ไลฟ์สไตล์

ความศักดิ์สิทธิ์ 
แห่ง...พระพุทธเทวราชฯ และองค์อมรินทร

ความศักดิ์สิทธิ์ แห่ง...พระพุทธเทวราชฯ และองค์อมรินทร

09 ต.ค. 2552

“วัดสมอแครง” เป็นชื่อเดิมของ "วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๙๐ ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมี พระเทพคุณาภรณ์ (สมณศักดิ์ใหม่ของ "พระราชสุธี" -โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑

 วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มีมาก่อนสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ มีสถาปัตยกรรมอันงดงามตามแบบฉบับของศิลปะไทย ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และดำรงอยู่ให้เป็นที่รู้จักแก่สาธุชนรุ่นหลัง ซึ่งปัจจุบันมีพุทธศาสนิกชน และผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมาก เดินทางมาทำบุญและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเพิ่มมากขึ้น

 โดยเฉพาะ พระพุทธเทวราชปฏิมากร เป็นพระประธานในพระอุโบสถ วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ เป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อ ลงรักปิดทอง ปางมาวิชัย ฝีมือช่างสมัยทวารวดี ผสมอู่ทอง หน้าตักกว้าง ๔.๓๕ เมตร สูงตั้งแต่พระเพลาถึงยอดเปลวรัศมี ๕.๖๕ เมตร

 ความศักดิ์สิทธิ์...แห่ง พระพุทธเทวราชปฏิมากร ตามประวัติเล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ทรงทราบมาว่า กรุงศรีอยุธยาพบพระทององค์ใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพิทักษ์เทวศรไปอัญเชิญลงมายังพระนคร ในกรมได้ทรงต่อแพเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่ล่องลงมา ครั้นถึงปากคลองเทเวศร์ แพเกิดดื้อ ฉุดเท่าไรก็ไม่มายังตำหนักแพ จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นพิทักษ์เทเวศร เชิญพระพุทธรูปนี้ขึ้นที่วัดสมอแครง...ถนนศรีอยุธยา ตัดจากสวนจิตรลดา พุ่งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งใจจะผ่าวัดเทวราชกุญชรออกเป็นสองซีก โดยจะรื้อพระอุโบสถ เพราะคิดว่า พระประธานเป็นพระก่อด้วยอิฐ แต่ปรากฏว่า พระประธานเป็นพระทอง  ทางการเลยตัดถนนเลี้ยวขวาไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา (นิทานชาวไร่ เล่ม ๗ น.อ.สวัสดิ์จันทนี พ.ศ.๒๕๑๕ หน้า ๑๒๖-๑๒๗)

 ส่วนสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงวินิจฉัยที่มาของพระพุทธรูปนี้ไว้ว่า ...
 ต่อมาเมื่อถึงสมัยเมื่อสร้างวัดเบญจมบพิตร หม่อมฉันไปทอดกฐินวัดเทวราชกุญชร  สังเกตเห็นพระพักตร์พระพุทธรูปหล่อ ที่เป็นพระประธานในโบสถ์ เป็นลักษณะแบบพระสมัยทวารวดี แต่องค์พระเป็นพระแบบกรุงรัตนโกสินทร์ สืบตามได้ความว่า พระประธานองค์นั้น กรมพระพิทักษ์เทเวศร เชิญลงมาจากเมืองลพบุรี ก็เข้าใจว่า คงได้แต่เศียร มาหล่อองค์ที่ในกรุงเทพฯ หม่อมฉันจำขนาดไปตรวจดูที่เมืองลพบุรี เมื่อภายหลัง ก็พบกับแหล่งเดิมว่า เป็นพระประธานอยู่ในพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ วัดอื่นหามีที่ตั้งพระพุทธรูปขนาดใหญ่เท่านั้นไม่

 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ พระเทพคุณาภรณ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์วัดเทวราชกุญชร ได้ดำเนินการจัดสร้าง สายสังวาลประดับพระพุทธเทวราชปฏิมากร ขึ้น ๑ เส้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยมอบให้ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ออกแบบจัดสร้าง มีรูปลักษณะเป็นดอกพิกุลวางซ้อนกัน ๕ ชั้น ประดับพลอยสังเคราะห์

 อย่างไรก็ตาม เนื่องใน พ.ศ. ๒๕๕๒ วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร มีอายุครบ ๑๕๒ ปี ดังนั้นทางวัดจึงเห็นสมควรที่จะก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ ไว้เป็นสาธารณกุศล และอำนวยความสะดวกแก่พระภิกษุสงฆ์ ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการรองรับพุทธศาสนิกชน ผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมทำบุญ

 โดยนำรูปจำลอง พระพุทธเทวราชปฏิมากร และรูป พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ๓ เศียร รูปหล่อ องค์อมรินทรเทวราช (จำลอง) มาประดิษฐานไว้ด้านหน้า และด้านหลังของเหรียญที่ระลึก

 จำลองแบบโดย ช่างสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ประกอบด้วย เนื้อทอง เนื้อชุบทอง เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง เพื่อมอบเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างอาคารอเนกประสงค์ และร่วมสมทบทุนกองทุนบูรณะพระอารามหลวง

 พุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญได้ที่ วัดเทวราชกุญชร โทร. ๐-๒๒๘๐-๑๐๐๙-๑๑ หรือ ๐๘-๓๕๕๔-๘๐๘๔


องค์อมรินทรเทวราช
 อมรินทรเทวราช เป็นเทวดาองค์สำคัญ และถือว่าเป็นประมุขแห่งทวยเทพ และเป็นประธานเทวสภา มีอำนาจหน้าที่ปกครอง ควบคุม ธำรง รักษา และบำรุงสวรรคโลก และมนุษย์โลก

 เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลก ยามใดที่มีเรื่องเดือดร้อนขึ้นบนโลกมนุษย์ อาสนะของพระองค์ที่เคยอ่อนนุ่ม ก็จะแข็งกระด้าง

 องค์อมรินทรเทวราช ทรงถือวชิราวุธเป็นอาวุธ และมีช้างเอราวัณเป็นพาหนะ ช้างพระอินทร์เป็นช้างจำแลงของเทพบุตรนามว่า เอราวัณ

 เอราวัณเทพบุตร จะกลายร่างเป็นช้าง ก็ต่อเมื่อพระอินทร์ และเทพสหจรประสงค์จะเสด็จออกจากเทพวิมานสู่เทพอุทยานเท่านั้น

 หมายความว่า จะปรากฏเป็นคชาชาติ ที่มีอานุภาพน่าอัศจรรย์ เพราะเดชแห่งบุญของท่านผู้มีบุญเท่านั้น มิเช่นนั้นแล้ว จะปรากฏแต่เพียงนาม

 ส่วน เอราวัณ นั้นจะปรากฏเป็นเทพบุตร เหมือนเทพบุตรทั้งหลายในเทพนคร
 สำหรับ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ของ วัดเทวราชกุญชร เป็นประติมากรรมหล่อด้วยสัมฤทธิ์ ขนาดกว้าง ๑.๙๐ เมตร ยาว ๒.๒๔ เมตร สูง ๒.๕๐ ประดิษฐานอยู่บริเวณหน้า อาคารพิพิธภัณฑ์สักทอง ซึ่งมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้มากราบไหว้บูชาขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวทุกวัน

 ส่วน การอธิษฐานขอพร ให้เริ่มด้วยการตั้งนะโม ๓ จบ และตามด้วย "เอราวะณัสสะ นามะ เทวะราชะกุญชะรัสสะ อานุภาเวนะ สัพพะสิทธิ ภะวะตุ เมฯ" หมายถึง "ด้วยอานุภาพของพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ขอความสำเร็จทุกประการ จงมีแก่ข้าพเจ้าฯ" นั่นเอง

เรื่อง... "ไตรเทพ ไกรงู"
ภาพ... "ประเสริฐ เทพศรี"