ไลฟ์สไตล์

สารพันปัญหา(ซ้ำซาก)สกสค.รอ“แก้ไข

สารพันปัญหา(ซ้ำซาก)สกสค.รอ“แก้ไข

01 มิ.ย. 2560

ภาระงานและปัญหาใน สกสค.มีมากจำเป็นต้องได้ตัวจริง ที่มีความพร้อมสามารถทำงานได้เต็มเวลา เข้ามาบริหารและแก้ไขปัญหาจึงนำมาสู่การเฟ้นหา“เลขาธิการสกสค.”

     4 โมงเย็นวันที่ 1 มิถุนายนนี้ คณะกรรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)และคณะกรรมการคุรุสภา ซึ่งทั้ง 2 คณะมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน จะพิจารณาตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองตรวจสอบและคัดเลือกบุคคลบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมดำรงตำแหน่ง “เลขาธิการ สกสค.”-“เลขาธิการคุรุสภา” เพื่อคัดเลือกตัวจริง!!

     โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อ “เลขาธิการ สกสค.”และมีคุณสมบัติครบ มาแสดงวิสัยทัศน์เพียง 3 ราย ได้แก่ ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัด ศธ.ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.,นายสมมาตร์ มีศิลป์ อดีต ผอ.องค์การค้าของ สกสค. และนายสันติ รุ่งสมัย  ที่ปรึกษาเลขาธิการ สกสค.

สารพันปัญหา(ซ้ำซาก)สกสค.รอ“แก้ไข

      นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ยังได้เปิดให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อและมีคุณสมบัติเข้ารับการสรรหา “เลขาธิการ คุรุสภา” 3 รายเข้าแสดงวิสัยัศน์ ได้แก่ นายกมล ศิริบรรณ . นายเพิ่ม หลวงแก้ว และนายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ และทั้ง 6 รายนี้ทำคะแนนได้ในเกณฑ์ผ่าน!! คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ก็จะเสนอรายชื่อ 6 รายให้ที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.และคณะกรรมการคุรุสภาคัดเลือก

สารพันปัญหา(ซ้ำซาก)สกสค.รอ“แก้ไข

     สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) มีสารพันปัญหาที่คาราคาซังมานานและนับเป็นงานหินที่รอพิสูจน์ฝีมือ”เลขาธิการ สกสค.”  

     ว่ากันว่าสำนักงานสกสค.ร้างลาตำแหน่ง“เลขาธิการ สกสค.” ตัวจริงตั้งแต่มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่7/2558 มอบอำนาจให้พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ สมัยนั้น แต่งตั้ง “พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์” เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ปฏิบัติงานกว่า 1 ปี "พินิจศักดิ์" ได้ยื่นลาออกเพื่อทำเรื่องปรับปรุงหลักเกณฑ์วิทยฐานะ 

       มาสมัย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เป็นรมว.ศึกษาธิการ ได้แต่งตั้งให้ "พิษณุ" รองปลัด ศธ.มาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. ล่าสุด "นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์" รมว.ศึกษาธิการ คนปัจจุบันได้พิจารณาร่วมกับผู้บริหาร ศธ.แล้วเห็นว่าภาระงานและปัญหาใน สกสค.มีมาก จำเป็นต้องได้ตัวจริง ที่มีความพร้อมสามารถทำงานได้เต็มเวลา เข้ามาบริหารและแก้ไขปัญหา จึงนำมาสู่การเฟ้นหา “เลขาธิการสกสค.” รวมถึงตำแหน่ง “เลขาธิการคุรุสภา” ที่ไร้ตัวจริงสืบเนื่องจากคำสั่ง คสช.ฉบับเดียวกัน

      จะว่าไปแล้วสำนักงาน สกสค.เป็นองค์กรของครู มีหน้าที่ดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพของครู มีครูเป็นหลายแสนคนเป็นสมาชิก ทั้งสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) มีกองทุนต่างๆ ที่มีการนำดอกผลมาพัฒนา ลงทุนทำธุรกิจ แต่ปัญหาใหญ่ที่ถูกหยิบเป็นประเด็นเรียกร้องให้ทุกรัฐบาล มาช่วยแก้ไขก็คือ

สารพันปัญหา(ซ้ำซาก)สกสค.รอ“แก้ไข

      1.“หนี้สินครู” ที่ว่ากันว่ามีทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ มีความพยายามงัดมาตรการต่างๆ เพื่อออกมาจัดการบรรเทาภาระหนี้เพื่อให้ครูมีความสบายใจขึ้น มีกำลังใจในการปฏิบัติการสอน โดยข้อมูลสกสค.ล่าสุด พบว่า ปัจจุบันครูที่เป็นหนี้ทั่วประเทศทุกสังกัด ประมาณ 5 แสนคน คิดเป็นเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท!!

     ซึ่งมาตรการแก้ไขหนี้สินที่สกสค.กำลังเดินเกมเวลานี้คือ "โครงการสวัสดิการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน" ที่เน้นช่วยเหลือครูอยู่ในภาวะวิกฤต ที่กำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย กำลังจะถูกยึดทรัพย์ บังคับคดี ซึ่งมีประมาณ 700- 1,000 ราย มีงบประมาณในการดำเนินเบื้องต้นนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาทเงินกู้ที่ให้ช่วยเหลือครู คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5 และคนที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมต้องมีจัดระเบียบชีวิตใหม่ วางแผนการใช้จ่ายเงิน ตลอดจนการสร้างรายได้เพิ่มด้วย

     โดยจะมีทีมที่ปรึกษาคอยประกบให้คำแนะนำ ซึ่งเป้าหมายของ สกสค.จะเริ่มช่วยเหลือได้ในเดือนมิถุนายน ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ยังต้องติดตามผลต่อในระยะยาว ยังมีเรื่องการติดตามเงินในกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงในโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ที่ธนาคารออมสิน หักไปจากผู้ค้างชำระเกิน 3 งวดที่ติดต่อกัน จนเวลานี้ยอดรวมทะลักไปเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ที่แม้ก่อนหน้าได้มีการเจรจาว่าจะมีการลงนามความร่วมมือกันใหม่ แต่ยังคงต้องจับตาดูรายละเอียดที่ตกลงร่วมกันอีกที

      2.การทุจริตของสกสค. ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีมานี้ ทุกรมว.ศึกษาธิการ จะดึงปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาดูแลเอง ทั้งกรณีกรณีซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด จำนวน 2,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการไต่สวนคดีคาดว่าจะได้ข้อยุติเร็วๆนี้

      นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องไป ขณะเดียวกัน ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนทางวินัยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สกสค.ที่เกี่ยวข้อง

สารพันปัญหา(ซ้ำซาก)สกสค.รอ“แก้ไข

      3.สกสค.นำเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯซื้อหุ้นจากบริษัทหนองคายน่าอยู่ จำกัดจำนวน 800 ล้านบาท เพื่อลงทุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนบ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการสกสค. มีมติให้บริษัท หนองคายน่าอยู่ ซื้อหุ้นคืนภายในระยะเวลา 5 ปี

    โดยที่ผ่านมาบริษัท หนองคายน่าอยู่ ฯ ได้ชำระเงินงวดแรก 50 ล้านบาทคืนให้สกสค. แล้ว ฝ่ายบริหารของบริษัท หนองคายฯ ติดต่อเข้ามาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม

     ซึ่งสกสค.จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่จริงดูความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจเพื่อเก็บข้อมูลมารายงานต่อบอร์ด สกสค.ว่าจะเดินหน้าธุรกิจไปหรือหยุดและขายหุ้นคืนให้บริษัท หนองคายน่าอยู่ฯ  

     วันที่ 1 มิถุนายนนี้ไม่ใช่แค่จะได้ตัว “เลขาธิการ สกสค.” เท่านั้น แต่ยังเป็นแรกที่ สกสค.ประกาศเดินเครื่องปล่อยกู้ให้กับครูที่สมัครร่วม   “โครงการสวัสดิการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน” เป็นวันแรกอีกด้วย..

      0 ทีมข่าวคุณภาพชีวิต [email protected]