ไลฟ์สไตล์

คาราวานวิทย์ตะลุยเมืองแพร่

คาราวานวิทย์ตะลุยเมืองแพร่

06 ก.ค. 2560

กิจกรรมวิทยาศาสตร์ดี ๆ ที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อน ๆ กับ คาราวานวิทยาศาสตร์ที่ สสวท.และ อพวช.จัด ส่งตรงถึงน้องๆ ที่เมืองแพร่ ณ โรงเรียนพิริยาลัย จังหวัดแพร่

        สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ร่วมกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักให้นักเรียนอยากเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และให้นักเรียนมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใกล้ตัว และเกิดความสนุกสนาน ไม่นานนี้ได้ร่วมจัดคาราวานวิทยาศาสตร์ส่งตรงถึงเมืองแพร่ ณ โรงเรียนพิริยาลัย จังหวัดแพร่  

       ดร.พรพรรณ  ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า “เนื่องจาก อพวช. มีนโยบายที่จะนำวิทยาศาสตร์ไปสู่ชุมชน และนักเรียน สสวท. จึงได้ร่วมกับ อพวช.  โดย สสวท. ได้นำนิทรรศการ กิจกรรม Hands-on และการประชุมปฏิบัติการ ไปให้ความรู้คู่กับความสนุกสนาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับการประชุมปฏิบัติการ ได้แก่ สนุกกับกิจกรรม GLOBE  กังหันน้ำ Sprinkler  รถไฟเหาะ  กล้องตาเรือ  Scikids Tower  ลมกู้ภัย  Pan Balance  Pluto landing  และผ้ามัดย้อม ในส่วนของกิจกรรม Hands-on มีทั้งหมด 7 ฐาน แต่ละกิจกรรมจะมีการสะสมแต้มเพื่อไปแลกของรางวัล”

คาราวานวิทย์ตะลุยเมืองแพร่

กิจกรรมกังหันน้ำ Sprinkler

       ตัวอย่างกิจกรรมประชุมปฏิบัติการ เช่น กิจกรรมกังหันน้ำ Sprinkler นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานของกังหันลมปั๊มน้ำสปริงเกลอร์ โดยใช้หลักการแบร์นูลลี ซึ่งบริเวณที่มวลอากาศมีการเคลื่อนที่เร็ว ความดันอากาศจะต่ำกว่าบริเวณที่มวลอากาศเคลื่อนที่ช้า ซึ่งแรงดันอากาศเหนือน้ำจะมีมากกว่าด้านบน ทำให้ดันน้ำขึ้นไปตามท่อ และออกมาบริเวณปลายท่อ บวกกับแรงเหวี่ยง จึงมีลักษณะเป็นปั๊มน้ำสปริงเกลอร์

       นายวัฒน วัฒนากูล และนางสาวกุลธิดา สะอาด ผู้จัดกิจกรรมกังหันน้ำ Sprinkler ได้กล่าวถึงผลตอบรับของผู้ร่วมกิจกรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษา ว่า ส่วนใหญ่ให้ความสนใจต่อการร่วมประดิษฐ์ชิ้นงานดังกล่าว ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการให้นักเรียนได้เรียนรู้ว่ากังหันสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตประแสไฟฟ้าหรือการนำไปประยุกต์ใช้ในการสูบน้ำ การทำระหัดวิดน้ำ ซึ่งจริงๆ แล้วกังหันในยุคเริ่มแรกที่นำมาใช้ในประเทศไทย มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นระหัดวิดน้ำในพื้นที่เกษตรกรรม เช่น กังหันลมใช้วิดน้ำทะเลเข้านาเกลือ เข้านาข้าว แต่กิจกรรมนี้เป็นการนำกังหันมาประยุกต์ใช้ในการปั๊มน้ำโดยใช้ความแตกต่างของความดันอากาศ และกิจกรรมนี้ถือว่าเป็นการจุดประกายที่จะนำเข้าสู่การเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา (STEM Education)

คาราวานวิทย์ตะลุยเมืองแพร่

กิจกรรม GLOBE  “แว่นส่องเมฆ”

      นางสาวศิริพร เหล่าวาณิชย์  ผู้จัดกิจกรรมสนุกกับกิจกรรม GLOBE  “แว่นส่องเมฆ”  เล่าว่า กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปร่าง สี และขนาดของเมฆ โดยการสังเกต ผ่านอุปกรณ์ที่ทำขึ้น โดยคาดว่า นักเรียนสามารถสังเกตและบอกรูปร่าง สี ขนาดของเมฆที่พบในชีวิตประจำวันได้  ในกิจกรรมจะให้นักเรียนจะได้ลงมือทำอุปกรณ์สำหรับศึกษาเรื่องเมฆ โดยทำเป็นแว่นสำหรับดูเมฆ มีลักษณะเป็นช่องตรงกลาง ล้อมรอบด้วยภาพเมฆ และข้อมูลที่บอกลักษณะของเมฆแต่ละชนิด ผลการตอบรับจากเด็กและครูที่เข้าร่วมกิจกรรม  พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถลงมือทำ และใช้อุปกรณ์ในการสังเกตเมฆ

       นายภาณุกูล คำเหลือง ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการและครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนบ้านร้องกวาง (จันทิมาคม) อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ซึ่งได้พานักเรียนชั้น ป.3 ป. 4 มาร่วมงานคาราวานวิทยาศาสตร์  และร่วมกิจกรรมแว่นส่องเมฆนี้ด้วย กล่าวว่า กิจกรรมนี้ช่วยให้เราสามารถดูว่าวันนี้ฝนตก หรือไม่ตกได้จากก้อนเมฆ เพราะว่าหากท้องฟ้าสดใส เมฆไม่เยอะ ทำให้เราพอจะรู้ว่าฝนไม่ตก ถ้าตอนเช้าเมฆเยอะ แล้วมีความมืดครึ้ม เด็ก ๆ จะได้เตรียมตัวนำเอาเสื้อกันฝน ร่มมา เผื่อฝนจะตก ซึ่งเกี่ยวข้องกับบทเรียนพอดี นอกจากนั้นเด็กๆ ยังได้ออกกำลังกล้ามเนื้อมือจากการทำกิจกรรมด้วย

คาราวานวิทย์ตะลุยเมืองแพร่

แว่นส่องเมฆ

       มาดูความคิดเห็นของเด็กๆ ชั้น ป. 3 จากโรงเรียนบ้านร้องกวาง (จันทิมาคม) เด็กชายชัยวัฒน์ ซ่อนบุญ  จังหวัดแพร่  (มอส) บอกว่า  สนุก ชอบ ทำให้รู้ว่าเมื่อไหร่ฝนจะตก จากรูปร่างของเมฆ  เด็กชายนิพพิชฌ์รชต  คะจรรยา (ฟิล์ม) เล่าว่า  แว่นส่องเมฆนี้ใช้ดูว่าเมื่อไหร่แดดจะมา เมื่อไหร่ฝนจะตก  เมฆมี 3 ระดับ  สนุกดีครับ  ถ้ามีกิจกรรมแบบนี้อยากมาอีก และ เด็กหญิงธนัชพร  ทาแก้ว (ออมแอม) บอกว่า  ได้เรียนรู้ว่าเมฆที่เราดูวันนี้มีหลายแบบ เมฆที่จำได้แม่นมากก็คือเมฆฝน คือ เมฆแบบตกนิดๆ กับเมฆที่ตกแล้วมีเสียงฟ้าผ่า ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ วันนี้เมฆที่เราเจอเป็นเมฆระดับสูง ชอบเรียนวิทยาศาสตร์ เพราะสนุกค่ะ 

         นางนวลจันทร์  ฤทธิ์ขำ  ผู้จัดกิจกรรมรถไฟเหาะ อธิบายว่า กิจกรรมนี้ใช้ความรู้เกี่ยวกับสมบัติของแม่เหล็กต่างขั้วกันจะดูดกัน และขั้วเดียวกันผลักกัน มาประดิษฐ์รถไฟที่สามารถเหาะได้ ถ้ารถไฟที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้ลอยได้แล้ว ให้สามารถบรรทุกลูกแก้วได้มากที่สุดด้วย  ซึ่ง สสวท. สามารถปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้ร่วมกิจกรรม ตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาได้

คาราวานวิทย์ตะลุยเมืองแพร่

กิจกรรมรถไฟเหาะ 

         ผู้ร่วมกิจกรรมรถไฟเหาะ เด็กชายธีธัช  อุปถัมภ์  (ต้นสน)  เด็กชายศศิวัฒน์  ศฤงคาร  (ปั๊ม)  เด็กชายศุมงคล  หงส์ชัย (ขิน)  ชั้น ม. 2 โรงเรียนพิริยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ กล่าวว่า การได้ร่วมทำกิจกรรมรถไฟเหาะ ทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับแรงของแม่เหล็ก การทำงานและประโยชน์ของแม่เหล็ก เช่น รถไฟเหาะ รถไฟความเร็วสูง  หรืออาจนำไปประยุกต์ใช้ในงานอื่นๆ เช่น ใช้แม่เหล็กดูดผงตะไบเหล็กขึ้นมา  ใช้แม่เหล็กทำเป็นปั้นจั่นเอาไว้ดึงเศษเหล็กขนาดใหญ่  หรือการแยกเหล็กจากสารอื่นที่ปนอยู่ ใช้ในการทำรถลอยได้โดยอาศัยแรงผลักกันของขั้วแม่เหล็ก ซึ่งที่ประเทศจีนได้มีการทดลองใช้ ในการทำถนนให้มีแม่เหล็กอยู่ด้านใต้ของถนน  เข็มทิศก็ใช้แม่เหล็กซึ่งจะหันไปทางทิศเหนือตลอด นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้ความสามัคคีของเพื่อนในกลุ่ม หากเราทำคนเดียวเราอาจทำไม่สำเร็จ หลายคนช่วยกันคิดก็จะประสบความสำเร็จได้

         คุณครูสมบัติ จันทร์ศรี  ครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ โรงเรียนบ้านห้วยลากปืน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่  ก็ได้พานักเรียนชั้น ป. 3 –ป. 6 มาร่วมกิจกรรมรถไฟเหาะเช่นกัน โดยกล่าวว่า กิจกรรมนี้ช่วยให้นักเรียนได้นำสิ่งที่เรียนรู้ไปทดลองใช้ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมา

คาราวานวิทย์ตะลุยเมืองแพร่

 นายปัณณวรรธ  สุวรรณพงศ์  (ภูมิ)  ชั้น ม. 4  โรงเรียนพิริยาลัย

         นายปัณณวรรธ  สุวรรณพงศ์  (ภูมิ)  ชั้น ม. 4  โรงเรียนพิริยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ พี่เลี้ยงประจำฐานกิจกรรมของ สสวท. เล่าว่า ทางโรงเรียนให้โอกาสนักเรียนชั้น ม.ปลาย จากห้องเรียนพิเศษ เข้ามาร่วมจัดกิจกรรม ก่อนจัดกิจกรรมจะมีการเตรียมความพร้อมในการให้ความรู้และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น ถ้าน้องไม่เข้าใจ เรามีวิธีอธิบายอย่างไร บางทีน้องยังเป็นเด็กอยู่ ก็ต้องค่อยๆ อธิบาย ผมดูแลฐานลูกเต๋า ลูกเต๋า  ซึ่งเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการคลี่ลูกบาศก์ ทำได้หลายแบบวิธีการ ประทับใจตรงที่มีน้องๆ หลายคนน่ารักมาก เข้ามาร่วมกิจกรรมฐาน ให้ผมรู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน  ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้วิธีการพูดคุยให้ความรู้กับน้องๆ มากมาย และเมื่อผมเข้าไปร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ในฐานอื่นๆ ก็ได้รู้กระบวนการคิด ได้รู้อัลกอริทึ่มเกี่ยวกับการย้ายสิ่งของ และรู้ว่าการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ได้มีแค่วิธีเดียว แต่มีวิธีการคิดและลงมือทำที่หลากหลายครับ

        ทั้งนี้ สสวท. จะมีการจัดกิจกรรมในโอกาสต่างๆ สำหรับครู นักเรียน และผู้สนใจ ได้เข้าร่วมกิจกรรมตลอด ทั้งปี ผู้สนใจสามารถติดตามได้ในเว็บไซต์ สสวท.www.ipst.ac.th  หรือเฟซบุ๊ก IPST Thailand https://www.facebook.com/ipst.thai