
46 ปี "ยัสปาล" แบรนด์ไทยบนรันเวย์โลก
จับมือ "คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์" สร้างสรรค์คอลเลกชั่นพิเศษ
ด้วยความเชื่อ “แฟชั่นมีชีวิต ไม่มีวันหยุดนิ่ง ไม่มีที่สิ้นสุด และไร้รูปแบบ” เป็นแรงขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มาประดับวงการแฟชั่นโลก เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้น การแข่งขันก็รุนแรงและรวดเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ หลายแบรนด์ถอดใจไปกลางทาง แต่หนึ่งแบรนด์สัญชาติไทย อย่าง “Jaspal“ (ยัสปาล) ยังคงฝ่าฟันจนสามารถยืนหยัดเคียงคู่ความสำเร็จยาวนานถึง 46 ปี ด้วยเพราะไม่เคยหยุดรีเฟรชตัวเองให้ทันเทรนด์โลกเสมอ จนปัจจุบันเป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นโลกอย่างน่าภูมิใจ โดยล่าสุดขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ร่วม "คอลลาบอเรชั่น" กับดีไซเนอร์ระดับโกลเบิล “คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์" สร้างสรรค์คอลเลกชั่นสุดพิเศษแห่งปี ภายใต้ชื่อ “คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ฟอร์ ยัสปาล" เอาใจแฟชั่นนิสต้าผสานกับความชิคสไตล์ใหม่ ตอบโจทย์เออร์เบิร์นไลฟ์สไตล์แบบตรงใจ
หากย้อนเวลาไปสู่จุดเริ่มต้นของ บริษัท ยัสปาล จำกัด อายุยาวนานถึง 4 ชั่วอายุคน เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2490 โดย ยัสปาล ซิงค์ ชาวอินเดียเดินทางเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำมาหากินด้วยความมุ่งมั่นอดทนจนสามารถตั้งรกรากและสร้างครอบครัวเป็นปึกแผ่นและเจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินไทย และด้วยความช่างสังเกตและหัวการค้าทำให้ติดต่อค้าขายผ้าขนหนูจากอเมริกามาในประเทศไทย นำเข้าแบรนด์ที่ชาวอเมริกันนิยมเข้ามาจำหน่าย ต่อมาขยายไปเป็นสินค้าเครื่องนอน จนมีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง ภายใต้แบรนด์ Santas (แซนตาส) และขยายมาสู่แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น Jaspal (ยัสปาล) และอื่นๆ อีกมากมาย
วิเศษ สิงห์สัจจเทศ
ทั้งนี้ วิเศษ สิงห์สัจจเทศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัสปาล จำกัด ในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 อธิบายถึงกลยุทธ์หลักของแบรนด์ว่า ตลอดเวลา 45 ปีที่ผ่านมา ยัสปาลไม่เคยหยุดพัฒนา โดยจะต้องลุกขึ้นมารีเฟรชตัวเองตลอดเวลาและเปิดใจพร้อมรับไลฟ์สไตล์ใหม่ของโลกเสมอ แม้จะเป็นแบรนด์สัญชาติไทย แต่กล้าหาญและมุ่งมั่นปักธงบริหารด้วยกลยุทธ์หลักที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น คือ การทำงานบนมาตรฐานโกลเบิล โดย ยัสปาล เป็นแบรนด์ไทย แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ได้นำดารานักแสดง และนายแบบ นางแบบชั้นนำระดับโลกมาใช้ในแคมเปญโฆษณาของแต่ละซีซั่น และในอนาคต ยัสปาล เตรียมวางแผนที่จะนำโกลเบิลเซเลบริตี้มาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนการขยายตัวยัสปาลในอนาคต ก็พยายามจะผลักดันให้เป็นโกลเบิลแบรนด์ให้ได้ โดยการขยายสาขาในประเทศที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ หรือฮ่องกง