
จักสานกระจูดบ้านห้วยลึก" ผลิตภัณฑ์ชุมชนโกอินเตอร์
กว่า 10 ปีที่การรวมกลุ่มทำผลิตภัณฑ์จากกระจูดของชุมชนบ้านห้วยลึก ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยนำภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดจากปู่ย่าตายาย นำมาต่อยอดทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ผ่านสมาชิกชมรมทูบีนัมเบอร์วัน ทำให้วันนี้ผลิตภัณฑ์ฝีมือชาวบ้านไม่เพียงส
พัชรี จิรดิลก หนึ่งในสมาชิกชมรมทูบีนัมเบอร์วัน บ้านห้วยลึก หัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการรวมกลุ่มทำผลิตภัณฑ์จากกระจูด เผยว่า ปัญหารายได้ที่ไม่แน่นอนของชาวบ้านห้วยลึกที่ได้จากการทำสวนปาล์มและยางพารา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องออกไปทำงานต่างถิ่น ชมรมทูบีนัมเบอร์วันบ้านห้วยลึก จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มช่วยให้คนในชุมชน โดยได้รวมกลุ่มทำเครื่องจักสานจากกระจูด ไม่ว่าจะเป็นเสื่อหรือเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ถือเป็นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มาต่อยอดในการสร้างรายได้ ในขณะเดียวกันกลับเป็นการช่วยสืบสานภูมิปัญญาดั้งเดิมไม่ให้สูญหายไป ภายใต้ “วิสาหกิจชุมชนจักสานกระจูด บ้านห้วยลึก"
พัชรี เล่าว่า เริ่มก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจักสานกระจูดขึ้นครั้งแรกในปี 2538 การดำเนินงานในระยะแรกๆ ประสบปัญหาเพราะยังไม่ลงตัวและยังไม่เป็นระบบ แต่หลังจากที่นำโครงการทูบีนัมเบอร์วันมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนากิจกรรมของกลุ่ม โดยมีองค์ประกอบ 3 ก. มาเป็นเครื่องมือซึ่งจะมี ก. แรกก็คือ กรรมการ คอยดูแลเพื่อให้การดำเนินงานของกลุ่มลุล่วงตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด ส่วน ก.ที่สองคือ กองทุน มีการระดมทุนเริ่มต้นในการดำเนินการ รวมทั้งมีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย และ ก.สุดท้ายก็คือ กิจกรรม มีการระดมความคิดจากสมาชิกเพื่อช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและจากแนวคิดนี้จึงทำให้มีการพัฒนารูปแบบการจักสานกระจูดได้หลากหลายมากขึ้น สินค้าที่ได้จากกระจูดจะมีทั้ง หมวก กระเป๋า ตะกร้า กรอบรูป เมนูอาหารฯ เป็นต้น
“ต้นกระจูดที่นำมาเป็นวัสดุในการจักสานนั้น สามารถหาได้จากป่าพรุ ซึ่งเป็นป่าสาธารณะของชุมชนที่สงวนไว้ มีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ กระจูดคือพืชตระกูลเดียวกับกก ลำต้นสีเขียวอ่อนมีลักษณะกลมกลวง มีข้อปล้องภายในคล้ายลำไผ่ ต้นที่นำมาใช้ต้องมีอายุประมาณ 3 ปีขึ้นไป โดยลำต้นที่จะนำมาจักสานควรมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดประมาณ 5-16 นิ้ว และสูงของลำต้นจะอยู่ประมาณ 1-3 เมตร”
พัชรี อธิบายถึงที่มาและลักษณะของต้นกระจูด ที่สามารถนำมาใช้ในงานจักรสาน พร้อมขั้นตอนการทำงาน โดยระบุว่ามีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยจะให้ผู้เฒ่าผู้แก่ของชุมชนเป็นผู้ถ่ายทอดภูมิปัญญาพื้นบ้านในเรื่องจักสาน โดยรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จะแบ่งตามจำนวนชิ้นงานที่ทำ ซึ่งจะส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศษ เป็นต้น
"สินค้าที่ส่งออกโดยส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ของตกแต่งบ้าน เช่น ตะกร้าผ้า กรอบรูปติดผนัง ในแต่ละเดือนกลุ่มสามารถผลิตได้มากกว่า 1,000 ชิ้น ทำให้มีรายได้เข้ากลุ่มเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ยิ่งถ้าเดือนไหนมีการสั่งสินค้ามาก กลุ่มก็จะมีรายได้เป็นหลักแสนต่อเดือนเลยทีเดียว" สมาชิกคนเดิมกล่าวอย่างภูใจ
ถึงแม้รายได้จากผลิตภัณฑ์จากกระจูดจะมีความสำคัญกับคนในชุมชนมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดและเป็นเป้าหมายที่สำคัญของสมาชิกชมรมทูบีนัมเบอร์วันบ้านห้วยลึก ก็คือการได้อยู่ใกล้ชิดกันของคนในชุมชน ในครอบครัว ที่จะได้ไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น ทิ้งให้พ่อแม่อยู่ที่บ้านตามลำพังและยังเป็นเกราะป้องกันภัยจากปัญหายาเสพติด และอบายมุขต่างๆ ไม่ให้ก้าวย่างเข้ามาในพื้นที่ของชุมชนได้อย่างถาวร
"สุรัตน์ อัตตะ"