
ครอบครัวธรรมะสัญจร ศธ.ฉบับ"ดูจิต"พระอาจารย์ธัมมทีโป
"การที่เราปฏิบัติแล้ว ภายในจะแจ่มแจ้งได้ด้วยตัวของมันเอง ไม่ใช่ "เรา" ไปแจ่มแจ้ง อารมณ์ปรุงแต่งดี-ไม่ดี ถูก-ผิด น้อยใจ-เสียใจ เมื่อมี "เรา" ไปยึดมั่น ว่าอันนี้ถูก อันนี้ผิด อันนี้ไม่ดี จิตภายในจึงเศร้าหมอง แท้ที่จริงแล้ว มันเกิดมา
เดี๋ยวมันก็ดับไปเป็นธรรมดา เพราะอะไร เพราะว่าไม่มี "เรา" เป็นผู้ไปหมายมั่น ดีก็ไม่ใช่ ไม่ดีก็ไม่ใช่ มีแต่ความรู้สึกภายใน ไม่หมายมั่น มัชฌิมาปฏิปทาจึงเกิดขึ้น คือไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป นี่เป็นทางสายกลางของพระพุทธองค์"
เสียงธรรมเทศนาออกมาจากเรียวปากของ พระอาจารย์ธัมมทีโป พระอาจารย์ใหญ่ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติบ้านวังเมือง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนเกือบ 100 ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ
เสียงฝนโปรยปรายลงมา สลับกับเสียงรสพระธรรมยังความชุมช่ำใจให้แก่บรรดาข้าราชการน้อยใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับอานิสงส์เข้าร่วม "โครงการครอบครัวธรรมะสัญจร" ระหว่างวันที่ 8-12 ตุลาคม 2552 ที่ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ กระทรวงศึกษาธิการ (ภาคเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย)
"หงายมือบนหน้าตักและมืออีกข้างใช้สองนิ้วแตะที่กลางทรวงอกบริเวณลิ้นปี่ ผ่อนลมหายใจเบาๆ นิ่งสักครู่ จะรู้สึกชีพจรเต้นตึบๆ วึบๆ (เกิด-ดับ) ให้สังเกตความรู้สึกตรงนี้ไว้ จากจิต รู้สึกไปที่มือทั้งสองข้าง ค่อยๆ ยกมือขึ้น ระยะห่างกันเล็กน้อย นิ่งสังเกตความรู้สึก จากนั้นขยับมือเข้าออกช้าๆ จะรู้สึกเหมือนแม่เหล็ก เหมือนแรงดึงดูด จากจิตน้อมบุญกุศลแผ่เมตตาไปพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ญาติสนิท มิตรที่รัก แผ่เมตตาให้ในหลวงของพวกเรา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ บรรพบุรุษผู้รักษาผืนแผ่นดินนี้ไว้ ผู้มีพระคุณทุกท่าน เทวดาทั้งสิบทิศ เจ้ากรรมนายเวร สัตว์นรก เปรต อสุรกาย ฯลฯ ขอให้มีความสุข ขอให้พบความสุขที่แท้จริงในปัจจุบันชาตินี้เทอญ" พระอาจารย์ธัมมทีโป ธรรมเทศนาวิรการ "ดูจิต"
พระอาจารย์ธัมมทีโป เล่าว่า วิธีการ "ดูจิต" ตามแนวทางมหาสติปัฏฐานสี่ อริยมรรคมีองค์แปด นี้ ได้ผ่านการศึกษาค้นคว้าวิจัยมีงานวิทยานิพนธ์มารองรับ อาตมาแสดงธรรมตามแนวทางมหาสติปัฏฐานสี่ อริยมรรคมีองค์แปด มาแล้วร่วมสิบปี พบว่าจิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมาให้ อยากให้คนไทยทุกคนมีความสุขสงบอย่างแท้จริง
"ดูจิต" แบบฉบับของพระอาจารย์ธัมมทีโป ผู้ปฏิบัติได้ผลหรือไม่ "สุชฎา จันทรวงศ์" พนักงานฝ่ายวินัยข้าราชการ บอกว่า ก่อนมาค่อนข้างมีความเครียดกับการทำงาน ที่มาปฏิบัติธรรมะในครั้งนี้เพราะหวังว่าจะได้นำวิธีการที่หลวงพ่อสอนมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ และคิดว่าวิธีที่หลวงพ่อสอนสามารถนำมาใช้ปฏิบัติได้จริงในชีวิตการทำงาน
ไม่ต่างจาก "อนันต์ ศันสนียกุลวิไล" ที่บอกว่าเคยมาฝึกธรรมะมาหลายครั้งแล้ว แต่การฝึกธรรมะดูจิตกับหลวงพ่อ ได้ทั้งความรู้ทางโลกและทางธรรม ได้ทักษะในการดำเนินชีวิต เมื่อนำมาปฏิบัติแล้วทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น
"ผลจากการมาฝึกทำให้ผมใจเย็นขึ้นมากๆ โดยแต่ก่อนผมเป็นคนที่ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีอยู่จริง สงสัยในหลักคำสอน แต่เมื่อมาปฏิบัติธรรมตามคำสอนของหลวงพ่อ ผมก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าพระพุทธเจ้ามีอยู่จริงและผมสามารถสัมผัสได้ด้วยการดูจิต อีกทั้งวิธีการสอนของหลวงพ่อแตกต่างจากพระรูปอื่นๆ คำสอนของหลวงพ่อมีวิธีการตรัสรู้" คุณอนันต์ เล่าด้วยรอยยิ้ม
กระนั้น "ครอบครัวธรรมสัญจร" คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มี "จรรยา ชวนานนท์" ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้เป็นเจ้าของโครงการ และหัวเรือใหญ่นำผู้ใต้บังคับบัญชาเกือบร้อยชีวิตมีโอกาสได้ลิ้มรสพระธรรมท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ การต้อนรับที่แสนอบอุ่น จนเกิด "กองทัพธรรม" ขนาดย่อมๆ ขึ้น
"ดิฉันอยากให้ข้าราชการทำงานไม่เครียด อยากให้พวกเขาแต่มีความสุข มีสมาธิในการทำงาน ก็จะส่งผลดีถึงครอบครัวเป็นสุข บ้านเมืองก็สงบร่วมเย็นไปด้วย" ผอ.จรรยา กล่าวทิ้งท้าย
อนึ่งโครงการครอบครัวธรรมะสัญจร จัดโดยศูนย์บริการประชาชน กระทรวงศึกษาธิการ ผู้สนใจเข้าร่วมปฏิบัติธรรมได้ที่ห้องประชุมเสมารักษ์ อาคารเสมารักษ์ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นประจำทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-14.00 น. และวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 และที่ 3 ของทุกเดือน เวลา 09.30-15.00 น. ดูรายละเอียดได้ที่ www.thammatipo.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-2628-6346 และ สายด่วน 1579
0 กัณฐมณี ใบเงิน 0 รายงาน
ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)