ติดตาม นิสิต"ศิลปกรรม มศว" สอนเพื่อนต่างชาติ “นุ่งโจงกระเบน –รำวงมาตรฐาน”...กับ"เวบไซด์ คมชัดลึก"
หายากมากที่ใครจะมี “โอกาส” ได้สอนให้เยาวชนในระดับมหาวิทยาลัย จากต่างประเทศ “นุ่งโจงกระเบน” และสอน “รำวงมาตรฐาน” ให้กับพวกเขาและพวกเธอ แบบใกล้ชิดและมีความหมายของคำว่า “เพื่อน”
โครงการเครือข่ายศิลปวัฒนธรรมเชิงปฏิบัติการและมหกรรมศิลปะดนตรีครั้งที่ 7 ที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Culture and Arts Festival 2017” จัดโดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) กับสถาบันเครือข่าย ทางศิลปะและวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ปี2560 นี้ มีประเทศที่มาร่วมโครงการทั้งสิ้น 10 ประเทศ คืออินโดนีเซีย สิงคโปร์ ภูฏาน รัสเซีย แม็กซิโก อินเดีย มาเลเซีย บรูไน อูสเบกีสถาน และไทย ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาด้านศิลปนาฏศิลปของประเทศนั้นๆ
น.ส.วริศรา พรรณนารักษ์
นางสาววริศรา พรรณนารักษ์ “น้ำทิพย์” อายุ 21 ปี เรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 สาขานาฏศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว บอกเล่าความรู้สึกว่าโครงการบอกว่า ภาคภูมิใจ ประทับใจ และสิ่งสำคัญคือได้มิตรภาพ เรามีโอกาสสอนนักศึกษาต่างชาตินุ่งโจงกระเบนและรำวงมาตรฐาน เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการจริงๆ ในฐานะที่เราเรียนครูและเมื่อสำเร็จการศึกษาต้องไปเป็นครูสอนนาฏศิลป์ ทำให้เราเห็นว่าไม่ว่าลูกศิลป์เราจะเป็นใคร เราต้องสอนและฝึกฝนให้เขาลงมือทำจริงให้ได้ อย่างเข้าใจ สนุกและมีความสุขกับนาฏศิลป์ไทย ซึ่งเป็นมรดกของชาติ
นักศึกษาต่างชาติฝึกหัดรำวงมาตรฐาน
ทั้งนี้ "น้ำทิพย์" ยังมีโอกาส ได้แสดงชุดต้อนรับเพื่อนนักศึกษาต่างชาติในชุด “ไภรีรำมะนา” เป็นการแสดงของภาคใต้ ที่แสดงให้เห็นถึงการอวดลีลาการตีกลอง ของผู้หญิง มีการเล่นกลองเป็นคู่ เป็นหมู่คณะ ที่จะเกิดลีลาท่าทางที่หลากหลายมากขึ้น และเห็นถึงความสวยงาม พร้อมเพรียงของลีลาการตีกลอง
รอยยิ้มตามมากับคำพูดต่อว่า นอกจาดนี้ยังได้เรียนรู้การแสดงของแต่ละประเทศอย่าง ประเทศรัสเซียมีการเต้นในรูปแบบ ที่ใช้เท้าเป็นส่วนใหญ่ ประเทศอินโดนีเซีย เป็นการปรบมือในหลากหลายรูปแบบประกอบจังหวะเพลงที่สนุกสนาน และประเทศอินเดีย ได้เรียนรู้เครื่องดนตรีของประเทศอินเดีย
“การเรียนรู้นอกชั้นเรียน ผ่านการลงมือและปฏิบัติทำจริง มันสำคัญมากๆ และจะอยู่นความทรงจำมิรู้ลืม เหมือนเช่นเพื่อนๆ ต่างชาติจะจดจำการนุ่งผ้าโจงกระเบนและรำวงมาตรฐานแบบไทยได้"
น.ส.ผกามาศ แซ่โล้
ส่วน นางสาวผกามาศ แซ่โล้ “หมู” อายุ 21 ปี เรียนชั้นปีที่ 4นาฏศิลป์ศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ เล่าว่า เกิดความประทับใจ และภูมิใจ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ นอกจากการเป็นนักแสดงเเล้ว งานนี้ยังทำให้หนูได้ฝึกอะไรหลายๆอย่าง เช่นได้ทำงานในส่วนของการเตรียมงาน ติดต่อประสานงาน ซึ่งเหมือนเป็นการฝึกความรับผิดชอบในตัวหนูด้วย
เตรียมจับผ้าเพื่อนุ่งโจงกระเบน
"หมู" กล่าวอีกว่า รวมทั้งหนูยังได้เพื่อนใหม่ ที่มาจากหลายๆ ประเทศ มาจากหลายสถาบันการศึกษา และที่สำคัญมากๆ คือ ได้สอนเพื่อนๆนุ่งผ้าโจงกระเบน สอนรำวงมาตรฐาน ทำให้เห็นว่า เรื่องราวของศิลปวัฒนธรรมเรียนรู้และทำความเข้าใจได้ ผ้าทางการดูและลงมือ “สัมผัส” จริงๆ
" นับเป็นความโชคดีของพวกเราชาว มศว ที่เพื่อนต่างชาติ จากหลายประเทศ ได้เดินทางมาที่ประเทศไทย และมาซึมซับ ความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรมการแสดงต่างๆ การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้เพื่อนใหม่ได้เข้าใจความเป็นไทย จึงมีความหมายมาก”
เธอได้แสดงเพื่อต้อนรำ เพื่อนๆ ด้วยการแสดง 3 ชุด คือ "ไภรีรำมะนา" เป็นการแสดงที่ทำให้เห็นถึงลีลาการตีกลองของผู้หญิง โดยมีอุปกรณ์คือ"รำมะนา" ซึ่งเป็นการแสดงชุดเดียวกับ"น้ำทิพย์" อีกชุดคือ "นัว" เป็นการเเสดงที่นำเอาบทอัศจรรย์มาตีความเป็นการเเสดง และการแสดงชุดสุดท้ายคือ "หริหระ" เป็นการแสดงที่ทำให้เห็นถึงความเชื่อความศรัทธาที่หลอมรวมกันจนกลายเป็น"เทพเจ้า"
สีหน้าและแววตาของ"น้ำทิพย์-หมู"สองสาวจาก สาขานาฏศิลปศึกษา มศว บ่งบอกให้รู้ว่า เธอทั้งคู่อิ่มอกอิ่มใจอย่างไรที่ได้ ร่วมสอนเพื่อนต่างชาติให้รู้จักศิลปวัฒนธรรมไทย และภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนคนไทยถ่ายทอดให้ชาวต่างชาติได้รู้ว่าการแสดงในแต่ละชุดนั้น ล้วนแล้วแต่มีความเป็นมา แทบทั้งสิ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง