
คนดังร่วมอัพเดทเทรนด์แห่งศตวรรษที่ 21
เหลักสูตรการสร้างบุคลากรที่มีทักษะตอบโจทย์การทำงานในอนาคต และการพัฒนาผู้ประกอบการแห่งยุคดิจิทัล
การปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุค 4.0-5.0 และอิทธิพลของเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโลกส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทุกภาคส่วนและเศรษฐกิจโดยรวม โลกหลังการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ต้องการทรัพยากรมนุษย์ที่มี
คุณสมบัติเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ DPU นำโดย “ดา” ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย และพันธมิตร เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทักษะมนุษย์ผนวกการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเรียนและการทำงานของนักศึกษาและบุคคลทั่วไป จึงได้ก่อตั้งหลักสูตร “DPU X : Craft Your Future หรือสถาบันเพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการและบุคลากรแห่งอนาคต” ขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างบุคลากรที่มีทักษะตอบโจทย์การทำงานในอนาคตซึ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ รวมถึงการพัฒนาผู้ประกอบการแห่งยุคดิจิทัล ให้สามารถต่อยอดการดำเนินธุรกิจให้เติบโตในยุคที่ต้องพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
อุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ
งานนี้ได้รับความสนใจจากบรรดานักธุรกิจและเหล่าเซเลบริตี้ให้ความสนใจร่วมอัพเดทเทรนด์เพื่อพัฒนาตนเองกันอย่างคับคั่ง อาทิ “คุณโก้” ม.ล.รังษิธร ภาณุพันธุ์, “เต้” ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก, “โบว์” ณชา จึงกานต์กุล, “เล็ก” กรกนก ยงสกุล, “ยูกิ” อุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ, “ไก่อู” กุลสิรี อรรถจินดา, “มิ้งค์” ณัฏฐิ์ประภา-“มิค” ณัฏฐกรม์ ชุณหะวัณ เป็นต้น ซึ่ง “โบว์” ณชา นักธุรกิจผู้ปั้นแบรนด์ “คันนา” จนโด่งดังถึงต่างแดน กล่าวว่า ในโลกอนาคตที่เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางและความอยู่รอดของธุรกิจ ในฐานะผู้นำองค์กร การปรับตัว ผนวกและประยุกต์เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริการลูกค้านับเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และภาพจำที่ดีต่อแบรนด์ ยิ่งไปกว่านั้น การบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าที่ตรงจุดจะช่วยทำให้แบรนด์ขนมเพื่อสุขภาพ “คันนา” นำเสนอสินค้าที่ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง นับเป็นหน้าที่ของแบรนด์ที่ต้องเข้าใจและรู้จักลูกค้าเพื่อสร้าง Brand Love และ Customer Loyalty ในระยะยาว นี่จึงถือเป็นพันธกิจของบริษัทโดยตรงในการแข่งขันกับตัวเองเพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในยุคดิจิทัลนี้
ณัฏฐกรม์-ณัฏฐิ์ประภา ชุณหะวัณ
สรวิศ ชัยโรจน์
ขณะที่ สรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ผลักดันเอสเอ็มอีรุ่นใหม่แบรนด์โทฟุซัง อย่างสร้างสรรค์พร้อมกลยุทธ์การตลาดครบด้านจนแบรนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดด เผยว่า บริษัทตั้งขึ้นมาได้ 6 ปี จากคน 3 คน ด้วยเงินลงทุน 5 แสนบาท ลองผิดลองถูกจนกระทั้งวันนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ปัจจุบันมีพนักงาน 150 คน ทำให้ตอนนี้เราเป็นผู้ผลิตนมถั่วเหลืองพาสเจอร์ไรส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และปีนี้จะมีโปรดักท์ใหม่ๆ ออกมา ซึ่งการทำธุรกิจเราฟังตัวเองว่าอยากทำอะไร แต่ขณะเดียวกันเราต้องฟังลูกค้าด้วยว่าอยากได้อะไรด้วย แล้วนำมาพัฒนาต่อ
บรรยากาศในงาน
“นโยบายของเราคือไม่โฆษณา จะเห็นได้ว่าสินค้าทุกอย่างจะบอกว่าของตัวเองอร่อย ของตัวเองดี แต่จะบอกอย่างไรว่าของเราอร่อยที่สุด วิธีการของเราคือการทำสินค้าของเราให้ดีที่สุด เราต้องการมีส่วนร่วมกับชีวิตของลูกค้า ซึ่งในส่วนของเทคโนโลยีการสื่อสารก็จะทำให้เราสามารถที่จะเป็นตัวของเราผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้คนมาค้นพบเรา ตัวตนของเรา ไลฟ์สไตล์ของเรา ซึ่งเคล็ดลับความสำเร็จนั่นก็คือการที่เราเป็นตัวของเราเอง” สรวิศ เผย