Lifestyle

โบราณวัตถุ 14 รายการมีถิ่นกำเนิดในไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เผยตรวจสอบโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ของอเมริกา 17 รายการ พบ 14 รายการถิ่นกำเนิดในไทย เตรียมส่งข้อมูลให้ กต.ประสานแจ้งต่อไปยังสหรัฐว่าเป็นของไทยและถูกส่งออกผิดกฎหมาย

            เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 60 – ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ว่า คณะอนุกรรมการด้านวิชาการเพื่อติดตามฯ ได้รายงานผลการตรวจสอบตรวจพิสูจน์ ศึกษาและวิเคราะห์โบราณวัตถุ ในครอบครองของพิพิธภัณฑ์ศิลปะโฮโนลู (Honolulu) สหรัฐอเมริกา ซึ่งสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ได้ขอให้ไทยตรวจสอบ 17 รายการนั้น เบื้องต้นพบว่า มี 14 รายการเป็นโบราณวัตถุที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย อาทิ 1.กระดึงสำริด พบในแหล่งโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ไทยอายุราว 1,500-2,000 ปีได้นำมาเทียบกับกระดึงสำริด ยุคก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งพบในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เช่น ลพบุรี อุบลราชธานี 2.พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย เป็นลักษณะเฉพาะที่นิยมทำในศิลปะไทย สมัยอยุธยาตอนกลาง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 นำมาเปรียบเทียบได้กับพระพุทธรูปศิลปะอยุธยาที่พบในอยุธยาและเมืองในพระราชอาณาจักร เช่น กำแพงเพชร

โบราณวัตถุ 14 รายการมีถิ่นกำเนิดในไทย

             3. พระพุทธรูปปางมารวิชัย นั่งขัดสมาธิบนฐาน 3 ขาซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะไทยสมัยอยุธยา สกุลช่างกำแพงเพชร   อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 เทียบกับพระพุทธรูปประทับบนฐาน 3 ขาที่พบในจ.พระนครศรีอยุธยา และกำแพงเพชร  4.พระพุทธรูปนาคปรก จัดอยู่ในศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ 18เทียบได้กับพระพุทธรูปนาคปรกศิลปะลพบุรี พบที่ภาคตะวันออกเฉียงและภาคกลางของประเทศไทย เช่น จ.สุพรรณบุรี นครราชสีมา 

            รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า ส่วนโบราณวัตถุที่เหลืออีก 3  รายการ ที่ไม่พบว่ามีแหล่งกำเนิดไทย 1.พระคเณศ 2.เศียรพระพุทธรูป 3.ประติมากรรมรูปบุรุษ  โดยที่ประชุมมอบให้ กรมศิลปากร จัดทำหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อนำส่งไปยังสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิต่อไป  

            ขณะที่ความคืบหน้าการศึกษาข้อมูลการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ในกลุ่มประโคนชัย(กลุ่มปลายบัค)จ.บุรีรัมย์ 22 รายการ พบว่าเป็นโบราณวัตถุที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและส่วนใหญ่อยู่ในบัญชีรายการโบราณวัตถุ  133 รายการ ที่จัดแสดงในในพิพิธภัณฑ์และสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกา  ซึ่งไทยจะประสาน เพื่อติดตามกลับคืน แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ  องค์ประกอบโบราณสถาน 6 รายการ ได้แก่ 1.ทับหลังรูปพระอินทร์ประทับเหนือหน้ากาล 2.เสาติดกับผนัง 3.เสาติดกับผนัง 4.ทับหลังแสดงภาพเล่าเรื่องรามายณะ ตอนกุมภกรรณเข้าสู่สนามรบ 5.ประติมากรรมรูปม้า และ6.ทับหลังแสดงรูปภาพบุคคลเหนือแนวหงส์

โบราณวัตถุ 14 รายการมีถิ่นกำเนิดในไทย

           นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่ 2 คือ กลุ่มประโคนชัย 16 รายการ เช่น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์ไมเตรย  พระพุทธรูปยืน  เป็นต้น นอกจากนี้อนุกรรมการด้านกฎหมายฯ เสนอให้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทย ไปยังสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เพื่อติดตามวัตถุโบราณของไทยในสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่ไทย คือ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว  

            “ล่าสุดสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ยังประสานให้ประเทศไทยตรวจสอบภาพถ่ายโบราณวัตถุที่สงสัยว่าเป็นของไทย เพิ่มอีก 69 รายการ โดยเป็นโบราณวัตถุก่อนประวัติศาสตร์ทั้งหมด ที่จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกา เช่น กำไรสำริด ลูกกระพรวนสำริด กระดึงสำริด ขวานสำริด ภาชนะดินเผ่าลายเขียนสี เป็นต้น โดยจากนี้ จะมอบให้อนุกรรมการด้านวิชาการฯ ตรวจสอบโบราณวัตถุเหล่านี้ ว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยหรือไม่ และแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบต่อไป  การดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุฯเป็นไปตามหลักความร่วมมือ ระหว่างรัฐต่อรัฐ  ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และหลังจากการประชุมครั้งนี้ ทางคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุฯ จะสรุปผลการประชุมเพื่อรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป “นายวีระ กล่าว

            อย่างไรก็ตาม  ขณะนี้ถือว่าอยู่ในกระบวนการตรวจพิสูจน์ หากมีความชัดเจนแล้ว ก็จะเข้าสู่การส่งมอบต่อไป ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าจะต้องส่งมอบภายในเมื่อไร แต่ก็คิดว่าทางสหรัฐอเมริกาจะเร่งดำเนินการ เพราะปี 2561 จะครบรอบฉลองความสัมพันธ์ 200 ปี ไทย-สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบจัดทำหลักเกณฑ์การจัดลำดับความสำคัญในการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยมีหลักคือ  เป็นโบราณวัตถุที่มีการลักลอบนำออกจากประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย เป็นโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และเป็นโบราณวัตถุที่มีผลกระทบต่างความเชื่อ ความศรัทธาของประชาชนชาวไทย  

            ด้านนายอนันต์ กล่าวว่า ในกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์โบราณวัตถุนั้น คณะอนุวิชาการฯ จะต้องตรวจสอบในเชิงวิชาการให้ได้ว่าโบราณวัตถุที่ได้รับแจ้งมามีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยหรือไม่ จากนั้นต้องส่งข้อมูลชี้แจงให้ทางสหรัฐอเมริกาเห็นว่า โบราณวัตถุนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย และถูกนำออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย

            “จากนี้ทางอนุกรรมการด้านวิชาการฯ จะเร่งจัดทำรายละเอียด 24 รายการ คือ กลุ่มประโคนชัย(กลุ่มปลายบัค)จ.บุรีรมย์ 22 รายการ และ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว  เพื่อแจ้งให้ กต. ส่งไปยังสหรัฐอเมริกาว่า โบราณวัตถุเหล่านี้ มีแหล่งกำเนิดในไทย และถูกส่งออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย  เข้าสู่ขั้นตอนการส่งมอบคืนต่อไป ส่วนจะสามารถส่งคืนได้เมื่อไรนั้น ไม่สามารถบอกระยะเวลาที่ชัดเจนได้”นายอนันต์ กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ