
ศธ.เร่งจัดทำแผนปีงบฯ 2562
ศธ.เตรียมจัดทำแผนปีงบประมาณ 62 แบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ในระดับพื้นที่เน้นบูรณาการแผนงานทั้งภูมิภาคและจังหวัด และแผนเชิงยุทธศาสตร์ชาติ
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.ที่มีพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้หารือถึงการเตรียมการจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งกำหนดการจัดทำแผนออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะเร่งด่วน การจัดทำแผนในระดับพื้นที่ แบ่งเป็น แผนระดับภูมิภาคและแผนระดับจังหวัด ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับบทบาทของสำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) โดยต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักบริหารงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของพื้นที่ โดยจะต้องเป็นแผนบูรณาการที่เชื่อมต่อกันในระดับจังหวัดและภูมิภาค ซึ่งต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ และระยะที่ 2 จัดทำแผนที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเน้นจัดทำแผนบูรณาการที่สอดคล้องกับยุทธศาสต์ชาติทั้ง 6 ด้าน ซึ่งต้องแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้
“คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)และศธภ.จะเป็นแกนหลัก ในการทำงานเรื่องนี้ ถือเป็นภารกิจเร่งด่วน แต่โดยหลักการทำงาน ศธ.จะเน้นการบริการโอกาสทางการศึกษาของนักเรียนให้ทั่วถึง ทั้งการศึกษาของเด็กอนุบาล 3 ขวบ การเข้าเรียนชั้นม.1 การเรียนต่อชั้น ม.ปลายสายสามัญและสายอาชีพ ที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ ตลอดจนคุณภาพผู้เรียน ทั้งนี้ ในส่วนการตั้งงบฯปี 2562 ของสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ ที่ประชุมครม.ได้ฝากด้วยว่าขอให้คำนึงถึงตัวชี้วัดในการผลิตที่สอดคล้องกับสาขาที่เป็นที่ต้องการของประเทศด้วย”ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม การจัดทำแผนปฏิบัติงานของปีงบประมาณ 2561 ศธ.จะวางแผนล้อไปกับนโยบายของรัฐบาลให้สอดรับกับการของบประมาณปีงบฯ 2562 ที่แบ่งเป็นระดับพื้นที่และระดับยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยเพื่อให้การทำงานเชื่อมโยงกัน
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ครม.ได้มอบหมายให้ ศธ.เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ทำการสำรวจข้อมูลผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ โดยส่งนักศึกษาในสังกัด สอศ.และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 70,000คน รวมถึงครูและบุคลากรทางการศึกษา 2,380 คนร่วมลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้