
อภัยภูเบศร มอบสมุนไพรหายาก“แร้งคอคำ”ให้"ลุงตู่"
อภัยภูเบศร มอบสมุนไพรหายาก “แร้งคอคำ” ให้นายกฯ เผยสรรพคุณสุดเจ๋งรักษาต่อมลูกหมากโตขะงัด ร่วมทำงานกับจุฬา ต่อยอดเป็นยา ขายทั่วอาเซียน
วันที่ 29 สิงหาคม 2560 คณะผู้จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 14 นำโดย นพ.สุเทพ วัชรปิยานันท์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และภาคีเครือข่ายจัดงานได้ เข้าพบนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 14 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 3 กันยายน 2560 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพคเมืองทองธานี อาคาร 6-8 จังหวัดนนทบุรี
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงการเข้าพบนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ว่า “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติแห่งชาติในปีนี้ อภัยภูเบศรได้นำเสนอสมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพเพศชาย โดยมีการนำสมุนไพรหายากมาให้ชมในงานกันด้วย หนึ่งในสมุนไพรหายากนั้นคือ แร้งคอคำ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลทั่วประเทศ พบว่าสมุนไพรชนิดนี้มีการใช้ในหลายพื้นที่ ในข้อบ่งใช้ที่คล้ายกันคือ การรักษาต่อมลูกหมากโต
ทั้งนี้ในประเทศเวียดนามยังได้มีการสกัดสมุนไพรชนิดนี้จำหน่ายทางอินเตอร์เน็ตในข้อบ่งใช้เพื่อรักษาต่อมลูกหมาก และเนื้องอกที่มดลูก ราคาขายขวดละสองพันบาท ซึ่งนับว่าสองโรคนี้เป็นปัญหาสุขภาพของคนไทยที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาวิจัยมากนัก ควรค่าแก่การนำมาศึกษาวิจัยเพื่อให้สามารถขึ้นทะเบียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการตามแนวทางการขึ้นทะเบียนยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งหากทำสำเร็จน่าจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกพืชสมุนไพรได้มาก
เนื่องจากโรคต่อมลูกหมากโตและเนื้องอกที่มดลูก มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก การศึกษาวิจัยทั้งกระบวนการจะทำให้เราทราบสายพันธุ์พืชที่ให้สารสำคัญสูงและมีประสิทธิภาพในการรักษาโรค ซึ่งสามารถนำไปแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรเพื่อสร้างรายได้ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยในกลุ่มนี้อีกด้วย ซึ่งการพัฒนายาจากองค์ความรู้พื้นบ้านนับว่าเป็นความถนัดของอภัยภูเบศร โดยล่าสุดเราสามารถขึ้นทะเบียนยาพัฒนาจากสมุนไพร ”มัสคูลสเปรย์“ จากสารสกัดสมุนไพรกระดูกไก่ดำ ที่มีการพัฒนามาจากตำรับยาพื้นบ้านของไทยและของอาเซียน โดยนำมาต่อยอดวิจัยจนสามรถขึ้นทะเบียนได้ และปัจจุบันเรามีต้นพันธุ์กระดูกไก่ดำที่ให้ผลผลิตสูงแจกจ่ายให้เกษตรกรได้ปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ คาดว่าจะทำให้เกษตรกรที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของอภัยภูเบศรมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30%”
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ได้กล่าวว่า จากการทำงานด้านสมุนไพรมานานกว่า 30 ปี ขอยืนยันว่าประเทศไทยของเรานั้นร่ำรวยภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพ จะหยิบจับสมุนไพรใด ก็สามารถนำมาแปลงเป็นมูลค่าได้ทั้งหมด ส่วนตัวได้เขียนหนังสือบันทึกของแผ่นดิน เพื่อบันทึกองค์ความรู้เรื่องสมุนไพรไว้ให้คนไทยได้รู้จักและนำไปใช้ประโยชน์ โดยปัจจุบันเขียนมาทั้งหมด 10 เล่มแล้ว และจะแจกฟรีให้กับประชาชนที่มาร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 14 วันละ 200 เล่ม
"สำหรับผู้สนใจสามารถไปรับหนังสือดังกล่าวได้ที่งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 14 วันที่ 30 สิงหาคม – 3 กันยายน 2560 ณ เมืองทองธานี อาคาร 6-8 นอกจากหนังสือและสูตรยาที่แจกให้ฟรีแล้ว ประชาชนสามารถไปหาซื้อผลิตภัณฑ์มัสคูลสเปรย์และผลิตภัณฑ์อื่นๆของอภัยภูเบศรในงานได้อีกด้วย”ภญ.ดร.สุภาภรณ์กล่าว