
ผลตรวจคุณภาพ"น้ำประปา"กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
กรมวิทย์สุ่มเก็บตัวอย่างน้ำประปา 4 แห่งของการประปานครหลวง พบว่า มีคุณภาพและผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ประชาชนสามารถใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภคได้อย่างปลอดภัย
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เปิดเผยว่า ในภาวะที่มีภัยแล้งประชาชนมักจะกังวลต่อคุณภาพน้ำประปา จากข้อมูลของกรมชลประทาน พบว่า ในช่วงสถานการณ์ภัยแล้ง พ.ศ.2559เป็นปีที่มีภาวะภัยแล้งรุนแรงที่สุด ในรอบ 20 ปี ของประเทศไทยได้ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปาที่ประชาชนใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภคมีปริมาณน้อยลง รวมทั้งได้รับอิทธิพลน้ำทะเลหนุนจากปากแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำแม่กลองเป็นแหล่งน้ำดิบสำคัญสำหรับการผลิตน้ำประปาในเขตพื้นที่ภาคกลาง โดยการประปานครหลวงมีโรงผลิตน้ำ4แห่ง สำหรับผลิตน้ำประปา ได้แก่ โรงผลิตน้ำบางเขน โรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ โรงผลิตน้ำสามเสน และโรงผลิตน้ำธนบุรี
สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีภารกิจหลักในการคุ้มครองผู้บริโภค ป้องกันปัญหาสาธารณสุข และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน จึงได้ดำเนินการตรวจเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาและค่าความเค็มในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และนนทบุรี โดยเก็บตัวอย่างจากบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร รวม16เขตจาก50เขต จังหวัดนนทบุรี4อำเภอจาก6อำเภอ จังหวัดสมุทรปราการ1อำเภอจาก6อำเภอ (มีพื้นที่จ่ายน้ำ เพียงอำเภอเดียว) เก็บ1ตัวอย่างต่อเขตหรืออำเภอ รวม2ครั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม พ.ศ. 2559 รวมทั้งสิ้น44ตัวอย่าง
ดังนี้ โรงผลิตน้ำบางเขนได้แก่ เขตบางเขน สวนหลวง ลาดพร้าว ราษฎร์บูรณะ มีนบุรี สาทร บางกะปิ บึงกุ่ม ลาดกระบัง พระโขนง ดอนเมือง จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ อำเภอพระประแดงโรงผลิตน้ำธนบุรีได้แก่ เขตบางกอกน้อยโรงผลิตน้ำสามเสนได้แก่ เขตพญาไท พระนครโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ได้แก่ เขตตลิ่งชัน บางขุนเทียน จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ อำเภอเมือง บางบัวทอง และบางใหญ่ นำตัวอย่างมาตรวจหาค่าความเค็ม ความเป็นกรด-ด่าง คลอไรด์ ปริมาณสารที่ละลายได้ทั้งหมด ปริมาณสารทั้งหมด คลอรีนตกค้าง โลหะ และจุลินทรีย์
ผลการตรวจวิเคราะห์ทั้ง2ช่วง พบทุกตัวอย่างผ่านมาตรฐานคุณภาพของการประปานครหลวง รวมทั้งผ่านเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ของกรมอนามัย สำหรับผลวิเคราะห์ เพื่อเฝ้าระวังระดับความเค็ม พบว่า ความเค็มมีค่าสูงสุดเท่ากับ0.07และ0.21กรัมต่อลิตร ในช่วงที่ 1 และ2ตามลำดับ ซึ่งน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานค่าความเค็มของน้ำดิบ สำหรับผลิตน้ำประปาตามองค์การอนามัยโลกที่กำหนดไม่เกิน0.25กรัมต่อลิตร แม้ว่าผู้บริโภคจะรู้สึกว่าน้ำมีความเค็มในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนจึงมีค่าความเค็มสูงกว่าเดือนกุมภาพันธ์ประมาณ3เท่า
"ถึงแม้สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นทำให้น้ำประปาในบางพื้นที่มีความเค็มสูงขึ้นในบางช่วงเวลาแต่ผลตรวจวิเคราะห์แสดงว่าน้ำประปายังมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานน้ำประปาทั้งของการประปานครหลวง และกรมอนามัย อย่างไรก็ตาม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะทำการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่เกิดปัญหาภัยแล้ง สำหรับกรณีที่น้ำประปาจากก๊อกตามบ้านเรือนอาจมีกลิ่นคลอรีนหลงเหลืออยู่ ประชาชนสามารถลดกลิ่นคลอรีน โดยการรองน้ำประปาใส่ภาชนะเปิดฝาและตั้งทิ้งไว้ ประมาณ30นาที หรืออาจนำไปต้มหรือกรองก่อนดื่มก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการบริโภคได้ และควรหมั่นตรวจสอบท่อน้ำประปาในบ้านเรือนอยู่เสมอว่ามีปัญหาการรั่วซึมหรือไม่ เพราะอาจทำให้ปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคปะปนมากับน้ำประปาและทำให้ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้"นพ.สุขุมกล่าว