ไลฟ์สไตล์

"สามชุก” ชุมนุมการค้าไทย-จีน-มอญ

"สามชุก” ชุมนุมการค้าไทย-จีน-มอญ

07 ต.ค. 2552

ยิ้มกันแก้มปริ สำหรับชาว “ตลาดสามชุก” ที่เพิ่งจะได้รับรางวัลระดับ “ดี” จากการประกวดโครงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ของยูเนสโก หรือ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี 2552 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

  ตลาดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นชุมนุมทางการค้าริมแม่น้ำท่าจีน ของชาวไทย จีน มอญ และอื่นๆ เดิมทีบริเวณที่ตั้ง อ.สามชุก เรียกว่า "ท่ายาง" เป็นท่าเรือที่มีชาวบ้านนำของป่ามาขายให้แก่พ่อค้าที่เป็นชาวเรือ

 ส่วนชื่อ อ.สามชุก นั้นมีผู้สันนิษฐานว่า น่าจะมีที่มาจากการที่มีชาวบ้านนำ ”กระชุก” หรือ “กระชุ” มาใส่ของรอขายสินค้าในตลาดดังกล่าวมากมาย

 กระชุก หรือ กระชุ ที่ว่านี้ ก็คือภาชนะประเภทหนึ่ง สานขึ้นจากไม้ไผ่ มีทรงกลม สูง ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “สามชุก”

 ในนิราศเมืองสุพรรณของสุนทรภู่ ซึ่งแต่งขึ้นราว พ.ศ. 2384 ในระหว่างที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสระเกศ มีการกล่าวถึง อ.สามชุก ดังความว่า
“ถึงนามสามชุกท่า ป่าดง       เกรี่ยงไร่ได้ฟ้ายลง แลกล้ำ
เรือค้าท่านั้นคง ดอยเกรี่ยง เรียงเอย
รายจอดทอดท่าน้ำ นับฝ้ายขายของฯ”

 ข้อความในนิราศที่สุนทรภู่บันทึกเกี่ยวกับ อ.สามชุก นี้แสดงให้เห็นถึงสภาพทางสังคม และวัฒนธรรมในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ตรงกับหลักฐานในบริบทอื่นๆ ที่ว่าสามชุกเป็นชุมนุมในการค้าขาย มีท่าเรือ มีผู้คนเข้า-ออก ผ่านไปผ่านมามากมาย

 ปัจจุบันตลาดเก่าสามชุกมีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวระดับประเทศ ซึ่งหวังว่าในอนาคตแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งนี้จะยังคงอยู่ต่อไป โดยไม่ถูกการพัฒนาในระบบทุนนิยมทำลายให้ย่อยยับไปเสียก่อน

" เรือนอินทร์ หน้าพระลาน"