ไลฟ์สไตล์

ท่องโลกแห่งความฝันของ เจ้าสัว "สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์"

ท่องโลกแห่งความฝันของ เจ้าสัว "สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์"

26 ก.ย. 2552

ทุกคนย่อมมีความฝันของตัวเองเป็นเป้าหมายของชีวิต แต่ดูจะมีน้อยคนนักที่สามารถวาดฝันให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างสมบูรณ์ และหนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นนักธุรกิจพันล้านอย่าง สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหารโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา หรือที่รู้จัก

  และแล้วจินตนาการของเขาก็สำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม กับโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา ที่ได้รับการออกแบบภายใต้ธีม "ลอส เวิลด์" ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายธรรมชาติตำรับอินเดียนาโจนส์ ผสมผสานความโมเดิร์นอย่างลงตัว งานนี้เจ้าสัวออกมาต้อนรับ "คม ชัด ลึก" ด้วยมาดของนักเดินป่ามากทรัพย์ พร้อมกับพาเราเดินชมโรงแรมแห่งนี้ ด้วยความภาคภูมิใจเหลือคณานับ

 "ธีมโรงแรมแห่งนี้เกิดจากประสบการณ์ในการเดินทางของผมตลอด 30 ปี ที่ผ่านมา บรรยากาศของโรงแรมแห่งนี้จะแปลกใหม่ หลายสิ่งที่อยู่ในโรงแรมเกิดจากจินตนาการของผม ผสมผสานกับธรรมชาติเข้าด้วยกัน ผมจะเน้นธรรมชาติเป็นหลัก อย่างล็อบบี้ผมจินตนาการให้เป็นเรือโบราณหลายพันปี ที่ลอยลำมาในดินแดนแห่งความพิศวง ตึก 2 ตึกที่เห็นผมจินตนาการให้เป็นภูเขาสองลูกที่มีความสูงไม่เท่ากัน ซึ่งธรรมชาติของภูเขาก็ไม่เท่ากันอยู่แล้ว แล้วตึกของผมจะมีช่องโหว่อยู่ 7-8 ช่อง ซึ่งผมเปรียบให้เป็นถ้ำธรรมชาติ มีต้นไม้น้อยใหญ่และดอกไม้ประดับประดา พร้อมกับสะพานเชื่อมระหว่างตึกสองตึก ที่ดีไซน์ให้เหมือนกับสะพานเชือกคล้ายๆ กับสะพานในหนังเรื่องอินเดียนาโจนส์ ที่วิ่งข้ามสะพานหนีคนป่ากินคนอย่างไม่คิดชีวิต พออยู่บนภูเขามองลงมาข้างล่างก็จะเห็นน้ำตก เรือโบราณหลายพันปีที่นำพาทุกคนมาพบกับอารยธรรมลี้ลับที่ถูกทิ้งมานานแห่งนี้" เจ้าสัวเล่าจินตนาการอย่างออกรสออกชาติ

 ด้วยการสั่งสมประสบการณ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มาหลายสิบปี ทำให้เขามองว่า การสร้างโรงแรมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การคิดสร้างโรงแรมภายใต้ธีมที่ถ่ายทอดออกมาจากความฝันนั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า และเหนือสิ่งอื่นใด การทำธุรกิจโรงแรม คือการรีเทิร์นของแขกที่มาพักเป็นสำคัญ

 "เมื่อเดือนก่อนผมไปดูโรงแรมที่สมุย ผมไปเจอแขกที่มาพักสองคน คนหนึ่งเป็นคนญี่ปุ่นมาพักที่โรงแรมของผมถึง 59 ครั้ง ส่วนอีกคนมาพัก 39 ครั้ง สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่เขามีให้โรงแรมของเรา สิ่งนี้แหละที่ผมต้องการให้เกิดขึ้นในโรงแรมของผมทุกแห่ง ตอนนี้ผมบริหารโรงแรมทั้งหมด 21 โรงแรม ซึ่งผมเป็นเจ้าของเอง 9 แห่ง ร่วมธุรกิจกับบริษัทอื่นอีก 4 แห่ง และรับหน้าที่บริหารโรงแรมให้อีก 8 แห่ง ซึ่งความฝันของผมอีกอย่างหนึ่ง คือ การเป็นผู้นำด้านการบริหารโรงแรมในประเทศ" คุยไปเจ้าสัวก็ชักชวนให้ไปช่วยกันปลูกต้นจิกทะเล เพื่อให้สวนในโรงแรมแห่งใหม่นี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แล้วจึงหันมาคุยต่อว่า

 "ผมอยากจะเป็นผู้นำเหมือนอย่างที่พ่อผม พี่น้องผมได้เป็นผู้นำธุรกิจศูนย์การค้า ผมเองเป็นคนเริ่มต้นธุรกิจโรงแรมเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผมก็ต้องการที่จะเป็นผู้นำในการบริหารโรงแรมในประเทศให้ได้ การเป็นผู้นำไม่ได้หมายความว่าต้องมีโรงแรมและมีจำนวนห้องพักมากที่สุด แต่หมายถึงคุณต้องมีโรงแรมที่หลากหลาย ทั้ง 3 ดาว 4 ดาว 5 ดาว อนาคตผมอาจจะมีโรงแรม 2 ดาว หรือ 6 ดาวก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมดาวไหนๆ คุณภาพก็ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของดาวนั้นๆ มีคนถามผมว่า อายุขนาดนี้แล้วทำไมยังมีเรี่ยวแรงทำงานแบบนี้อยู่อีก ต้องบอกว่า ผมอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ผมเลยไม่รู้สึกเหนื่อยที่ต้องทำงาน งานโรงแรมต้องให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ในขณะที่ห้างสรรพสินค้าพอถึงเวลาก็ปิด ถือเป็นงานที่ไม่หยุดนิ่ง มีอะไรให้ทำตลอด" ผู้กุมบังเหียนเซ็นทารา กล่าว

 เคยได้ยินหลายคนเปรยเอาไว้ว่า ไม่ควรเอาสิ่งที่รักมาทำเป็นงานประจำ แต่สำหรับเจ้าสัวเซ็นทารากลับคิดตรงกันข้าม เพราะการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คือ ความสุขที่ทำให้พลังในชีวิตของเขาไม่ถดถอย

 "ผมไม่รู้สึกเหนื่อยกับการทำงาน แต่กลับมีความสุขที่ได้ทำ เวลาพักผ่อนของผมก็คือ การได้มาโรงแรมของตัวเอง ได้เห็นลูกๆ หลานๆ วิ่งเล่น หรือไม่ก็พากันไปเล่นน้ำ ได้หัวเราะ ได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ต่อจากนี้จะให้ใครมาสานต่อกิจการผมก็ยังไม่รู้ เพราะคนที่จะทำงานโรงแรมได้ต้องมีใจรักจริงๆ มันเป็นงานที่ต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าใจไม่รักก็จะทำได้ไม่ดี ทุกวันนี้ผมมีความสุขได้เห็นสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมากับมือ มีคนชอบและชื่นชม เท่านี้ผมก็พอใจในชีวิตของผมแล้ว" เจ้าสัวสุทธิเกียรติกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะปลีกตัวไปสนุกสนานกับงานเลี้ยงยามค่ำ ที่แอบกระซิบได้เลยว่าลืมแก่กันเลยทีเดียว

เรื่อง... "ศรีพร เหล่าวณิชยา"
ภาพ..."วันชัย ไกรศรขจิต"