ส่องกระทิงแดง “สราวุฒิ อยู่วิทยา” คนนี้แหละใช่..อนาคต
ชื่อชั้นของ "สราวุฒิ" คนนี้แหละ ที่โลดแล่นบนถนนธุรกิจมาอย่างโดดเด่นอยู่แล้วว่า “จะเป็นก้าวต่อไปของกระทิงแดง!” ยุคใหม่!!!
“ปิดจ๊อบ” แบบงานไม่จบทางธุรกิจ! แต่ทางสังคม เชื่อว่าคนไทยได้โล่งอกกันไป เมื่อ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่รู้กันว่าเป็นบริษัทลูกของกระทิงแดง หลังจากเจอปัญหาเรื่องการเช่าพื้นที่ป่าชุมชนห้วยเม็ก ที่ถูกคัดค้านจากชาวบ้านในพื้นที่อย่างหนัก
ล่าสุดได้ประกาศยกเลิกการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ซึ่งบริษัทระบุว่ามีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท และอาจจะย้ายไปสร้างฐานการผลิตที่ประเทศเพื่อนบ้านแทน แต่ก็ยังแอบหยอดตอนท้ายว่า (ที่จริง) โรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตสำคัญเพื่อการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV
พออ่านถึงตรงนี้เลยเกิดอยากส่องเข้าไปดูในบริษัทแห่งนี้ พร้อมทั้งตัวผู้บริหารเองว่าเป็นใครกันแน่
ตรวจสอบไปมาพบว่า ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทเคทีดีฯ ไม่ใช่ใครที่ไหนชื่อ “สราวุฒิ อยู่วิทยา” ลูกหลานทายาทกระทิงแดงนั่นเอง
ใช่แล้ว! มีการสืบสาแหรก “อยู่วิทยา” พบว่า เจ้าสัวเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดงรุ่นแรกนั้น มีลูกจากภรรยาคนแรกที่ชื่อ “นกเล็ก สดสี” ส่วนภรรยาคนที่สอง ที่ชื่อ “ภาวนา หลั่งธารา”
ทั้งนี้ หากไม่นับ “เครื่องดื่มเรดบูล” ที่ขายไป 70 ประเทศทั่วโลก จากการที่ “เฉลียว” ได้ลงทุนร่วมกับนักธุรกิจชาวออสเตรีย ถือหุ้นคนละ 49% และให้ทายาทคนโต “เฉลิม” ประธานกรรมการบริษัท เรดบูล คอมปานี ลิมิเต็ด กรุงลอนดอน ถือหุ้นอีก 2% ใน Red Bull GmbH. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่ออสเตรีย
ในส่วนของธุรกิจในไทย เครือกระทิงแดงยังมีอีกหลายบริษัท คือ 1.บริษัท สยามไวเนอรี่ จำกัด (ผลิตไวน์) 2.บริษัท สยามไวเนอรี่เทรดดิ้งพลัส จำกัด (ขายปลีกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์) 3.บริษัท คาวาลิโนเซอร์วิส จำกัด (ประกอบกิจการบำรุงรักษาและการซ่อมระบบเครื่องยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์) 4.บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้นำเข้าเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และ 5.บริษัท ไทยเฉลิม จำกัด (กิจกรรมการจัดหาทรัพยากรมนุษย์อื่นๆ)
เหล่านี้ ก็ยังคงได้บุตรชายคนโตของเฉลียวกับภรรยาคนแรกดูแลอยู่ดี นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรม สนามกอล์ฟ โรงพยาบาล และธุรกิจในเครือมากกว่า 20 บริษัท
แต่ในส่วนของเครื่องดื่ม “นอนแอลกอฮอล์” ทั้ง “กระทิงแดง” และอื่นๆ ที่จำหน่ายในไทยและเพื่อนบ้านนั้น น้อยคนจะรู้ว่าเป็นของ “บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “กลุ่มทีซีพีฯ” ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2521
ทีซีพีฯ มีแบรนด์เครื่องดื่มที่เรารู้จักกันดี นอกจากเครื่องดื่มกระทิงแดง (เรดบูล) แล้วยังมี เรดดี้, โสมพลัส, สปอนเซอร์, แมนซั่ม, เพียวริคุ นอกจากนี้ยังมีขนมขบเคี้ยวอย่างเมล็ดทานตะวัน “ซันสแนค”
สำหรับผู้บริหารของทีซีพีฯ คือ “ภาวนา” ภรรยาคนที่สองของเจ้าสัวเฉลียว ที่นั่งเป็นประธานกรรมการ ขณะที่ลูกๆ ทั้ง 6 ของเธอ นั่งเป็นกรรมการบริษัท
ที่น่าสนใจคือชื่อของ สราวุฒิ อยู่วิทยา บุตรชายคนเล็ก นั่งอยู่ในเก้าอี้ “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” และเป็นคนเดียวกับที่เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดใน บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (ทำเกี่ยวกับการจัดการหลักทรัพย์) ที่เพิ่งตัดสินใจทิ้งเงิน 3,000 ล้านบาทในการลงทุนบนที่ดินห้วยเม็กตามที่กล่าวข้างต้น โดยเขาถือหุ้นใหญ่สุดที่ 16.6670% นอกเหนือจากพี่น้องคนอื่นๆ
อย่างไรก็ดี เมื่อสืบค้นยังพบว่า ชื่อชั้นของเขานั้นโลดแล่นบนถนนธุรกิจมาอย่างโดดเด่นอยู่แล้วว่า “คนนี้แหละเป็นก้าวต่อไปของกระทิงแดง!” ทั้งนี้ สราวุฒิเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513 ปัจจุบัน อายุ 47 ปี
ถ้าจะไล่ให้เข้าใจคือ ตระกูลนี้มีธุรกิจ 2 สาย คือ นอกจาก Red Bull GmbH ซึ่งพี่ชายต่างแม่ดูแลอยู่ทางโซนยุโรปแล้ว ยังมีในส่วนของ ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอลฯ หรือ ทีซีพีฯ ที่เขารับผิดชอบ
ล่าสุด ช่วง 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา เขาเพิ่งแถลงข่าวเปิดแผนธุรกิจ 5 ปี (2560-2565) ไปหยกๆ
งานนี้ประกาศลงทุนอีก 10,000 ล้านบาท จะดันทีซีพีฯ ให้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างชัดเจน หวังยอดขายให้โตขึ้น 3 เท่า คือแตะ 100,000 ล้านบาท
เขาระบุว่า ทั้งหมดก็เพื่อ “เพิ่มฐานที่มั่น” ในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงอัตลักษณ์ใหม่ขององค์กร ที่จะทำให้คนรู้จัก “ทีซีพีฯ” มากขึ้น ไม่ใช่แค่ “เรดบูล” หรือ “กระทิงแดง”
นอกจากนี้ ยังประกาศศักดาว่า ปัจจุบันสินค้าของ ทีซีพีฯ ที่ผลิตในไทยได้จำหน่ายไปกว่า 10,000 ล้านกระป๋อง และบริโภคกันกว่า 170 ประเทศ ขณะที่ยังมีโรงงานอยู่ 2 แห่งในไทย และมีโรงงานอีก 3 แห่งในอินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 1 พันล้านลิตรต่อปี !
สำหรับยอดขายรวมครึ่งปีแรกของกลุ่ม ณ 30 มิถุนายน 2560 อยู่ที่ 14,600 ล้านบาท และคาดว่าถึงสิ้นปีจะมียอดขายรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท
แถมยังบอกว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ทีซีพีฯ จะเปิดโรงงานใหม่ อย่างน้อยปีละ 1 แห่งใน 1 ประเทศ เป้าหมาย เพื่อให้กลุ่มธุรกิจทีซีพีฯ เป็น “เฮ้าส์ออฟแบรนด์” ที่ทรงพลัง !!
งานนี้ ไม่รู้ว่า แผนการลงทุนมูลค่าหมื่นล้านของเขา จะรวมการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มูลค่า 3,000 ล้านที่ห้วยเม็ก ซึ่งเขาตัดสินใจทิ้งไปแล้วหรือไม่
แต่ถ้าถามวันนี้ กระทิงแดงฝ่ายไทยในมือทายาทรุ่น 2 อย่าง “สราวุฒิ” จะทำอะไรก็ต้องคิดหนักๆ หน่อย
เพราะในช่วงที่ข่าวคราวของคนในตระกูลอยู่วิทยา (อีกฟาก) ยังร้อนไม่จบ การกลับลำครั้งนี้ของเขาก็น่าจะยังไม่สายเกิน!