ไลฟ์สไตล์

วธ.ย้ายที่ทำการใหม่ไป ถ.เทียนร่วมมิตร 1 ก.ย.  

วธ.ย้ายที่ทำการใหม่ไป ถ.เทียนร่วมมิตร 1 ก.ย.  

31 ส.ค. 2560

วธ.พร้อมย้ายไปที่ทำการใหม่ 1 ก.ย. จัดรถตู้ให้บริการ 2 จุด ได้แก่บริเวณหน้าอาคารธนาลงกรณ์ ถ.ปิ่นเกล้า และหน้าห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต  สอบถามสายด่วนวัฒนธรรม 1765


      นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้สร้างอาคารที่ทำการกระทรวงแห่งใหม่ ถนนเทียนร่วมมิตร กรุงเทพฯ (ติดกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ล่าสุดการดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ จึงได้กำหนดย้ายที่ทำการของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด ได้แก่ สำนักงานปลัด วธ. กรมการศาสนา สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จากอาคารธนาลงกรณ์ ถนนปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นที่ทำการเดิม ทั้งในส่วนการย้ายเอกสาร สิ่งของ และอุปกรณ์การทำงานภายในเดือนสิงหาคม และทุกหน่วยงานจะเริ่มปฏิบัติงานที่ทำการแห่งใหม่ วันที่ 1 ก.ย.

      ทั้งนี้ จากการประชุมผู้บริหาร วธ. ที่ประชุมมีการหารือถึงการอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ในช่วงที่มีการย้ายที่ทำการกระทรวง ซึ่งจากการสำรวจเส้นทางการเดินทางของบุคลากรทั้งหมด ได้กำหนดจัดรถตู้โดยสารให้บริการ 2 จุด ได้แก่บริเวณหน้าอาคารธนาลงกรณ์ ถนนปิ่นเกล้า และหน้าห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต  เพื่ออำนวยความสะดวกในระยะแรกให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน สำหรับประชาชนที่ต้องการติดต่อราชการ วธ. สอบถามรายละเอียดได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม 1765 
      ปลัด วธ. กล่าวต่อไปว่า อาคารที่ทำการใหม่ของ วธ.และอาคารหอศิลป์ร่วมสมัย คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2562 ถือเป็นการดำเนินงานระยะที่ 1 ของโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นพื้นที่บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ (International Cultural Gateway) ขณะนี้เริ่มดำเนินงานในระยะที่ 2 มีการเปิดรับฟังความคิดเห็น การก่อสร้างอาคารศูนย์ประชุม สัมมนาและจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ อาคารโรงละครแห่งใหม่ และอาคารศูนย์ข้อมูลองค์ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรม

     เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีของรัฐบาล นโยบายพัฒนาสู่ประเทศไทย 4.0 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) สังคมไทยจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพความพร้อมในด้านองค์ความรู้โดยเฉพาะองค์ความรู้บนพื้นฐานความเป็นไทยและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ในระบบและนอกระบบที่มีมาตรฐาน

     อาทิ ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร หอศิลป์ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนในสังคมสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ในสังคมโลกได้อย่างสะดวก รวดเร็วและถูกต้อง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น