ไลฟ์สไตล์

ขนมลูกชุบแบรนด์"สุพัตรา"ฝีมือคนไทยส่งขายต่างแดน

ขนมลูกชุบแบรนด์"สุพัตรา"ฝีมือคนไทยส่งขายต่างแดน

10 ต.ค. 2552

แม้ครั้งหนึ่ง ชีวิตของ สุระ สูทกวาทิน กรรมการผู้จัดการบริษัท รัสมิ์ศรัณย์ จำกัด และประธานชมรมเอสเอ็มอีไทยภูมิปัญญาไทย จะล้มลุกคุกคลานอยู่หลายอาชีพ แต่หลังจากหันมาจับกิจการทำขนมลูกชุบ และขนมไทยภายใต้เครื่องหมายการ "ขนมไทย สุพัตรา" ทำให้กิจการรุ่งเรือง ถึ

 สุระ เล่าถึงที่มาก่อนจะทำขนมไทยขายว่า เดิมทีเป็นพนักงานธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง แต่ลาออกมาจับอาชีพรับเหมาก่อสร้างมูลค่านับสิบล้าน แต่ด้วยการบริหารแบบก้าวกระโดด ทำให้ผิดพลาดในการบริหารด้านการเงิน จึงต้องเลิกกิจการ และเข้ามาสู่วงการค้าเพชรค้าพลอย ไอศกรีม กระทั่งเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในยุคเศรษฐกิจฟองสบู่แตกในปี 2540 กิจการสะดุดลง แล้วมานั่งทบทวนใหม่ว่า จากนี้ไปควรจะทำอะไรต่อไป

 "ภรรยาผมคือคุณสุพัตรา ซึ่งเป็นแม่บ้าน ชอบทำขนม โดยเฉพาะขนมลูกชุบ รสชาติอร่อย บางครั้งมีคนมาสั่งเพื่อไปจัดงานเลี้ยงต่างๆ ผมปรึกษาว่า ควรจะทำขนมลูกชุบขายเป็นกิจจะลักษณะ โดยให้ภรรยาเป็นคนทำ ผมจะทำการตลาด แต่ตอนนั้นยังมองหาลู่ทางการตลาดไม่ออกว่าจะทำในรูปแบบใด ในที่สุดผมกับภรรยาไปสำรวจตลาด เดินตั้งแต่ปากทางลาดพร้าวยันบางกะปิ บางแห่งผมต้องยืนนาน 1-2 ชั่วโมง เพื่อสังเกตว่าในแต่ละจุดจะมีคนเดินมากน้อยแค่ไหน วันหลังก็ไปเดินจากสี่แยกราชประสงค์จนถึงถนนวิทยุ เลยคิดว่าต้องหาเงินซื้อตรงไหนสักแห่ง เพื่อเป็นร้านจำหน่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง จึงหยุดคิดไปก่อน" สุระ กล่าว

 ประธานชมรมเอสเอ็มอีไทยภูมิปัญญาไทย บอกอีกว่า ในที่สุดก็ใช้นโยบายแบบธนาคารที่เคยมีประสบการณ์คือ ทำขายโดยไม่ต้องใช้สถานที่ จากนั้นได้ทำขนมลูกชุบ 500 เม็ด หรือ 500 ลูก บรรจุกล่อง 50 กล่อง ติดฉลากยี่ห้อสุพัตรา พร้อมเบอร์โทรศัพท์ เดินแจกตามออฟฟิศย่านถนนสีลม สาทร ตั้งแต่เวลา 08.00-09.00 น. กระทั่งเวลา 10.00 น. มีคนโทรศัพท์ถามรายละเอีอดนับสิบๆ ราย เกี่ยวกับการสั่งซื้อ จึงสรุปว่า ต่อไปจะทำขนมลูกชุบไปส่งตามออเดอร์ที่เข้ามา แต่มีเงื่อนไขว่า แต่ละจุดต้องสั่ง 50 ลูกขึ้นไป ในราคา 90 บาท เริ่มจากแรกๆ วันละ 500 ลูก ขยายมาเป็น 1,000 ลูก ขายไม่ถึง 2 เดือน มีออเดอร์เข้ามาวันละ 2,000 ลูก และเพิ่มทุกเดือนจนถึง 2 หมื่นลูก และมีการส่งขายในต่างประเทศด้วย อาทิ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เป็นต้น

 ตอนหลัง สุระ ยอมรับว่า แม้ขนมลูกชุบสุพัตราจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่ระยะหลังคู่แข่งเริ่มมากขึ้นด้วย จนปี 2546 ได้จดทะเบียนบริษัท ขนมไทย สุพัฒรา จำกัด ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 95/1 แขวงบางจาก กรุงเทพฯ พร้อมกับทำขนมไทยอย่างอื่นอีกหลายอย่าง แต่ยังเน้นที่ขนมลูกชุบ จนปัจจุบัน แม้ยอดขนมลูกชุบจะน้อยลงบ้างเหลือวันละ 7,000-8,000 ลูก แต่มีขนมไทยอย่างอื่น อาทิ ตะโก้ วุ้นมะพร้าว ขนมชั้น ขนมกล้วย ฟักทอง และอื่นๆ อีกรวม 18 ชนิด พร้อมขยายรูปแบบของตลาด จากเดิมขายส่งตามที่ลูกค้าสั่ง หันมาวางสินค้าตามห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัลลาดพร้าว ชิดลม บางนา ห้างสรรพสินเอ็มพีเรียล สยามพารากอน นอกจากนี้ยังออกบูธในงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศจีน  ลาว และมาเลเซีย  

 สุระ บอกอีกว่า ตอนนี้ยอดขายจริงจะเป็นขนมลูกชุบกว่า 70% ที่เหลือเป็นขนมไทยอย่างอื่น ส่วนในต่างประเทศนั้น ปัจจุบันเหลือเพียงที่ออสเตรเลีย กับสิงคโปร์ เป็นขนมลูกชุบอย่างเดียวไม่ถึง 10% ของยอดผลิตทั้งหมด โดยปลายทางนำส่งขายตามร้านๆ อย่างในออสเตรเลียส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคนไทยและคนเอเชีย แต่ที่สิงคโปร์ลูกค้าหลักที่ซื้อไปบริโภคเป็นชาวสิงคโปร์เอง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายจีน ชอบขนมลูกชุบอยู่แล้ว

 ส่วนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ขนมลูกชุบสุพัตราที่วางขายตามห้างนั้น มี 2 รูปแบบ คือ เป็นกระจาด มีหลายขนาด ตั้งแต่กระจาดขนาดเล็ก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว บรรจุขนมลูกชุบ 6 ลูก ขายราคา 32 บาท จนถึงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 นิ้ว บรรจุขนมลูกชุบ 1,000 ลูก ขายกระจาดละ 3,760 บาท แต่ขนาดที่ขายดีที่สุดมี 3 ขนาด เป็นกระจาดขนาดเส้นศูนย์กลาง 9 นิ้ว บรรจุขนมลูกชุบ 100 ลูก ราคา 400 บาท ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว บรรจุขนมลูกชุบ 150 ลูก ราคา 555 บาท และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้ว บรรจุขนมลูกชุบ 200 ลูก ราคา 725 บาท ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มีตั้งแต่ขนาดบรรจุขนมลูกชุบ 16 ลูก ราคา 50 บาท ถึงขนาดบรรจุขนมลูกชุบ 71 ลูก ราคากล่องละ 225 บาท แต่ที่ขายดีที่สุดเป็นขนาด 60 ลูก ราคา 190 บาท ในแต่ละเดือนจะมีเงินหมุนในกิจการขนมไทยของเขาตกเดือนละราว 3 แสนบาท

 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อ 21 เดือนก่อน สุระได้จดทะเบียนเปิดบริษัทใหม่ ในนามบริษัท รัสมิ์ศรัณย์ จำกัด ส่วนหนึ่งผลิตและจำหน่ายขนมไทยสุพัตรา แต่อีกส่วนหนึ่ง สุระบอกว่า กำลังจะขยายกิจการเพื่อมาสู่วงการค้าเพชรค้าพลอยอีกครั้ง จึงตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา  

 หากย้อนถึง แม้ สุระ สูทกวาทิน จะเคยล้มลุกคลุกคลานมาจากหลายๆ อาชีพ แต่วันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นผู้ที่ประสบผลสำเร็จในด้านกิจการขนมไทยอีกคนหนึ่ง โดยเฉพาะขนมลูกชุบ ที่ชุบชีวิตในด้านธุรกิจของเขาได้อย่างสวยงาม ถึงขนาดให้ต่างชาติได้รู้จักขนมลูกชุบของไทย ขณะที่ด้านสังคมก็เป็นที่ยอมรับของวงการธุรกิจขนาดและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี โดยเลือกให้เขาดำรงตำแหน่งประธานชมรมเอสเอ็มอีไทยภูมิปัญญาไทยในวันนี้
                               
กว่าจะได้เป็นลูกชุบแต่ละเม็ด

 สูตรในการทำลูกชุบแบรนด์ "ขนมไทย สุพัตรา" นั้น มีส่วนประกอบดังนี้
1.ถั่วเหลือง      1 กิโลกรัม
2.น้ำตาลทราย  1 กิโลกรัม
3.กะทิสด          1 กิโลกรัม

 กรรมวิธีการทำ เอาส่วนประกอบทั้งหมดมากวนให้เข้ากันจนสุก วางให้เย็น แล้วปั้นเป็นรูปทรงตามต้องการ จากนั้นทาสีทีละเม็ด ก่อนนำมาเพ้นท์ลวดลายหรือสีต่างๆ แล้วไปชุบวุ้นละลาย เสร็จแล้วนำมาแช่เย็นก่อนบรรจุกล่อง เพื่อส่งจำหน่าย

ดลมนัส  กาเจ