ไลฟ์สไตล์

มัสยิดท่าอิฐจ.นนทบุรี

มัสยิดท่าอิฐจ.นนทบุรี

21 ก.พ. 2552

ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 มีชาวไทยมุสลิมอพยพมาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามาตั้งรกรากอยู่ใกล้เมืองหลวง เช่น ที่สี่แยกบ้านแขก ฝั่งธนบุรี ทุ่งครุใน อ.พระประแดง ตลาดมหานาค หลังตลาดบางรัก และที่บ้านท่าอิฐ ริ

กลุ่มมุสลิมที่มาอยู่เป็นชุมชนใหญ่คือที่บ้านท่าอิฐ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จ.นนทบุรี มีผู้นำชุมชนคือ โต๊ะกีวังกะมา ทำงานให้แก่ประเทศชาติจนได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น นายกองวังกะมา มีหน้าที่ดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิมใน จ.นนทบุรี และได้รับพระราชทานที่นาสำหรับเพาะปลูกทำมาหากิน จัดตั้งเป็นชุมชนมุสลิมท่าอิฐ 

 

ตำแหน่งนายกองวังกะมามีหน้าที่ดูแลและส่งเสริมอาชีพให้แก่หมู่พี่น้องชาวไทยมุสลิมในชุมชนของตนเองงานที่ทำจะเทียบเท่าตำแหน่งงานของนายอำเภอท่าอิฐ หรือผู้บังคับหมวดท่าอิฐ ต่อมา นายกองวังกะมาได้จัดสรรที่ดินที่ได้รับพระราชทานมาแบ่งปันให้แก่ลูกบ้านของตัวเองจนครบทุกครัวเรือนแล้วช่วยกันสร้างมัสยิดท่าอิฐขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นมัสยิดเรือนไม้รูปร่างแบบ บาแล เข้าละหมาดได้ครั้งละ 30 คน 

 

เมื่อนายกองวังกะมาสิ้นชีวิตลงหลวงสะมาแอ ทำหน้าที่หัวหน้าชุมชนดูแลทุกข์สุขของพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ชุมชนท่าอิฐ หลวงสะมาแอเป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกสร้างมัสยิดท่าอิฐขึ้นใหม่ในที่ดินพระราชทานเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นมัสยิดที่เด่นสง่าริมแม่น้ำเจ้าพระยามาจนถึงทุกวันนี้ มัสยิดท่าอิฐจึงเป็นชุมชนใหญ่ มีโรงเรียนสอนศาสนา และโรงเรียนสายสามัญสำหรับลูกหลานชาวมุสลิม 

 

ชาวมุสลิมชุมชนท่าอิฐเก่งในเรื่องการทำเนื้อวัว ที่นี่จึงเป็นแหล่งชำแหละเนื้อวัวที่ดีที่สุดใน จ.นนทบุรี ส่งเนื้อวัวไปขายทั่วภาคกลาง และชาวชุมชนยังมีฝีมือในการทำเนื้อแดดเดียว เนื้อหวาน และเนื้อฝอยที่อร่อย จนเป็นสินค้าโอท็อปของ จ.นนทบุรี

 

สู้จนเป็นดาวเดือนสเต๊ก

 

คุณอมรนาถสถิตานนท์ เชี่ยวชาญงานด้านคอมพิวเตอร์จนกล้าลงทุนเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แต่งานด้านการค้าและธุรกิจการขายไม่ชำนาญพอ อมรนาถจึงประสบปัญหาขาดทุนจนต้องปิดกิจการค้าคอมพิวเตอร์ แต่มีหนี้สินที่ต้องนำบ้านและรถไปจำนองเพื่อชำระหนี้แทน

 

เกือบจะหมดกำลังใจอมรนาถได้เรียนรู้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จากพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงชวน ทิพยวัลย์ ภรรยาคู่ชีวิต ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ศึกษาวิธีการทำอาหารจากเว็บไซต์ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ ซื้อเนื้อวัวอย่างดีจากชุมชนท่าอิฐนำมาทดลองหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ เนื้อวัวกิโลกรัมละเกือบ 200 บาท หมักแล้วกินไม่ได้ ต้องทิ้ง พอกินได้ก็แจกจ่ายให้ญาติและเพื่อนๆ กิน จนได้สูตรลงตัวทำสเต๊กเป็นของตัวเองได้

 

ระยะแรกต้องขอใช้พื้นที่ริมถนนในซอยท่าอิฐเปิดเป็นเพิงหมาแหงน ขายสเต๊กราคาถูก พอให้มีงานทำ พอให้มีกำไรซื้อนมให้ลูกกิน จนเป็นที่รู้จักของชาวบ้านในซอยท่าอิฐ จ.นนทบุรี คราวนี้ อมรนาถใช้เงินเป็นรู้จักเก็บสะสมกำไรไว้บ้าง เมื่อมีร้านอาหารเปิดให้เช่าราคาไม่แพง อมรนาถจึงพาครอบครัวเข้าไปสร้างชีวิตใหม่เปิดร้าน ดาวเดือนสเต็กขายสเต๊กและอาหารตามสั่งราคาไม่แพง

 

สเต๊กเนื้อวัวอย่างดีเริ่มต้นที่จานละ 70 บาท สเต๊กไก่ 70 บาท บาร์บีคิวสเต๊กเนื้อและไก่  70 บาท สปาเกตตี 40 บาท ข้าวผัดทุกจาน 40 บาท ข้าวน้ำพริกลงเรือชุดละ 40 บาท จึงมีลูกค้าเข้าไปกินเป็นขาประจำมากขึ้น 

 

ผมไปกินสเต๊กเนื้อที่ร้านดาวเดือนสเต็กแล้วแนะนำคุณอมรนาถให้ใช้ใบโอริกาโนตรามือผสมลงไปหมักกับเนื้อ เพื่อช่วยให้สเต๊กหอมขึ้น แล้วให้ อมรนาถใส่ผงหมักเนื้อนุ่มโชตธนโชติซึ่งหมักจากสับปะรด ใส่ลงไปหมักกับเนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อปลา เพื่อช่วยให้เนื้อทุกชนิดนุ่ม และเนื้อมีความฉ่ำมากขึ้น คุณอมรนาถเล่าให้ผมฟังว่า หลังจากทำตามที่ผมให้ความรู้ไปแล้ว ลูกค้าชอบเนื้อสเต๊กที่ร้านดาวเดือนสเต็กมาก เพราะเนื้อทุกชนิดจะไม่มีกลิ่นคาว แต่จะได้รสชาติของเนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อปลาจริงๆ เนื้อมีความนุ่มฉ่ำอร่อยมากขึ้น

 

มีกำไรเท่าไหร่อมรนาถต้องกันเงินไว้ปรับปรุงร้านให้สะอาดเป็นร้านสเต๊กที่ถูกหลักศาสนาอิสลาม แต่ไม่มีกลิ่นเครื่องเทศฉุนรุนแรง และไม่มีกลิ่นคาวเนื้อมากจนเกินไป อมรนาถคัดเลือกเนื้อชั้นดีจากชุมชนท่าอิฐทำสเต๊กเนื้อ สดนุ่มทุกวัน ร้านดาวเดือนสเต็กอยู่ในซอยท่าอิฐ จ.นนทบุรี โทร.0-2926-1890, 08-3975-6061

 

ต้องการสูตรเครื่องปรุงเครื่องเทศในการทำสเต๊กสอบถาม โทร.0-2222-5578