
ยกระดับอุตสาหกรรม Wellness Thailand 4.0
มธบ. ผนึกภาครัฐ ภาคเอกชน จัดโครงการประชุมวิชาการ “การขยายศักยภาพของธุรกิจ Wellness Thailand 4.0” ฐานของการประกอบธุรกิจการบริการสุขภาพ
วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดโครงการสัมมนาหัวข้อ “การขยายศักยภาพของธุรกิจ Wellness Thailand 4.0” ขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพด้านการบริการและเกิดการขยายตัวขึ้นของอุตสาหกรรม Wellness ในประเทศไทย รวมถึงการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งคุณภาพการบริการ เทคโนโลยีต่างๆ ให้สอดคล้องรับการเติบโตอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของไทย
นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล คณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่าแนวโน้มในการดูแลสุขภาพของมนุษย์โลกปรับเปลี่ยนไปจากอดีตที่นับวันรอความเจ็บป่วยไปสู่การดูแลสุขภาพร่างกายและชะลอวัยจนสามารถทำให้ตนเองมีชีวิตและความสุขที่ยืนยาวมากขึ้น ทุกคนเห็นตรงกันว่า เป็นเรื่องที่ดีกว่าเมื่อเราสามารถกำหนดสุขภาพได้ด้วยตัวเอง และในปี พ.ศ. 2559 สภาการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ประกาศให้ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ธุรกิจท่องเที่ยวขยายตัวเร็วที่สุดในโลก ทำรายได้ 82,000 ล้านเหรียญสหรัฐให้ไทย หรือเท่ากับร้อยละ 20.6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ สำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย ยังเป็นตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 1 ใน 10 ประเทศของเอเชีย-แปซิฟิก และเป็นแชมป์ในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN) ไทยจึงมีโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับการก้าวเป็นเมืองหลวงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก
นพ.บรรจบ กล่าวต่อไปว่า การจัดโครงการประชุมวิชาการครั้งนี้ มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะรวมภาคการศึกษา ภาคธุรกิจและภาครัฐ มาร่วมกันสร้าง Business Model ของ Wellness Industry ประเทศไทยให้สอดคล้องกับนโยบาย “Thailand 4.0” เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เชื่อมโยงกับการพัฒนาสมรรถนะทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้า การลงทุน พัฒนาสู่ชาติการค้า การพัฒนาผู้ประกอบการและเศรษฐกิจชุมชน พัฒนาทักษะผู้ประกอบการ ยกระดับผลิตภาพแรงงานและพัฒนา SMEs สู่สากล
"ทางมหาวิทยาลัยพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมการบริหารจัดการเศรษฐกิจส่วนรวมของ Wellness Industry เพื่อเป็นต้นแบบของประเทศเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคบริการ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจการบริการสุขภาพ และการลงทุนที่โดดเด่นในภูมิภาคอาเซียน" คณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ กล่าวทิ้งท้าย



