Lifestyle

ศิลาในน้ำเชี่ยว - พุทธอัจฉริยะ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนส่วนใหญ่มักคิดว่า เรานั้นแตกต่างจากผู้คนในโลกนี้เสียเหลือเกิน ทั้งร่างกาย ชีวิต จิตใจ และสภาพแวดล้อมต่างๆ แต่หากได้ทราบข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แล้วอาจเปลี่ยนความคิดใหม่!

  นายแพทย์คงศักดิ์ ตันไพจิตร ศาสตราจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์คลินิก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เซนต์หลุยส์ ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐนานหลายสิบปี ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ ‘พุทธอัจฉริยะ’ โดยยกสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้เมื่อ 2,000 กว่าปี มาเปรียบเทียบกับวิทยาการล่าสุดของมนุษยชาติ ปรากฏว่าผู้ที่ก้าวล้ำนำหน้าที่สุดด้านเทคโนโลยีทุกแขนงในโลกปัจจุบันล้วนตื่นตะลึงกับความเป็นอัจฉริยะของพระบรมศาสดาโดยถ้วนหน้า

 ยิ่งค้นพบอะไรใหม่ล่าสุด ยิ่งทึ่งกับพระอัจฉริยภาพแห่งมหาบุรุษผู้ทรงเป็นบรมครูของโลกนี้!
 ยกตัวอย่างเรื่องดีเอ็นเอ หรือโครงสร้างพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตซึ่งสองนักวิทยาศาสตร์ชื่อ เจมส์ วัตสัน และฟรานซิส คริก ค้นพบเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา เปิดเผยความลับของสิ่งมีชีวิต จนพัฒนามาสู่การทำโคลนนิ่ง สเต็มเซลส์ และการตัดต่อยีน แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุด คือ มนุษย์และสัตว์ต่างๆ มีโครงสร้างทางพันธุกรรมที่เหมือนกันมาก อาทิ หนูและมนุษย์ มียีนคล้ายกันถึง 85%  ลิงอุรังอุตังเหมือนมนุษย์ 97%  ลิงกอริลลาเหมือนกับมนุษย์ถึง 98.4%

 ส่วนลิงชิมแปนซีเหมือนมนุษย์มากที่สุดถึง 98.7% ต่างกันไม่ถึง 2% แทบไม่น่าเชื่อ!
 นอกจากนี้ ในดีเอ็นเอของมนุษย์ทุกรูปนามจะยีนที่เหมือนกันหมดถึง 99.9% ในรหัสลับทางพันธุกรรม หรือที่เรียกว่านิวคลิโอไทด์ซึ่งมีถึงสามพันล้านตัวต่อคน ไม่ว่ามนุษย์จะมาจากมุมใดมุมหนึ่งของโลก เป็นคนผิวขาว ผิวเหลือง ผิวดำ เป็นชาวเอเชีย ยุโรป แอฟริกัน อเมริกัน อีนเดียนแดง เอสกิโม หรือชาวพื้นเมืองของชาติใดก็ตาม ‘ความแตกต่างของมนุษย์มีอยู่แค่ความหนาของผิวหนังที่ห่อหุ้มกายอยู่เท่านั้น’

 คงคุ้นเคยกับคำกล่าวว่า ‘เราทั้งผองพี่น้องกัน’ และที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เสมอว่า เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์พวกพ้อง เรามีกรรมนำมาเกิด ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเรานั้น เป็นเพียงการเปลี่ยนเฉพาะเครื่องแบบ เฉพาะรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ภายในล้วนเป็นเช่นเดียวกันแทบทั้งสิ้น

 ทีนี้มาถึงคำถามว่า แล้วทำไมมนุษย์จึงรู้สึกแตกต่างกันเหลือหลาย แม้กระทั่งคนในชาติเดียวกัน ยังรู้สึกแตกแยก ขัดแย้งกันเอง  สรุปได้เลยว่า ความไม่ลงรอยของมนุษย์ล้วนมากจากความคิด (ทิฏฐิ) ความอยากได้อยากมีอยากเป็น (ตัณหา) ซึ่งตั้งอยู่บนรากฐานของอัตตาตัวตน ตรงตามพุทธภาษิตที่ว่า ‘ปุถุชนฝากสุขและทุกข์ไว้กับตัณหาและทิฏฐิ’

 ความเป็นจริงที่พวกเราควรตื่นขึ้นมารับรู้ ตามรอยพระบรมศาสดา คือ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นอะไรก็ตาม ไม่มีข้อยกเว้นทั้งสิ้น ขอให้รู้จักแผ่เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายโดยไม่มีประมาณ เพราะเราเป็นเพื่อนกันหมด.

 ติดตามสาระดีๆ ได้ที่ <http://twitter.com/dc_danai>

"ดนัย จันทร์เจ้าฉาย"

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ