หรือ 190E ที่คนไทยเรียกกันติดปาก หนึ่งในรถที่ยังคงความนิยม (มีคลิปข่าว)
Mercedes-Benz หนึ่งในรถจากทางเยอรมันที่คงอยู่กับวงการยานยนต์บ้านเรามาหลายทศวรรษ และหนึ่งรุ่นที่ขายดีในไทยยุคนั้น วันนี้ คมชัดลึก ขอนำมาให้ท่านผู้อ่านผู้ชมได้มารู้จักกันอีกครั้ง พร้อมกับกระแสของความนิยมที่ไม่เสื่อมถอย
ในช่วงต้นของยุค 90 บ้านเราจะมีรถ Mercedes-Benz รุ่นนึงที่สร้างประวัติศาสตร์การขายดีที่สุดรุ่นนึงคือ W201 หรือ Mercedes-Benz 190E ที่คนไทยเรียกติดปากกัน กับขนาดตัวที่เรียกว่าเล็กสุดของเบนซ์ที่ยุคนั้นผลิตเลยก็ว่าได้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ทาง "เล่าเรื่องรถกับคมชัดลึก” ได้รับเกียรติจาก 190E Club Thailand มาร่วมกันย้อนรำลึกถึงรถ Mercedes-Benz 190E รุ่นนี้มาเล่าให้ฟังกันเป็นตอนแรก
ตอนนี้ขอเล่าเรื่องการวางเครื่องยนต์ใน W201 กันก่อนเลยนะครับ วันนี้นำรถมาให้ชมกันถึงสามคัน แต่ละคันแตกต่างกันสิ้นเชิง ขอย้อนก่อนว่ารถ W201 ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเราเริ่มต้นที่เครื่องยนต์ขนาด 1.8 หรือ 1,797 cc กับแรงม้าเพียง ร้อยเก้าตัวเท่านั้น มาพร้อมน้ำหนักตัวถึงตันสาม จะเรียกคันเร่งแต่ละทีในสมัยนั้นต้องอาศัยใจร่มๆ แต่พอลากยาวก็สามารถทำความเร็วลอยตัวพอได้ แต่พอถึงยุคปัจจุบันนี้ถ้ายังคงสภาพเครื่องยนต์เดิมๆ คงไม่พ้นโดนรถอีโคคาร์บีบแตรทักทายไล่ก้นเป็นแน่
EP.1 นี้ขอเล่าเรื่องการวางเครื่องยนต์ใหม่ จากอายุรถที่ปาจะเข้าเลขสี่แล้ว และรถก็เริ่มเปลี่ยนมือจากมือหนึ่งมาสู่มือที่เท่าไรเข้าไปแล้ว รถจึงจำเป็นต้องหาหัวใจใหม่เพื่อตอบสนองการเดินทางและความประหยัดที่อาจจะต้องมองคู่กัน คันแรกที่เล่ามากับเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร 6สูบ รหัสเครื่องยนต์ M104 ที่วางอยู่ใน E-Class W210 หรือเจ้าตากลมตัวแรก ที่ทางคุณเน ผู้เป็นเจ้าของนำมาวางแทนเครื่องยนต์ตัวเก่าที่ชราตามวัย และพกม้ายุโรปถึง 231 ตัว ที่ 5,5oo รอบเท่านั้น พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 310 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
ซึ่งสามารถดูได้จากทางคลิปที่เราได้ร่วมไปนั่งมาให้ชมพร้อมกันจะเห็นถึงการตอบสนองทุกครั้งที่กดคันเร่งลงไป ก็ทำให้รถที่อายุกว่า30 ปี วิ่งทยานราวกับรถในยุคนี้เลย และด้วยที่ว่าเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ลงไปต่อเนื่องอีกยุครถคุณเนจึงได้อุปกรณ์เบรคอย่าง ABS มาพร้อมชุดเบรคมาลงในรถคันนี้ครบทั้งหมด จึงเป็นรถที่ให้ความแรงและความปลอดภัยมาครบกันโดยไม่ต้องไปหามาใส่เพิ่ม ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารขึ้นชื่อว่าเบนซ์
ย่อมมากับความหรูหราตามและการวางตำแหน่งสวิตซ์ควบคุมกระจกไฟฟ้าทั้งสี่บานอาจจะแปลกสักหน่อยเพราะย้ายมาอยู่ที่คอนโซลกลางบริเวณฐานคันเกียร์ แตกต่างจะยี่ห้ออื่นไปบ้าง
มาต่อกับคันที่สอง ที่คันนี้ถือแวกแนวตามยุคสมัยปัจจุบันเพราะ คุณโบ๊ตนำเจ้า 190E คันเก่งของตัวเองมาลงเครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ ที่ถือว่าหาของเก่งมาก คือ เครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ตรงรุ่นกับของ W201 คันนี้อีกด้วย ชื่อรุ่นจะเป็น 190 D 2.5 TURBO เป็นแบบ 5 สูบ ที่ให้แรงม้าอยู่ที่ 122 ตัว และสามารถทำความเร็วได้ถึง 192 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และด้วยที่เป็นรถเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้มีทั้งความแรงและความประหยัดมาเป็นของแถมจากคำบอกเล่าของ คุณโบ๊ต และการที่ได้ร่วมไปลองนั่ง ก็พบว่ารถคันนี้กลับตอบสนองคันเร่งได้ดีและจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่วิ่งได้ดีมากเกินกว่าที่คิดไว้ สร้างความแปลกใจกับผู้ร่วมนั่งอีกสองท่าน แน่นอนถ้าดูคลิปจบจะเห็นถึงความแปลกใจที่เครื่องยนต์ตัวนี้ทำได้ และยิ่งรู้ว่าทำไม คุณโบ๊ต จากที่ไม่เคยสนใจ 190e เลยแต่แรก แต่กลับไม่สามารถที่จะทิ้งรถคันนี้ไปได้เพราะอะไร? ชมคลิปให้จบจะมีคำตอบที่ฟังแล้วขนลุก!!
และคันสุดท้ายของ EP.1 เป็นรถของคุณตี้ หนึ่งในนักแข่งรถสายจิมคาน่าและเซอร์กิต ที่พึ่งหาเจ้า 190E มาครอบครองได้เพียงหนึ่งปี แต่รถคันนี้ผิดแผกจากทั้งสองคันแรกเพราะเลือกที่จะใช้หัวใจฝั่งค่ายแดนปลาดิบแทน โดยใช้เครื่องยนต์ 1JZ GE จากค่ายโตโยต้ามาลงกับ 2.5 L 6 สูบ 200 แรงม้าที่ 6,000 รอบ แรงบิดที่ 251 นิวตันเมตร แต่จากคำบอกเล่า เครื่องยนต์คันนี้ลงมาจากเจ้าของก่อนหน้านี้แล้ว และคันนี้มีความพิเศษหลายอย่างที่ทำให้ คุณตี้ ตัดสินใจซื้อมาเก็บไว้ครอบครองอย่างง่ายดาย เริ่มที่ภายในที่เป็นหนังสีดำสลับลายผ้า เบาะ Recaro ทั้งคู่หน้าและหลัง ที่โอบกระชับไม่แปลกใจสาเหตุที่มีคนครอบครองคันนี้มาเกือบจะสิบมือเข้าไปแล้วครับ
และที่ลืมไม่ได้เพราะเครื่องยนต์มีการปรับเปลี่ยนให้แรงขึ้น ระบบช่วงล่างหน้ามากับปีกนกอิสระกับโช็คบิลสไตน์ สปริงโหลด H&R ช่วงล่างหลังของ 190E เป็นแบบมัลติลิงค์ 5 จุด และเอกลักษณ์นี้ทำให้รถรุ่นนี้ก็ไม่แพ้รุ่นพี่ที่ให้ความนุ่มนวลดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้ดีสักเกตุได้ทั้ง 3 คัน ที่เราไปลองนั่งและมีให้ชมจะเห็นเลยว่ารถมีความนุ่มและการเก็บเสียงที่ดี แต่จากอายุและการดูแลก็จะมีบ้างที่บางคันจะมีเสียงของเครื่องยนต์หลุดรอดเข้ามาให้ได้ยินครับ
สรุปรถ Mercedes-Benz คือหนึ่งในรถที่หลายๆ คนตอนนี้คงมองดู ยิ่งราคาเมื่อ 30 ปีที่แล้วสูงถึง 1 ล้าน 2 แสนบาท แต่ปัจจุบันราคาลงมาถูกกว่ารถอีโคคาร์เข้าไปแล้ว และการมีโลโก้ดาวสามแฉกอยู่ฝากระโปรงหน้า ก็ทำให้ลังเลได้ไม่ยากยิ่งมีกลุ่มผู้ใช้ให้ปรึกษากัน ก็ทำให้ 190e เป็นรถที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากจะมีเบนซ์ในหัวใจมาครอบครองอีกหนึ่งรุ่น ตอนหน้าจะมาพบกับเครื่องยนต์เดิมของ Mercedes-Benz 190E หรือ w201 ครบทุกรุ่นที่เข้ามาขายในประเทศไทย
เรื่อง : ธวัชชัย พิชิตรณชัย
E-mail : [email protected]
facebook : https://www.facebook.com/LoaReuangRot/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง