
ออกุสต์ ปาวี...
ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามที่ฝรั่งเขียน ฝรั่งเศสมักจะใช้วิทยาศาสตร์วิชาการเป็นเครื่องมือทางการเมืองผนวกเอาดินแดนเข้ามาอยู่ในอาณานิคมของตนอยู่เสมอ
เรื่องนักวิชาการหัวเหลี่ยมนี้ ฝรั่งเศสเมื่อกว่าร้อยปีก่อนนับเป็นแบบอย่างที่ดี
ที่จริงฝรั่งเศสขนคณะนักสำรวจที่อ้างว่า สนใจศึกษาเรื่องธรรมชาติพืชสัตว์ในเขตเมืองร้อนนี้เข้ามา ในดินแดนเขมร ลาว ญวน และไทย มานานแล้ว โดยเบื้องหลังลึกลงไปก็คือแอบทำแผนที่เพื่อประโยชน์ โดยเฉพาะของรัฐบาลอาณานิคม
ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษในยุคล่าอาณานิคมนี้ ต่างก็แย่งชิงกันสำรวจและทำแผนที่ทั้งทางบกและทางน้ำในลุ่มแม่น้ำโขงนี้ เพื่อประโยชน์ของตน แต่ที่โด่งดังที่สุดไม่น่าจะมีใครเกินปาวี คนฝรั่งเศสที่คนไทยรู้จักดีที่สุด
ออกุสต์ ปาวี เป็นอดีตทหารเรือในกองทัพฝรั่งเศสประจำอินโดจีน และอดีตพนักงานไปรษณีย์โทรเลขในเวียดนามใต้ กล่าวกันว่าเขาเป็นผู้สนใจศึกษาเรื่องอารยธรรมเขมรโบราณมาก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะถูกว่าจ้างทั้งรัฐบาลไทยและฝรั่งเศส ให้เป็นผู้เดินสายโทรเลขระหว่างกรุงเทพฯ กับเขมร
ปาวีจึงได้ชื่อว่า เป็นนักสำรวจเส้นทางที่จัดเจนคนหนึ่ง
เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสคิดใช้งานปาวี ก็ได้แต่งตั้งปาวีให้เป็นกงสุลก่อนอื่นใด เพื่อจะได้มีสิทธิและโอกาสในการสำรวจลุ่มแม่น้ำโขงทั้งสองฟาก ให้เป็นไปตามแผนที่รัฐบาลฝรั่งเศสปรารถนา “คณะสำรวจปาวี” จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ทำการสำรวจลุ่มแม่น้ำโขงในอินโดจีนนี้ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์และวิชาการเป็น ครั้งแรก
แม่น้ำโขงในตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักนอกจากว่า เป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากทิเบต
ผลการสำรวจของปาวีก็คือหนังสือเล่มโตที่ปาวีเป็นคนเขียน ทั้งเส้นทางบกทางน้ำล้วนคือความอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ทางธรรมชาติ ของสองฟากลำน้ำโขงที่โลกได้รู้จัก
แต่ที่โลกไม่รู้ก็คือ ปาวีสำรวจและทำแผนที่ทั้งท่าเรือ ที่ตั้งโรงคลังสินค้า และตลอดจนเขตแดนของลาว เขมร ญวน ไทย ไว้เพื่อประโยชน์ของรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อการขยายดินแดนในย่านนี้ของฝรั่งเศสโดยเฉพาะ
ก็ปาวีนี่แหละครับ ที่ต่อมาได้เป็นอุปทูตฝรั่งเศสและเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการนำเรือรบมาขู่และปิดอ่าวไทย ในเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า วิกฤตการณ์ร.ศ.112
ไทยก็ได้ว่าจ้างช่างชาวอังกฤษ ทำแผนที่ฉบับหนึ่งขึ้นเช่นกัน แต่ปาวีไม่ยอมรับ ทั้งแผนที่ของปาวีก็ไม่เคยให้ไทยดู รัฐบาลไทยกับปาวีขัดแย้งกันมาตลอดในเรื่องของแผนที่และการปักปันพรมแดน
นี่น่าจะเป็นคำตอบว่าทำไมรัฐบาลไทย ถึงไม่ยอมรับแผนที่ที่ทำโดยคนฝรั่งเศสในกรณีเขาพระวิหาร