ไลฟ์สไตล์

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

28 ธ.ค. 2560

โอกาส-อำนาจ-เงิน เรื่องวุ่นๆปีการศึกษา60

       ทั้งแป๊ะเจี้ยะแลกที่นั่งเข้าโรงเรียนดัง ต่อด้วย“5 รอบTCASคัดเด็กเข้ามหาวิทยาลัย และแยกกระทรวงการอุดมศึกษาพ้นรั้วเสมา ล้วนเป็นโอกาสที่ต้องใช้กำลังในการไขว่ขว้า ยิ่งในแวดวงการศึกษาไทย ยิ่งน่าสนใจยิ่ง โดยเฉพาะโอกาสในการพัฒนาครูผู้สอน กับโครงการคูปองพัฒนาครูครั้งแรกของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิด“โครงการพัฒนาครูครบวงจร” แถมด้วยการเปิดช่องไม่มีตั๋วครูสอบครูเกิดความฮือฮาทันทีในยุค“หมอธี” ขึ้นมาทันทีวันนี้ “คมชัดลึก” ได้สรุปข่าวเด่นรอบปี มานำเสนอ

       เริ่มด้วย  แป๊ะเจี้ยะรร.สามเสน  ติดอันดับข่าวเด่นทุกปีในแวดวงการศึกษา เมื่อโลกโซเชียลมีเดียแชร์คลิปเหตุการณ์ผู้ปกครองนำเงินหลักแสนจ่ายให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนดัง เพื่อหวังแลกที่นั่งเรียน จน “วิโรฒ สำรวล ผอ.รร.สามเสนวิทยาลัย” ตั้งโต๊ะชี้แจง ยืนยันไม่ได้รับเงิน

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

       พร้อมอธิบายว่าคลิปที่เกิดขึ้น เป็นการตัดต่อขึ้น แต่เพื่อให้การสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการได้อย่างสะดวก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีคำสั่งย้าย “วิโรฒ” ออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กทม.เขต 1  และตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ จนได้ข้อสรุปพบมีมูลความผิด ด้วยเหตุเรียกระดมทรัพยากรระหว่างการรับนักเรียน และไม่ได้มีการออกใบเสร็จทันที กลับออกมาภายหลังเข้าข่ายผิดระเบียบกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการรับเงิน  ส่งผลให้เรื่องราวครั้งนี้ มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนทางวินัย.... แต่เรื่องนี้จะปิดฉากลงเช่นใด ยังไม่ทราบแน่ชัด ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการยืนยันไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

          ต่อด้วย คูปองพัฒนาครู  ครั้งแรกของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิด “โครงการพัฒนาครูครบวงจร”จัดหลักสูตรอบรมให้ครูได้เลือกสรรตามความต้องการ แถมจัดงบประมาณ “คูปองครู” คนละ 10,000 บาทต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 5ก.ค. 2560 ผลพวงจากการประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ว21/2560 

          ทว่าเมื่อเปิดเดินหน้าโครงการดังกล่าว กลับไม่เป็นดั่งฝัน เมื่อมีครูจำนวนมากออกมาร้องเรียนระบบบริหารจัดการที่สร้างปัญหาเพียบ และไม่ส่งเสริมให้ครูได้รับการพัฒนาตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ตั้งไว้ หลักสูตรที่จัดอบรม ก็ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของครูอย่างแท้จริง  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงต้องปรับเกณฑ์อบรมพัฒนาครู ปี 2561 ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกหลักสูตรที่สอดคล้องกับการพัฒนาการเรียนการสอนของครู และคณะกรรมการกำหนดราคาหลักสูตร  เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำอีกต่อไป

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

      อีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามอง ศึก“อำนาจ”ยุติ &สร้าง?รอยร้าว สพท.-ศธจ. จากท่าทีของ “พีรพงศ์ สุรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 7” และ “สุวิทย์ ศรีฉาย รองศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) รักษาการศธจ.นครราชสีมา” เกิดจากข้อ 13 ของคำสั่งหัวหน้าที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ระบุให้โอนอำนาจตามมาตรา 53 (3) และ (4) แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาให้ ศธจ.โดยลงนามตามมติคณะกรรมการการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) 

     ส่งผลให้ภารกิจสำคัญตามมาตรา 53 ที่เคยอยู่ในมือผอ.สพท.ไม่น้อยกว่า 30 เรื่องกลายเป็นอำนาจของ ศธจ.ไป เป็นเหตุให้กลุ่ม สพท. ออกมาเคลื่อนไหว ล่ารายชื่อกว่า 50,000 หมื่น ขอให้ยกเลิกคำสั่งในข้อ 13 และคืนอำนาจตามมาตรา 53 มายัง สพท.เช่นเดิม อย่างไรก็ดี "เสมา 1" ยืนยันแล้วว่าการแก้ไขคำสั่งนี้ ทั้งงศธจ.และ สพท.ได้พูดคุยภาษาเดียวกัน จากนี้รอเพียงประกาศการแก้ไขคำสั่งอย่างเป็นทางการ

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

      สนั่นวงการครู..เปิดช่องไม่มีตั๋วครูสอบครู เกิดความฮือฮาทันทีในยุค “หมอธี” ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) มีมติอนุมัติให้บุคคลที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูสามารถสมัครสอบเข้าบรรจุครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ประจำปี 2560 กรณีทั่วไป โดยเปิดสอบทั้งหมด 61 สาขาวิชา แต่กำหนดว่าเฉพาะ 25 สาขาวิชาที่ขาดแคลน ที่ให้ทั้งผู้มีใบอนุญาตฯและไม่มีใบอนุญาตฯสมัครสอบได้ ส่วนอีก 36 วิชานั้นให้เฉพาะกลุ่มครู 5 ปีที่มีใบอนุญาตฯ อย่างไรก็ดี แม้จะเปิดช่องให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตฯร่วมสมัครสอบแข่งขันได้

         แต่ก็มีเงื่อนไขว่าหากสอบแข่งขันได้ขึ้นบัญชี จะต้องปฏิบัติเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต) ในสถาบันที่คุรุสภารับรอง และต้องมีใบอนุญาตฯ ตัวจริง ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยระหว่างที่ปฏิบัติการสอนครูกลุ่มนี้จะถือใบอนุญาตปฏิบัติการสอนชั่วคราว ซึ่งมีอายุ 2 ปีและต่ออายุได้เพียง 1 ครั้ง เท่ากับว่ามีเวลา 4 ปีให้ได้ใบอนุญาตฯจริง และหากไม่ได้ก็ไม่สามารถบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูตำแหน่งครูผู้ช่วยได้ โดยในการสอบครั้งนั้น เฉพาะ 25 สาขาวิชา มีอัตรารองรับ 2,080 อัตรา ปรากฎว่ามีผู้สอบแข่งขันได้รวม 15,414 คน แบ่งเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตฯ 1,590 คน และเป็นผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตฯ  490 คน

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

        มาถึงฝั่งอุดมศึกษา “5 รอบ TCAS คัดเด็กเข้าม.” การสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ผ่านการสอบหลายครั้ง ทั้งการสอบข้อสอบกลางแถมมหาวิทยาลัยจัดสอบเอง ทำให้เกิดปัญหาวิ่งรอกสอบ ความเหลื่อมล้ำระหว่างเด็กจนเด็กรวย อีกทั้งการสอบและการรับนิสิตนักศึกษาใหม่มีตลอดปี ส่งผลให้นักเรียนชั้นม.6 เรียนในชั้นเรียนได้อย่างไม่เต็มที่ ครูต้องเร่งสอน ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) จึงปรับการสอบครั้งใหญ่ ในปี2561 ผุดการสอบทีแคส(TCAS)  5 รอบ 

          คือ รอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน รอบที่ 2 : การรับแบบโควตาที่มีการสอบปฏิบัติและข้อเขียน แก่น้องๆ นักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาค, นักเรียนในโรงเรียนเครือข่าย, นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ รอบที่ 3 : การรับตรงร่วมกัน สำหรับนักเรียนที่อยู่ในโครงการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย(กสพท.), โครงการอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด การเลือกสอบสามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยไม่มีลำดับ รอบที่ 4 : การรับแบบ Admission สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยมีลำดับ (เหมือนแอดมิชชั่นในปีที่ผ่านมา) แต่ใช้เกณฑ์ค่าน้ำหนักที่ประกาศล่วงหน้า 3 ปี ยื่นสมัครผ่าน ทปอ.  และรอบที่ 5 : การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก) ยื่นสมัครและคัดเลือกโดยมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง

ข่าวเด่นการศึกษาปี 60

      ตบท้ายด้วย ก.การอุดมศึกษาพ้นอกศธ. ปีกว่าผ่านไปก็ยังไม่ถึงฝั่งสำหรับการผลักดันจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา โดยแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พ้นจากอ้อมอกของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เหมือนอดีตครั้งเป็นทบวงมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ต้นปี 2560 “หมอธี -ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ” ได้แสดงบทบาทขับเคลื่อนผลักดันการจัดตั้ง “กระทรวงการอุดมศึกษา” ด้วยเห็นว่าสถาบันอุดมศึกษาได้บริหารจัดการอย่างมีอิสระ คล่องตัว แก้ปัญหาต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น 

        โดยตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา ขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ เกิดร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา มาพิจารณาพร้อมรับฟังเสียงประชาคมสถาบันอุดมศึกษา ดูจะเป็นความตั้งใจจริงในการผลัดดัน เมื่อคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ..ชี้ชัดจำเป็นแยกก.การอุดมศึกษา ด้วยเหตุต้องบริหารจัดการพิเศษ แน่ชัดว่า ก.การอุดมศึกษา หน่วยงานที่เกิดขึ้นใหม่จะต้องมีอำนาจในการกำกับดูมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดปัญหาเฉดเช่นปัจจุบัน

0 ทีมข่าวคุณภาพชีวิต [email protected] 0