Lifestyle

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วงดนตรี บี-ไฮ-เดอะ-ซีน เขียนเพลงพระราชนิพนธ์ "เพื่อพ่อ" น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9

           “คุก” มีเพียงไว้ขังผู้ที่กระทำความผิด แต่ไม่ใช่จุดจบของชีวิต คนที่ติดอยู่ข้างในยังมีโอกาสที่จะได้อิสระภาพกลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากพ้นโทษแล้ว ชีวิตที่เคยทำผิดพลาด กลับไม่ง่ายที่จะกลับคืนสู่สังคมอย่างปกติ 

        "วง บี-ไฮ-เดอะ-ซีน" ก่อตั้งมาจากคนในกำแพงที่ รวมตัวกันทำบทเพลงเพื่อพ่อ“คนในกำแพง”  เรือนจำพิเศษมีนบุรี แสดงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

           พวกเขามีทั้งคนเขียนโน๊ต คนใส่ทำนอง นักร้องนำ มือเบส มือกลอง ได้รับแรงบันดาลใจจากทูบีนัมเบอร์วัน จากคำถามที่ว่า “อยากทำเพลงเพื่อพ่อไหม” นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเขาได้รวมตัวกันทำบทเพลงเพื่อพ่อ

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

          คนเขียนเพลง เล่าว่า ทูบีนัมเบอร์วัน ได้สนับสนุนในการทำเพลงเพื่อพ่อ และใช้บรรเลงในกิจกรรม “เสียงจากคนข้างในกำแพงส่งถึงคนภายนอก” รวมถึงได้รับหนังสือ 100 วัน ร้อยเรื่องเปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง จากทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เขาได้เปิดหนังสือแล้วเห็นภาพหนึ่งที่มีผู้ชายและผู้หญิงยืนถือเทียนและกอดพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 จากนั้นเขามีแรงบันดาลใจจากภาพโดยเขียนเพลง “เกิดในรัชกาล” โดยมีเนื้อหาว่า

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

          “ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงในการเขียน เพราะอินในภาพและไม่มีโอกาสได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ มีแค่สิ่งเดียวที่ทำได้คือสร้างบทเพลงเพื่อถวายท่าน ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ไม่มีโอกาสได้ไปส่งท่านเสด็จสู่สรวงสวรรค์ เนื่องจากสถานภาพของผมเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ในคุก ผมเลยทำอะไรไม่ได้มากนอกจากแต่งเพลง และเป็นสิ่งเดียวที่ผมทำแล้วมีความสุข โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพระองค์ท่าน ถ้าผมพ้นโทษออกไปสู่สังคมภายนอกแล้ว ผมจะเดินตามในหลวงรัชกาลที่ 9 และจะพิสูจน์ให้คนภายนอกได้เห็นว่าคนที่เคยอยู่ในคุกมาก่อนก็ทำความดีได้เหมือนกัน” เรื่องราวและความรู้สึกของคนเขียนเพลง

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

          ส่วนอีกคนที่มีหน้าที่ใส่ทำนองและเป็นนักร้องนำ เล่าว่า ตั้งแต่ทราบข่าวในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต มีความรู้สึกบางอย่างว่าเราต้องทำอะไรเพื่อในหลวงในฐานะที่เป็นคนไทย แต่ก็ไม่มีโอกาสเนื่องจากอยู่ในห้องขัง จนทางผู้คุมบอกว่า จะมีโครงการ “แรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่ผู้ต้องราชทัณฑ์ในการสร้างเสริมสุขภาวะ และการสร้างทักษะชีวิต” โดยให้ไปร้องเพลงเพื่อถวายในหลวง เขาสนใจมากเพราะเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ เขาขออาสาใส่ทำนองเพลงทั้งหมดและร้องเพลง

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

          “ดีใจมากไม่คิดว่าสิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจว่าอยากทำเพลงพระราชนิพนธ์ที่ทำด้วยตนเองเพื่อพ่อหลวง ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพลงพระราชนิพนธ์นั้นเป็นอย่างไร จนผมได้อ่านหนังสือซึ่งมีกว่า 4,000 เพลงที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ถึงตอนนี้ผมได้มีโอกาสทำเพื่อพระองค์ท่านแล้ว แค่นี้ผมก็สุขใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกให้สังคมภายนอกรู้ว่า คนในคุกมันไม่ได้เลวร้ายทุกคน ทุกคนอยากจะกลับบ้าน อยากจะไปทำอะไรที่ดีกว่าทุกวันนี้ ”  ความรู้สึกของนักร้องนำ

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

บุรินทร์ทร แซ่ล้อ

          บุรินทร์ทร แซ่ล้อ ผู้อำนวยการเครือข่ายเยาวชนโครตอินดี้ เล่าว่า ทุกๆ ปี วันที่ 5 ธันวาคม จะจัดกิจกรรมสำหรับวันพ่อแห่งชาติในฐานะที่เป็นลูกคนหนึ่งที่น้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน จึงถือโอกาสใกล้วันพ่อนี้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเฉพาะกลุ่มผู้ต้องขังที่ต้องการให้คนภายนอกได้เห็นว่าคนที่อยู่ในกำแพงก็สามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่างที่บุคคลภายนอกไม่เคยเห็นมาก่อน

          “มีหลายคนถามว่า ทำไมต้องมาจัดในเรือนจำ ผมตอบเลยว่า ถ้าเราไม่ทำ แล้วใครจะทำ ยิ่งเมื่อผมได้อ่านข่าว ได้ทราบถึงจำนวนของผู้กระทำผิดที่เพิ่มขึ้นทุกๆ วัน มันสะท้อนถึงเรื่องการทำผิดซ้ำๆ ทั้งคนที่ออกไปแล้ว ไม่รู้จะไปไหน สังคมไม่ให้โอกาส ผมเองในฐานะของคนที่เคยเข้ามาสร้างสรรค์ผลงานให้กับพี่น้องในกำแพงนี้ ผมได้เห็นศักยภาพของทุกคนในเรือนจำว่ามีมากมายมหาศาล เราอยากช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันภายในจิตใจที่เข้มแข็งโดยมีศาสตร์พระราชาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ” “บุรินทร์ทร” เล่า

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

  ดร.นพ. บัณฑิต ศรไพศาล

          ดร.นพ. บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. และโครตอินดี้ได้นำเรื่องราวการแสดงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่แสดงผ่านหนังสือ 100 วัน เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมภาพของการแสดงความจงรักภักดีของประชาชนต่อพระองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 จากทุกพื้นที่ทุกกลุ่มชนในช่วง 100 วันแรกของการสวรรคตของพระองค์ท่านมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์เป็นแบบอย่างในการใช่ชีวิต โดยทดลองนำร่องกับผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษมีนบุรีซึ่งพบว่าได้ผลเป็นอย่างดียิ่ง

"เกิดในรัชกาล" เพลงพระราชนิพนธ์คนในกำแพง

  นพ.สมภพ สังคุตแก้ว

          นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมด้านการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้สังคมภายนอกได้รับทราบถึงบทบาทและภารกิจในก้าวย่างที่ 5 การสร้างการยอมรับให้สังคม  ทางด้านนโยบายของกรมราชทัณฑ์ การส่งเสริมและดูแลสุขภาพ การสร้างแรงบันดาลใจจากโครงการ “แรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่ผู้ต้องราชทัณฑ์ในการสร้างเสริมสุขภาวะ และการสร้างทักษะชีวิต” เป็นการสร้างคุณค่าให้เกิดกับตัวผู้ต้องขังไปสู่สายตาคนภายนอก รวมทั้งให้ผู้ต้องขังได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ