ไลฟ์สไตล์

ลดหย่อนภาษี2.5-3เท่าจูงใจซื้อหนังสือบริจาค5หมื่นเล่ม

ลดหย่อนภาษี2.5-3เท่าจูงใจซื้อหนังสือบริจาค5หมื่นเล่ม

16 ก.ย. 2552

กรรมการส่งเสริมการอ่าน ศึกษาแนวทางให้มาตราการลดหย่อนทางภาษีจูงใจคนซื้อหนังสืออ่านและบริจาค อาจให้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 2.5-3 เท่า หากซื้อหนังสือบริจาคสถานศึกษาเกิน 5 หมื่นบาทขึ้น ไป พร้อมเตรียมเข็นกว่า 30 โครงการ รณรงค์ส่งเสริมการอ่านในรอบ 10 ปี

 (16 ก.ย.) นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ว่า หลังจากที่มีการประกาศทศวรรษส่งเสริมการอ่าน 2552-2561 ไปแล้วและได้ตั้งเป้าหมายของรณรงค์ส่งเสริมการอ่าน 5 ข้อ คือ ประชากรวัยแรงงานรู้หนังสือในระดับใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน เพิ่มจากร้อยละ 97.21 เป็น ร้อยละ 99 ประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป อ่านออกเขียนได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 92.64 เป็น ร้อยละ 95 ค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของคนไทยเพิ่มจากปีละ 5 เล่ม เป็น 10 เล่ม เพิ่มและพัฒนาแห่งการอ่านให้ครอบคลุมทุกตำบล/ชุมชน และสร้างภาคีเครือข่ายการอ่านเพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้

 เพราะฉะนั้น ที่ประชุมจึงมีมติตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อจัดทำแผน/โครงการรณรงค์ส่งเสริมการอ่านในช่วง 10 ปี โดยเฉพาะแผนเฉพาะหน้าของการดำเนินการงานในปี 2552-2553 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้า คณะกรรมการส่งเสริมการอ่านฯ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 3 ชุด เพื่อรับผิดชอบตามยุทธศาสตร์ 3 เรื่อง คือ ยุทธศาสตร์พัฒนาคนไทยให้มีความสามารถในการอ่าน ยุทธศาสตร์พัฒนาคนไทยให้มีนิสัยรักการอ่าน และยุทธศาสตร์สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการอ่านอย่างยั่งยืน ซึ่งคณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด ได้เสนอโครงการมาประมาณ 32 โครงการ ก็จะให้คณะทำงานไปกลั่นกรองเลือกโครงการที่สมควรดำเนินการพร้อมหาเจ้าภาพรับผิดชอบแต่ละภารกิจ ซึ่งโครงการที่มีแนวโน้มว่า จะดำเนินการก็อย่างเช่น โครงการหนังวือเล่มแรก ส่งเสริมให้พ่อ-แม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่อายุ 6 เดือน โครงการคาราวานหนังสือสู่ประตูบ้าน เป็นต้น

 นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ที่ประชุมยังตั้งกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อไปศึกษาการใช้มาตราการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการ เช่น หากซื้อหนังสือเพื่ออ่านหรือเพื่อบริจาค สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ปัจจุบัน หากนิติบุคคลใด ซื้อหนังสือบริจาคมให้กับสถานศึกษาสังกัด สำนักคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย( กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ.) ในจำนวนเงิน 50,000 บาท ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า คือ 100,000 บาท

  แต่ที่ประชุมได้หารือกันว่าควรจะเพิ่มขึ้นให้เป็น 2 .5 เท่า หรือ 3 เท่า เพื่อจูงใจให้คนซื้อหนังสือบริจาคมากขึ้น นอกจากนี้จะให้ขยายฐานการซื้อหนังสือบริจาคให้กับหน่วยงานอื่น ๆ ได้ เช่น บริจาคให้กับห้องสมุด 3 ดี ศูนย์เด็กเล็ก ห้องสมุดวัด ห้องสมุดในสลัมคลองเตย เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการอ่าน รวมทั้งให้คณะทำงานไปพิจารณาดูว่าจะสามารถลดหย่อนภาษีในรูปแบบอื่นด้วย เพื่อให้เป็นรูปธรรมเสียที หลังจากคณะทำงานได้ข้อสรุปแล้ว ตนก็จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป ทั้งนี้ ให้เวลาคณะทำงานทั้ง 2 ชุด 2 สัปดาห์เพื่อทำข้อสรุปกลับมาเสนอที่ประชุมนัดหน้าในวันที่ 1 ต.ค. นี้