์) ทั้งอาคารที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้สูงอายุยุคใหม่ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือลูกหลานที่ซื้อให้พ่อแม่ รวมถึงกลุ่มคนวัยทำงานที่มองสถานที่สำหรับตัวเองในอนาคต เป็นเมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ สร้างขึ้นเพื่อผู้สูงอายุและครอบครัว
ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่อยู่ที่นี่จะมีริสต์แบนด์ให้ใส่ เป็นการดูข้อมูลของแต่ละคน เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะคนสูงวัยบางทีมีเดินหลงทาง อยู่ในห้องน้ำนานเกินครึ่งชั่วโมง บางครั้งเดินๆ อยู่หกล้ม จะได้ส่งคนไปช่วยเหลือได้ทัน หรือแม้แต่เวลามารับประทานอาหารที่ร้านอาหารจะรู้ว่าเขามีน้ำตาลในร่างกายมากเกินไป หรือมีไขมันมากเกินไป จะจัดอาหารที่เหมาะสมได้
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการแพทย์ เล่าว่า การดูแลสุขภาพต้องเป็นไปทั้งทางกาย จิตใจ และอารมณ์ โดยเฉพาะด้านจิตใจซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะถ้าจิตใจเข้มแข็ง มีความพร้อม สมดุลทั้งกาย จิตใจ และอารมณ์ ทำให้สุขภาพการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ ดีตามไปด้วย
ซึ่งโครงการที่จะช่วยดูแลสุขภาพแบบบูรณาการไม่ใช่เน้นการรักษาพยาบาลอย่างเดียว แต่จะช่วยสร้างสมดุลชีวิตทุกมิติของผู้สูงอายุและครอบครัวผ่านบริการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย การใช้ธรรมชาติบำบัด การดูแลเยียวยาจิตใจที่ถูกออกแบบให้เข้าถึงความต้องการเฉพาะบุคคล ภายใต้แนวคิด Trinity Management การจัดการและสร้างความสมดุลของกาย จิตใจและอารมณ์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการดำเนินชีวิตของทุกคน
“วัยทอง”ความมั่นคงชีวิต
วัยเกษียณ ไม่ใช่วัยแห่งความแก่ชรา เช่นเดียวกัน วัยทองก็ไม่ใช่วัยแห่งการร่วงโรย แต่หมายถึงวัยแห่งความมั่นคงของรากฐานชีวิตในทุกด้าน ทั้งด้านการเงิน ความคิด จิตใจ ครอบครัว และสุขภาพที่ต้องดูแลอย่างดีให้พร้อมใช้ชีวิตอย่างอิสระ สนุกสนาน และมีความสุขอีกครั้ง
ผู้สูงอายุ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ได้เตรียมพร้อมในการรับมือกับภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้น แนวคิดของการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ เป็นการผสมผสานศาสตร์ทุกศาสตร์ในการดูแลชีวิตเข้าด้วยกัน และคนในอนาคตอายุยืนมากขึ้น คนอายุ 60 ปี จะไม่ใช่วัยเกษียณอีกแล้ว หลายคนอาจต้องทำงานถึงอายุ 80 ปี
ดังนั้น การเตรียมความพร้อมเพื่อให้ผู้สูงวัยใช้ชีวิตอย่างมีความสมดุลตามต้นทุน ตัวตนของแต่ละคน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก และไม่ใช่การดูแลแบบแยกส่วน แต่ต้องดูแลทั้งกาย ใจ และอารมณ์ อาทิ รูปแบบการแก้ไขปัญหาสุขภาพตามธาตุ อันประกอบด้วย ธาตุดิน คนที่เกิดเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม คือ กาย เนื้อ อวัยวะที่จับต้องได้ ต้องงดอาหารหวาน มัน เค็ม
ธาตุน้ำ คนเกิดเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน คือของเหลวในร่างกาย 12 ชนิด ซึ่งน้ำถือเป็นเคล็ดลับความอ่อนวัยของมนุษย์ ต้องใช้รสเปรี้ยว จิบน้ำมะนาวอุ่น เป็นต้น, ธาตุลม คนเกิดเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม คือลมและแรงดันในร่างกาย รวมไปถึงสภาวะอารมณ์ของมนุษย์ ต้องรับประทานอาหารไทย เครื่องเทศต่างๆ ช่วยลดลมในร่างกาย และธาตุไฟ คนเกิดเดือนธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ คือ จิตสำนึกรู้ จะนอนไม่หลับ ต้องรับประทานรสขม เย็น งดหวาน เช่น มะระ ฟักแฟง เป็นต้น สร้างสมดุลอาหารปรับชีวิต
คลินิกสุขภาพครบวงจร
หลักการดูแลของ Jin Wellness Center ประกอบด้วยคลินิกสุขภาพที่ผสานหลักการแพทย์เข้ากับไลฟ์สไตล์ โดยจะมีบริการ Lab Check-Up เพื่อตรวจสุขภาพของผู้สูงวัยก่อนเข้าพักอาศัย รวมถึงการถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อนำเป็นข้อมูลพื้นฐานสุขภาวะอย่างละเอียด ก่อนจะนำไปวินิจฉัยและวางแผนการดูแลรักษาให้เหมาะสมกับพันธุกรรมและการใช้ชีวิตของคนนั้นๆ และยังมีบริการทางการแพทย์อีกมากมาย อาทิ บริการให้สารอาหารทางหลอดเลือด, บริการล้างสารพิษ ขจัดโลหะหนัก, บริการให้คำปรึกษาโดยนักกำหนดอาหารวิชาชีพ, บริการจัดอาหารตามสภาวะของร่างกายเพื่อความสมดุล, บริการออกแบบการใช้ชีวิต, บริการฝังเข็ม, โฮมีโอพาธีย์ เป็นต้น
ดูแลกาย จิตใจ อารมณ์
นอกจากนั้น การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ต้องมีสถานที่ออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย ด้วยแพทย์ นักกายภาพบำบัด และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อดูแลการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับแต่ละข้อจำกัดของผู้สูงวัย มีร้านอาหารเพื่อสุขภาพให้ความสำคัญด้านการวางแผนโภชนาการเหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อให้ผู้ป่วย ผู้ดูแลและผู้รักสุขภาพสามารถปรุงอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการได้ด้วยตัวเอง
รวมถึง มีกิจกรรมตอบสนองสร้างความผ่อนคลาย ความสมดุลทางจิตใจและอารมณ์ อย่าง สปาเพื่อสุขภาพ ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เฉพาะด้านความงาม แต่ยังมุ่งปรนนิบัติเพื่อบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพ ด้วยบริการการนวดที่หลากหลาย อาทิ นวดเพรสเซล, นวดระบายน้ำเหลือง หรือพื้นที่เปรียบเสมือนศูนย์รวมแห่งการสร้างสมดุลทางจิตใจและอารมณ์ พร้อมด้วยคลาสกิจกรรมมากมายที่มุ่งใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการบำบัดผู้สูงวัย อาทิ การฝึกสมาธิ, อัตตชีวประวัติบำบัด, ศิลปะบำบัด, ดนตรีบำบัด และจินตลีลาบำบัด ฯลฯ
“ความสมบูรณ์ของชีวิตต้องดูแลทั้ง กาย ใจ และอารมณ์ ซึ่งต้องไม่แยกส่วนออกจากกัน แต่ขณะนี้การดูแลสุขภาพไม่ว่าจะช่วงวัยใด ยิ่งผู้สูงอายุจะดูแลในส่วนของร่างกายเป็นหลัก ทั้งที่จิตใจมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างความเข้มแข็ง ให้พร้อมในการรับมือ เรียนรู้สิ่งใหม่ ซึ่งผู้สูงอายุและทุกคนสามารถเริ่มทำดูแลสุขภาพได้ด้วยตนเอง คือ การฝึกกาย จิตใจ คิดบวก มีอารมณ์ที่แจ่มใส ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบพื้นฐานในชีวิตของตนเองให้ได้" พญ.กอบกาญจน์ กล่าวทิ้งท้าย