ไลฟ์สไตล์

ฝ่าลมและคลื่นฉลาม “ลือชัย”กับวิบากเรือดำน้ำ

ฝ่าลมและคลื่นฉลาม “ลือชัย”กับวิบากเรือดำน้ำ

08 พ.ค. 2560

ฝ่าลมและคลื่นฉลาม “ลือชัย”กับวิบากเรือดำน้ำ

 

          สิ้นสุดการรอคอยมาเกินกึ่งศตวรรษ สำหรับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ เมื่อ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ได้ลงนามในข้อตกลงสร้างเรือดำน้ำในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล(จีทูจี)กับบริษัท ไชน่าชิป บิลดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้แทนรัฐบาลจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพิธีลงนามจัดขึ้นที่อาคารรับรองรัฐบาล เตี้ยวหยูไถ่ กรุงปักกิ่ง

          ในช่วงที่รัฐบาลประยุทธ์ ต้องเผชิญกับคำถามว่า “ซื้อเรือดำน้ำทำไม” ชื่อนายทหารราชนาวีคนหนึ่งก็โดดเด่นขึ้นมาโดยพลันจากการออกมาชี้แจงสื่อและตอบทุกข้อสงสัย

          นั่นคือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ หรือ “บิ๊กลือ” ของน้องๆนักข่าวสายความมั่นคง

          พล.ร.อ.ลือชัย เป็นเตรียมทหารรุ่น 18 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กเข้” พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์หรือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งดาวเด่นสายบูรพาพยัคฆ์

          และที่สำคัญ เป็นน้องชายแท้ๆ ของ “บิ๊กโชย” พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี สปอตไลท์สายความมั่นคง จึงส่องกล้องมองไปไกลถึงว่าที่แม่ทัพเรือคนต่อไป

          พล.ร.อ.ลือชัย เกิดที่บางบ่อ สมุทรปราการ เป็นบุตรของพ่อบุญช่วย-แม่บุญล้อม รุดดิษฐ์ มีพี่น้อง 6 คน ชาย 3 คน หญิง 3 คน โดยพี่น้องที่เป็นผู้ชาย รับราชการทหารสังกัด 3 เหล่าทัพ

          เริ่มจาก พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ,พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ และ พล.อ.ต.เชี่ยวชาญ รุดดิษฐ์ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

          สมัยเรียนโรงเรียนายเรือ “บิ๊กลือ” จบวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต วิศวกรรมไฟฟ้า แต่รับราชการในกองทัพเรือ ก็อยู่ในสายคุมกำลังมาโดยตลอด

          ปี 2552 รองเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ,ปี 2553 ผู้บัญชาการ กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ .ปี 2555 ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
          
          ปี 2556 ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน กองทัพเรือ ปี 2557 เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ปี 2558 ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ

          ในการโยกย้ายฤดูกาลที่แล้ว “บิ๊กลือ” ขยับขึ้นเป็นเสนาธิการทหารเรือ และเป็น 1 ใน 5 ฉลามแห่งราชนาวีไทย

          กรณีที่ “บิ๊กลือ” เข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อ 13 ต.ค.2559 ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช. ว่า มีทรัพย์สิน 175,246,084 บาท เงินสด 1 ล้านบาท เงินฝาก 5 บัญชี 1,043,385บาท เงินลงทุน 4 แห่ง 899,998 บาท ที่ดิน 5 แปลง 170,151,700 บาท รถยนต์ 1.6 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 551,000 บาท ไม่มีหนี้สิน

          ขณะที่ นาวาโทหญิงอุบลวรรณ รุดดิษฐ์ คู่สมรส มีทรัพย์สิน13,044,735 บาทได้แก่ เงินสด 5 แสนบาท เงินฝาก 5 บัญชี1,025,535บาท เงินลงทุน 2 แห่ง 206,400 บาท เงินให้กู้ยืม 1.5 ล้านบาท ที่ดิน 1 แปลง 7,140,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 2,672,800 บาท มีหนี้สิน 680,512 บาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น188,290,819 บาท มีหนี้สิน 680,512 บาท

          ประเด็นบัญชีทรัพย์สินนี่แหละ ที่ทำให้แฟนเพจของกลุ่มการเมืองขั้วตรงข้าม คสช. หยิบฉวยมาโจมตี “บิ๊กลือ” ในช่วงที่ไปเซ็นซื้อเรือดำน้ำที่เมืองจีน

          นอกจากภารกิจในราชการทหารเรือ “บิ๊กลือ” ยังเป็นผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ติดตามการดำเนินการตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย

          เมื่อหลายปีก่อน พล.ร.อ.ลือชัย สมัยเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ได้เรียนรู้เรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ยกับ "มิสเตอร์หม่า" หรือ “อาจารย์ วรธนัท”ผู้สืบทอดวิชาต่อเนื่องมาจากคุณพ่อและปู่ ผ่านศาสตร์ที่เรียกว่า เต๋าหมวกดำ ซึ่งเป็นศาสตร์ชั้นสูงและจะถ่ายทอดเฉพาะจักรพรรดิและขุนนางจีนชั้นสูงเท่านั้น

          ในวันข้างหน้า “บิ๊กลือ” จะได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารเรือหรือไม่? ย่อมขึ้นอยู่กับ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่จะเกษียณอายุราชการ เดือนกันยายนปีนี้ คงไม่ใช่เรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ย

          หลายคนมองว่า พล.ร.อ.ณะ เลือก พล.ร.อ.ลือชัย มาเป็น เสธ.ทร. และให้ดูแลโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ หมายถึงการวางตัว “บิ๊กลือ” ไว้เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ เพื่อสานต่อดูแลโครงการซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำ ก็ไม่ใช่บทสรุป

          "บิ๊กลือ" คงต้องร้องเพลง "นาวีลาดตระเวน" ที่มีคำร้องท่อนหนึ่งว่า "น้ำจรดริมขอบฟ้า ลิบไกลตาสุดคะเน ลอยกลางทะเล ลึกจำเจไม่หวั่นไหว ฝ่าคลื่นและลม แดดฝนพรมไม่หน่าย ขอฝากตัวฝากใจ มั่นไว้แดนคงคา"

          ฉลาม “ลือชัย” จึงต้องฝ่าคลื่นและลม แดนพรมไม่หน่าย และขอฝากตัวฝากใจไว้กับ “บิ๊กณะ” , “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กตู่” จึงจะสมปรารถนา