“ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา ที่เกิดมาไม่มีพร้อมเหมือนคนอื่นๆเขา ยอมรับว่าเคยมีท้อบ้าง แต่ก็ทำใจได้พยายามทำดีที่สุดต่อไป เพราะชีวิตต้องเดินต่อไปตราบใดที่มีลมหายใจ ต้องเรียนให้จบจะได้มีงานทำ ช่วยเลี้ยงดูแม่ได้” นัซซารี่ หมาดรอหีม นศ.ปี 1 คณะวิทยาการการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) นครศรีธรรมราช กล่าว
3 ปี ก่อนหลังจากที่พ่อแยกทางกับแม่ นัซซารี่ เกือบจะไม่ได้เรียนต่อชั้นม.4 แล้ว หลังจากเรียนจบม.3 ที่โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ด้วยความที่รายได้ของแม่ จากการค้าขาย และรับจ้าง ไม่ได้มีมากพอที่ไม่มีเจะส่งเสีย
แม้ว่า นัซซารี่ จะทำงานรับจ้างขายของ ปักลูกปัด ขายผ้าคลุมหน้าของสาวๆมุสลิม หรือ โบว์ ผ้าผูกผม ไปด้วยก็ตาม แต่ก็รายได้ก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้สามารถจ่ายค่าเล่าเรียน เพราะหาเงินคนเดียว เลี้ยงลูกคนรองอยู่ป. 5 ส่วนคนสุดท้องอยู่ป .1 เรียกว่าทั้ง 3 คนอยู่ในวัยเรียน
ทุกครอบครัวย่อมปัญหาและทางออกที่สามารถฟันฝ่าไปได้ นัซซารี่ บอกว่าแต่ละครอบครัวเผชิญปัญหาที่แตกต่างกันไป แต่เชื่อว่าทุกคนต้องพยายามอดทนและก้าวข้ามไปให้ได้ ถ้าอยู่กันไม่ได้ ก็แยกทางกันซะยังดีกว่า อย่าได้ถึงขั้นฆ่าแล้วโพสผ่านโชเชียลกันเลย
เปิดเทอมนี้ นัซซารี่ จะเริ่มเรียนปี 1 เธอตั้งใจว่าจะเรียนให้ดี ให้จบ และหาทางานเพื่อช่วยแม่แบ่งเบาภาระเลี้ยงดูน้องอีก 2 คนเวลาว่างก็หาทำงานหารายได้พิเศษ เป็นเงินออมและช่วยแม่ เชื่อว่าสักวันหนึ่งจะเป็นวันของเธอที่ประสบผลสำเร็จในชีวิต และในวันที่มีมากพอ ก็จะแบ่งปันให้กับคนที่ด้อยโอกาสกว่าด้วย
เช่นเดียวกับคนที่เคยขาดและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาอย่าง "ธารินี สายสุภา" ปี 1 คณะเกษตรศาสตร์ สาขาปฐพีศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เคยตามไปแม่ทำงานลูกงานทำตะเกียบที่ จังหวัดลำปาง บ้านเกิดตั้งแต่อยู่ป.4 โดยทำหน้าที่แยกตะเกียบที่ไม่่ได้มาตรฐานออกก่อนที่จะบรรจุใส่กล่อง ทำตั้งแต่ได้ค่าเหนื่อยวันละ 180 บาทจนปัจจุบันได้วันละ 250 บาท
“ปกติอยู่กับแม่ลูกกัน 2 คน ตอนนี้ต้องแยกกันแม่อยู่ลำปาง หนูมาอยู่หอที่แม่โจ้ กะว่าจะหางานพิเศษทำ แล้วจะให้แม่มาอยู่ด้วยกัน แต่ค่าเช่าก็แพงมาก ถ้าแม่อยู่ลำปางค่าครองชีพก็ยังถูกกว่า ไว้ให้ขึ้นปี 2 แล้วหางานพิเศษทำได้ก่อนค่อยคิดใหม่ ” ธารินี กล่าว
“ธาริณี” ยอมรับว่า คนเราต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน บางคนมีมากมาย บางคนขาดวิ่นมีชีวิตอยู่ยากลำบาก แต่ที่ทุกคนมีมากน้อยต่างกันกันคึือความอดทน ในเมื่อต้นทุนชีวิตเราต่ำ เราจน จึงต้องอดทนให้ได้มากกว่าคนอื่นๆ และเชื่อว่าในเมื่อเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว สักวันหนึ่งเราก็ต้องไปถึงเป้าหมายของเราให้ได้อย่างแน่นอน
“ถ้าถามว่าเหนื่อยตอบเลยว่ามาก ถามว่าท้อมั้ยก็ต้องตอบว่าเคยท้อเหมือนกัน ทุกครั้งที่เหนื่อยและท้อได้กอดแม่แล้วก็หายไป มีกำลังใจอยู่ต่อ แต่ตอนนี้มาเรียนปี 1 ต้องแยกกันอยู่ก็ต้องอดทนกอดตัวเองไปก่อน เพื่ออนาคตของเรา” ธาริณี กล่าว
ปัจจุบันเด็กสาวทั้ง2 คนได้รับทุนการศึกษาโครงการ“สานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง”เพื่อให้เยาวชน มีความรู้และสามารถทำงานดูแลครอบครัวได้ในอนาคต โดยปัจจุบันมีเยาวชนในโครงการฯ กว่า 740 คน และจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีแล้ว 150 คน
โดยประถมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนต้นได้รับทุนปีละ 5,000 บาทมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ประกาศวิชาชีพ (ปวช.) ปีละ 10,000 บาท ระดับอุดมศึกษา (ปวส. - มหาวิทยาลัย) ปีละ 12,000 - 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย และคณะสาขาวิชาที่เลือกเรียน พร้อมมอบทุนช่วยเหลือครอบครัวเบื้องต้น ครอบครัวละ 10,000 บาท
"อมรรัตน์ ชาญปรีชญา" ผู้อำนวยการส่วนงานประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เอไอเอส เชื่อมั่นว่า “ครอบครัว” เป็นสถาบันแห่งแรกที่เป็นรากฐานของการสร้างคนให้เป็นคนดี และพัฒนาไปสู่สังคมที่ดี จึงได้ตั้งงบประมาณในการให้ทุนปี2560 ประมาณ 4.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามมีน้องๆที่หยุดการให้ทุนไป ประมาณ 200 คน พักการให้ทุน 3 ปี เนื่องจากไม่สามารถเรียนต่อได้ เพราะต้องไปทำงานอย่างเดียว เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวแต่งงานมีครอบครัว ติดเกณฑ์ทหาร และกลับมาให้ทุนต่อประมาณ 10%