ไลฟ์สไตล์

เล่นหูเล่นตา-น้องขิง (II)

เล่นหูเล่นตา-น้องขิง (II)

05 ต.ค. 2552

“ฉันมานอนเน่าอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลทำไม?” กระดิกกระเดี้ยไปไหนก็ไม่ไหว แม้แต่จะลุกเข้าห้องน้ำ มันเจ็บไปทั้งตัว จะลุกจะนั่งแม้แต่พลิกตัวก็ยังลำบาก จะก้าวเดินแต่ละที เลือดปนน้ำเหลืองก็ไหลหยดเป็นทาง…สยองจริงๆ

เวลาที่นอนนิ่งๆ มันทำให้ฉันมีสติคิดย้อนกลับไปหาสาเหตุของสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้

 “เมื่อไหร่คุณคิ้มจะมีคอนเสิร์ตอีกคะ?”

 เป็นคำทักทายอย่างหนึ่งที่ทำให้มีเรื่องคุยกันต่ออีกหลายประโยค ‘คอนเสิร์ต’ มันคือสิ่งที่ฉันอยากทำที่สุด ฉันอยากทำมันด้วยตัวฉันเอง คิดเอง ลงทุนเอง มันคงยากกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือ

 ‘ความแปลกใหม่ ’

 ฉันเป็นคนขี้เบื่อ เบื่อความซ้ำซากจำเจในตัวฉันเอง อะไรที่มันเป็นภาพจำ นั่นยิ่งทำให้ฉันอยากหนี อยากเปลี่ยน ฉันชอบ ‘ความท้าทาย’ ที่มีจุดหมายเป็น ‘ความสนุก’ โดยเริ่มจากตัวเองก่อน แล้วส่งต่อไปยังคนดู กระบวนการคิดใหม่ทำใหม่จึงเริ่มขึ้น แต่ด้วยวัย และเวลาที่ไม่อำนวย ฉันจึงต้องไป ‘ทางลัด’

 ฉันไปหาหมอแจ็ค สุขารมณ์ เพื่อนรุ่นน้องที่น่ารักรู้จักกันมาร่วม 10 ปี จากการที่เคยกู้ชีวิต (ครั้งที่ฉันยังเป็นควาย) มาคราวนี้ต้องมากู้ร่างกายให้ดูดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน งานหิน งานควายของจริง! ฉันใช้เวลาไม่กี่วันในการตัดสินใจ เพราะขืนปล่อยผ่านไปไกลกว่านี้ จะเริ่มมีอาการลังเล เลื่อน และลืมในที่สุด ด้วยเงื่อนไขเดียว ‘เวลา’ ที่มีอยู่จำกัดจึงต้องคิดเร็ว ทำเร็ว ไขมันที่สะสมมานานปีจะให้มันหายภายในวันเดียว ก็คงต้อง…ดูดมันออก!

 คุณหมอถนอมกิต ผอ.ศูนย์เลเซอร์ความงามพญาไท เป็นหมอร่วมในการผ่าตัดกับหมอแจ็ค…มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ยิ่งใกล้วันฉันยิ่งกลัว เพราะไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำยังไงกัน และมันจะเป็นอย่างไรต่อไป มีผลข้างเคียงอะไรตามมา สารพัดจะกังวลใจ จนอยากจะถอยกลับไปตั้งหลักใหม่

 แต่พอได้คุยกับคุณหมอแล้วก็รู้สึก…กลัวหนักเข้าไปอีก! การดูดไขมันวิธีเก่าที่ใช้แท่งเหล็กแทงเข้าไปในชั้นไขมันแล้วกะซวก! แทงแล้วแทงอีกเหมือนหนังฆาตกรรมเพื่อให้ไขมันแตกตัวออกจากกันเป็นขนาดเล็กลง โอกาสที่จะเกิดความเสียหายต่อเส้นเลือดสำคัญและต่อมน้ำเหลืองก็มีสูง ถ้าทำพลาดกะซวกไปโดนเส้นเลือดขาดไขมันไหลเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ เป็นใครๆ จะไม่กลัวล่ะ วิธีนี้เรียกว่า Lipo Suction 

 ส่วนวิธีใหม่ที่เขาใช้กับฉัน คือ การสอดเครื่องมือที่มีขนาดเท่ากับปากกาลูกลื่นตรงปลายเป็นเลเซอร์เข้าไปใต้ผิวหนังในชั้นไขมัน แล้วยิงเลเซอร์กวาดไปรอบๆ เหมือนการใช้ความร้อนละลายไขมันนั่นแหละ หมอที่มีความชำนาญจะกะระยะตื้นลึกหนาบางได้ดี เหมือนกับช่างแกะสลักรูปปั้นที่เก่งๆ ส่วนโค้ง ส่วนเว้าจะบังเกิดตามน้ำหนักมือของหมอ พอไขมันละลายกลายเป็นน้ำมัน หมอก็จะใช้เครื่องมือดูดไขมันเหลวๆ ออกมา ตามด้วยน้ำเกลือเพื่อล้างไขมันออกมาให้ได้มากที่สุด จากนั้นจะเย็บแผล ซึ่งมีขนาดเล็กเท่ากับฟันหนู (2 เข็ม) แต่มีหลายรู พอหายดีก็แทบมองไม่เห็น สุดท้ายหมอจะเจาะรูที่ข้างหัวเข่าด้านนอกในรายที่ทำช่วงต้นขาเพื่อให้น้ำเกลือและน้ำเหลืองที่ค้างอยู่ระบายออกง่ายขึ้น การดูดไขมันวิธีนี้เรียกว่า VASER LipoSelection

 คนอย่างฉัน ‘แรงไม่ว่า แต่ขอเร็ว’ ทำพร้อมกันเลยทั้งท้องและต้นขาด้านนอก หมอจะไม่ทำต้นขาทั้งด้านในและด้านนอกพร้อมกันในวันเดียว ทำด้านนอกก่อน พักฟื้นให้หายดี แล้วค่อยมาเจ็บตัวใหม่ ทำด้านในอีกครั้ง…ไหวมั้ยล่ะ!

 “พี่แน่ใจเหรอว่าจะทำแบบนี้จริงๆ” นังนุช ผู้ช่วยตัวอ้วนที่มีสภาพเหมือนคนท้องแบบฉัน แต่มันท้องแก่เดือนกว่า (ใหญ่กว่า) ถามย้ำให้แน่ใจ

 “เอ๊ะอีนี่…นุชจะพูดให้พี่ลังเลทำไมเนี่ย อีก 2 วันก็จะต้องผ่าตัดแล้ว”

 “2 วันอะไรพี่ พรุ่งนี้แล้ว หมอแจ็คบอกกับหนูว่า เขาจองห้องผ่าตัดวันพฤหัสฯ”

 "อ้าว…แล้วใครบอกฉันตั้งแต่แรกว่าวันศุกร์”

 เหมือนกับเลื่อนวันประหารชีวิตเร็วขึ้นอีก 1 วัน ไม่ต้องตั้งตัวกัน แต่มันดีไม่ต้องทนตุ๊มๆ ต่อมๆ อีก 24 ชั่วโมง เป็นไงก็เป็นกันจะได้จบๆ ไปซะที แต่ก่อนเข้าผ่าตัดต้องงดอาหารและน้ำ 6 ชม.

 ฉันตัดสินใจไปโดยไม่บอกใครที่บ้าน เพราะกลัวจะอลหม่านบ้านทรายทองกันทั้งบ้าน โดยเฉพาะแม่ของฉัน ยิ่งนอยด์ (วิตกจริต) อยู่เป็นทุนเดิม ถ้ารู้มีหวังถึงขั้นหลอน แม่ขี้กลัว…กลัวลูกตาย!

 “พี่ๆ อย่าว่างั้นงี้เลยนะ อย่าหาว่าแช่งเลย หนูว่าพี่ควรจะทำหนังสือยกมรดกให้คนที่บ้าน คือ ทำเผื่อไว้ก็ดีนะพี่ พี่บอกหนูมาว่าพี่จะให้ใคร แล้วเซ็นชื่อไว้" นังนุช มันจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ นังทนายหน้าหอ มันช่างกลัว ช่างระแวง ช่างวางแผน ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะไปตายมากกว่าไปดูดไขมัน

 “นี่ก็เว่อร์ ดูดไขมันแค่นี้ไม่ตายหรอก" เกดช่วยตอบแทนฉัน

 นับจากนี้ไป ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม…เดี๋ยวก็รู้!
 อ่านต่อฉบับหน้า