ไลฟ์สไตล์

บุหรี่ไฟฟ้า กระตุ้นพฤติกรรมสูบบุหรี่มวนเพิ่ม 4 เท่า

บุหรี่ไฟฟ้า กระตุ้นพฤติกรรมสูบบุหรี่มวนเพิ่ม 4 เท่า

01 ก.ค. 2560

วิจัยวัยรุ่น พบพฤติกรรมเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะหันไปสูบบุหรี่ธรรมดาด้วยเกือบ 4 เท่าตัว มากกว่าเยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้า เหตุมีนิโคตินเป็นตัวเร่งเช่นกัน

      รศ.นพ.ฉันชาย  สิทธิพันธุ์  ภาควิชาอายุรศาสตร์  คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เปิดเผยว่ามีรายงานจากการทบทวนงานวิจัยล่าสุด สรุปได้ว่า พบพฤติกรรมเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะหันไปสูบบุหรี่ธรรมดาด้วยเกือบ 4 เท่าตัว มากกว่าเยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้า เหตุมีนิโคตินเป็นตัวเร่งเช่นกั

       รายงานดังกล่าวเผยแพร่ในวารสารแพทยสมาคมสหรัฐอเมริกา จามาพีเดียตริค (JAMA Pediatrics) ฉบับวันที่ 26  มิถุนายน 2560 โดย ดร.ซาเมียร์  โซนจิ  จากคณะแพทยศาสตร์ดาร์ทเมาท์  ไกเซล รัฐนิวแฮมเชียร์  ด้วยโจทย์วิจัยที่ต้องการทราบความสัมพันธ์ของการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับการสูบบุหรี่ธรรมดาในเยาวชน โดยทำการวิเคราะห์รายงานวิจัย 9 ชิ้น ที่มีการติดตามระยะยาวในเยาวชนรวม 17,389  ราย  อายุระหว่าง 14 ถึง 30 ปี  โดยร้อยละ 56.0  ของตัวอย่างเป็นผู้หญิง  พบว่าอัตราการเริ่มสูบบุหรี่ธรรมดา  ในคนที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าเท่ากับ 30.4%  เปรียบเทียบกับ 7.9%  ในคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า  นั่นคือเยาวชนที่เริ่มต้นจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า  การติดตามต่อมาพบว่ากลายเป็นผู้เริ่มสูบบุหรี่  มากกว่าผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วกลายเป็นผู้สูบบุหรี่ถึงเกือบ 4 เท่าตัว

       คณะผู้วิจัยวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่การสูบบุหรี่ไฟฟ้า  นำไปสู่การสูบบุหรี่ธรรมดาว่าข้อแรก  การสูบบุหรี่ไฟฟ้า  มีขั้นตอนทางพฤติกรรมเหมือนกับการสูบบุหรี่ธรรมดา คือการเคลื่อนไหวโดยการใช้มือนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้าปาก  เกิดการสูบเข้าสู่ปอดและหายใจออก เป็นทักษะเดียวกัน ตัวอย่างคือ  วัยรุ่นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าสามารถที่จะพ่นควันออกมาให้เป็นรูปวงกลมเหมือนกับวัยรุ่นที่สูบบุหรี่  การเรียนรู้เพื่อจะสูบบุหรี่ไฟฟ้า จึงเป็นการเรียนรู้เดียวกันกับการสูบบุหรี่  และทำให้การเปลี่ยนจากสูบบุหรี่ไฟฟ้าไปสูบบุหรี่ธรรมดาเป็นไปได้ง่าย

บุหรี่ไฟฟ้า กระตุ้นพฤติกรรมสูบบุหรี่มวนเพิ่ม 4 เท่า

รศ.นพ.ฉันชาย  สิทธิพันธุ์

        ประการต่อมาคือเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจจะเกิดการติดนิโคตินได้ง่าย  เนื่องจากนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในรูปแบบเดียวกับที่มีในบุหรี่ธรรมดา  ถูกดูดซึมผ่านปอดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว  ทำให้เยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีความโน้มเอียงที่จะเปลี่ยนไปสูบบุหรี่ธรรมดาได้  เพื่อสนองความต้องการนิโคตินที่น่าพึงพอใจกว่า เนื่องจากการตรวจสอบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหลาย ๆ ตัวอย่าง พบมีความเข้มข้นของนิโคตินที่แตกต่างกัน  คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคติน  ระดับต่ำ  จึงมีแนวโน้มที่จะหันไปสูบบุหรี่ธรรมดาที่ทำให้ร่างกายได้รับนิโคตินมากขึ้น และการสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังทำให้เยาวชนไปเข้ากลุ่มกับเพื่อนที่สูบบุหรี่ธรรมดาง่ายขึ้น  จนเกิดการเปลี่ยนไปสูบบุหรี่ธรรมดาในที่สุด  ผู้วิจัยสรุปว่าปัญหา  การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในด้านสาธารณสุขคือ  อาจทำให้อัตราการสูบบุหรี่ของเยาวชนชะลอการลดลง  หรือกลับมีอัตราสูงขึ้น ก็ได้  ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และให้มีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า

        ต้องการสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ  มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่  โทร. 0-2278-1828