ไลฟ์สไตล์

ไขปัญหาครอบครัวไทย มากมายปัญหา

ไขปัญหาครอบครัวไทย มากมายปัญหา

03 พ.ค. 2560

ไขปัญหาครอบครัวไทย ไม่เข้มแข็ง-มากมายปัญหา  0 เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ 0

      ...ปัจจุบันครอบครัวไทยมีพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวเพิ่มขึ้น ส่วนครอบครัวพ่อแม่ลูกก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เนื่องจากภาวะปัญหาทางสังคม ปัญหาทางเศรษฐกิจ เงินไม่พอใช้ก็ต้องไปทำงานต่างถิ่น บางครอบครัวจึงอยู่กับปู่ย่าตายาย ทำให้ไม่ค่อยสนิทสนมกับพ่อแม่เท่าที่ควร รวมถึงภาวะความเครียด พฤติกรรมการดื่มสุรา ยาเสพติด เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการกระทำความรุนแรงกับคนในครอบครัว เช่น สามีภรรยาอยู่ห่างกันก็มีความหึงหวง ทะเลาะทำร้ายร่างกาย เป็นต้น เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ครอบครัวขาดสัมพันธภาพ

      มีข้อมูลของหน่วยงานสตรีของสหประชาชาติ (UN Women) ระบุว่า ปี 2556 ประเทศไทยมีปัญหาเด็กและสตรีถูกกระทำรุนแรงสูงขึ้น โดยประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 36 จาก 75 ประเทศที่มีการกระทำความรุนแรงทางกายมากที่สุด และอยู่ในลำดับที่ 7 จาก 71 ประเทศที่มีปัญหาความรุนแรงทางเพศของคู่ตนเองมากที่สุด และเป็นลำดับที่ 2 จาก 49 ประเทศที่มีความเชื่อว่าสามีตีภรรยาเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ขณะที่ข้อมูล “ศูนย์พึ่งได้” ของกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2558 พบว่า มีเด็กและสตรีถูกกระทำรุนแรง เฉลี่ยวันละ 66 ราย ส่วนในปี 2559 มีเด็กและสตรีถูกกระทำรุนแรง เฉลี่ยวันละ 55 ราย 

      “เลิศปัญญา บูรณบัณฑิต” อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อธิบายว่า สค.ได้นำข้อมูลต่างๆ เหล่านี้มาเป็นฐานในการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรง สร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศหญิงและชาย เสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว โดยเฉพาะการสร้าง “สัมพันธภาพในครอบครัว” เป็นฐานรากสำคัญประเทศ ซึ่งสถานภาพของครอบครัวไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปี 2530 มีครอบครัวแบบพ่อแม่และลูก ถึงร้อยละ 52.4 แต่ปี 2556 ลดลงเหลือร้อยละ 26.6

ไขปัญหาครอบครัวไทย มากมายปัญหา

       อย่างไรก็ตาม แม้ผลการสำรวจสถานการณ์ความเข้มแข็งของครอบครัว ในปี 2558 ของ สค.พบว่าค่าความเข้มแข็งของครอบครัวในทุกมิติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี 2554 แต่ยังต่ำกว่าค่าเกณฑ์มาตรฐานในด้านสัมพันธภาพ ด้านบทบาทหน้าที่ของครอบครัว

       สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้น นายเลิศปัญญา กล่าวว่า สค.มีกลไก ขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ ระดับจังหวัด และระดับชาติ ในส่วนการทำงานในระดับพื้นที่นั้น ที่ผ่านมาได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน เน้นการทำงานแบบบูรณาการกับภาคส่วนต่างๆ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นเจ้าภาพหลัก 

       ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา เป้าหมายคือลงไปช่วยดูแลครอบครัวของแต่ละชุมชน แก้ไขปัญหา สร้างสัมพันธภาพในครอบครัว โดยเฉพาะพยายามสร้างรากฐานเศรษฐกิจในชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานออกจากพื้นที่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ปัจจุบันศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนมีจำนวนทั้งสิ้น 6,800 แห่ง ในจำนวนนี้ 1,000 แห่ง เป็นศูนย์ดีเด่นและเป็นต้นแบบการบริหารจัดการที่ดี

      “ที่ผ่านมา สค.ได้ปูพรมจัดกิจกรรมค่ายครอบครัวผ่านศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน 12 จังหวัด แต่ในปี 2560 นี้ สค.มีนโยบายจัดตั้ง โรงเรียนครอบครัว โดยจะนำร่องที่ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน จ.สงขลา แห่งแรก โรงเรียนแห่งนี้จะให้ความรู้ตั้งแต่ก่อนการแต่งงาน ชีวิตการแต่งงาน การตั้งครรภ์ สร้างเจตคติที่ดี รวมถึงจะส่งเสริมเรื่องสิทธิ ความเสมอภาคและความเท่าเทียมของชายและหญิง ซึ่งในอดีตผู้ชายจะเป็นผู้นำ ผู้หญิงรับผิดชอบงานบ้านดูแลลูก แต่ปัจจุบันทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างต้องออกจากบ้านทำงานเหมือนกัน แต่ผู้หญิงยังต้องมีภาระงานบ้านอยู่ซึ่งหนักและเหนื่อย เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องร่วมกันแบ่งเบาภาระกันและกัน ก็จะสร้างบรรยากาศที่ดีในครอบครัวได้” นายเลิศปัญญา แจงเป้าหมาย

ไขปัญหาครอบครัวไทย มากมายปัญหา

       ทั้งนี้ ในแต่ละปี สค.จะมีการลงไปสำรวจในพื้นที่ต่างๆ เพื่อติดตามดูว่ามีเยาวชนที่ไม่เรียนต่อ หรือไม่มีงาน ไม่ทำงาน รวมถึงผู้หญิงในพื้นที่ที่มีปัญหาทางสังคม และมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกชักจูง ล่อลวงไปทำงานที่ไม่เหมาะสมได้นั้น โดยจะมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้หญิงและเยาวชนกลุ่มนี้มาเข้ารับการฝึกอบรมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตในศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรี ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 8 แห่ง คือ 1.ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี 2.ศูนย์ฝึกอาชีพสตรีเชียงราย จังหวัดเชียงราย 3.ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคเหนือ จังหวัดลำปาง 4. ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดศรีสะเกษ

       5.ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคใต้ จังหวัดสงขลา 6.ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น 7.ศูนย์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน และ8.ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จังหวัดชลบุรี ซึ่งหลักสูตรในการฝึกอบรมจะมีทั้งระยะสั้น ระยะยาว เมื่อเรียนจบก็มีการประสานสถานประกอบการหางานให้ตามความสมัครใจ อย่างไรก็ตาม สค.มีการติดตามและประเมินผลก็พบว่าเกือบ 90% มีงานทำและนำความรู้ไปประกอบอาชีพส่วนตัว

       ขณะเดียวกันก็มียุทธศาสตร์การพัฒนาสถาบันครอบครัว พ.ศ. 2560-2564 ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.การพัฒนาศักยภาพของครอบครัว 2.ส่งเสริมให้ครอบครัวดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักคุณธรรมและจริยธรรม 3.การบริหารจัดการที่เอื้อต่อความเข้มแข็งของครอบครัว 4.ส่งเสริมและสนับสนุนเครือข่ายทางสังคมเพื่อพัฒนาครอบครัว และ5.พัฒนากระบวนการสื่อสารสังคมเพื่อพัฒนาครอบครัว ได้ผ่านความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการจัดทำแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ เสนอให้คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ (กยค.) ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา 

ไขปัญหาครอบครัวไทย มากมายปัญหา

      อย่างไรก็ตาม การทำงานเรื่องครอบครัวนั้นจะทำเพียงลำพังไม่ได้ เช่นนี้การขับเคลื่อนงานในทุกระดับจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน องค์กรต่างๆ เพื่อสร้างครอบครัวไทยที่เข้มแข็ง

      ทั้งนี้ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเชื่อว่าเมื่อดำเนินการตามแนวทางนี้แล้ว ความรุนแรงที่ปรากฏผ่านสื่อโซเชียลมีเดียหลายต่อหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นแม่เหยียบคอลูก จับมัดกับรั้วข้างถนน เพราะลูกดื้อ ขี้ขโมยและไม่อยากให้ลูกหนี, พ่อข่มขืนลูกแท้ๆ ลูกเลี้ยง จนตั้งท้อง การทำร้ายกันร่างกายกันของสามีภรรยา..รวมทั้งเหตุการณ์ที่พ่อผูกคอลูกและฆ่าตัวเองตายตามประชดภรรยา โดยไลฟ์สดวินาทีปลิดชีวิต!! จะทุเลาเบาบางลง

0 เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ 0

[email protected]