ไลฟ์สไตล์

คือครูทั้งชีวิต“นราพร จันทร์โอชา”นักการศึกษานอกทำเนียบ

คือครูทั้งชีวิต“นราพร จันทร์โอชา”นักการศึกษานอกทำเนียบ

02 พ.ค. 2560

คือครูทั้งชีวิต“นราพร จันทร์โอชา”นักการศึกษานอกทำเนียบ

 

          สวยสง่ายามเยื้องย่าง ภริยานายกฯ ไทย นราพร จันทร์โอชา หรือ “อาจารย์น้อง” กับภารกิจดูงานการศึกษาที่แดนมังกรช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา

          จากการที่รัฐบาลจีนโดยสมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประชาชนจีน ส่งเทียบเชิญมาให้ โดย รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยานายกรัฐมนตรี มาพร้อมด้วยคณะ เยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23-27 เมษายน 2560 ดูงานด้านการศึกษา

          และในการนี้มาดามเผิง ลี่หยวน ภริยาประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเป็นการส่วนตัว ณ เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถอีกด้วย

          ภาพที่ออกมาทำให้คนไทยอดที่จะภาคภูมิใจแทนผู้เป็นสามีอย่าง “ลุงตู่” ของเราไม่ได้ ว่าเลือกคู่ครองเก่งจัง!

          เพราะรศ.นราพร จันทร์โอชา คนนี้ เรียกว่า “ครบเครื่อง” ไม่ใช่แค่สวยหวาน แล้วหลบตัวแค่ในบ้าน แต่งานเบื้องหลังความสำเร็จของสามี เรียกว่าไม่มีขาดตกบกพร่อง ซูเปอร์เพอร์เฟกท์!

          บางคนจะหาว่าพูดเกินไป งั้นไปดูโพรไฟล์ส่วนตัว ก็พบว่า อ.น้องคนนี้ มีชีวิตที่เพียบพร้อมในตระกูล “โรจนจันทร์” เป็นบุตรสาวของนายตำรวจที่รับราชการใน จ.นราธิวาส ด้วยเหตุนี้จึงตั้งนามให้บุตรสาวคนนี้ว่า “นราพร” ขณะที่ยังมีบุตรสาวอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นพี่สาวฝาแฝดชื่อ สุวรรณา โรจนจันทร์ อีกด้วย 

          อ.น้อง เป็นสาวเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ จบปริญญาตรีด้านการสอนภาษาอังกฤษ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

          พบรักกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนที่สอนภาษาอังกฤษอยู่สถาบันภาษา ซึ่งบิ๊กตู่เวลานั้นมาสมัครเรียนหลักสูตรระยะสั้น

          หลักสูตรเรียนอาจจะสั้น...แต่ความรักยาวกว่า...เพราะที่สุดก็ตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน โดยมีความน่าสนใจตรงที่ทั้งคู่เกิดปีเดียวกัน 2497 โดย อ.น้อง เกิดวันที่ 20 มิถุนายน บิ๊กตู่ เกิดวันที่ 21 มีนาคม และแล้วทั้งคู่ก็แต่งงานกันในวันเลขสวยคู่ “22 มิถุนายน” หลังวันคล้ายวันเกิด อ.น้อง วันเดียวในปี 2527

          ส่วนบทบาทในความเป็นเวิร์กกิ้งวูแมน อ.น้องก็ไม่เป็นรองใคร อย่างที่รู้กันว่าเธอรับราชการเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ ประจำสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          แต่หลังใช้ชีวิตเป็นแม่พิมพ์ของชาติอยู่จนลาออกจากราชการในปี 2554 ก็มานั่งเก้าอี้นายกสมาคมแม่บ้านทหารบก ทั้งยังอุทิศเวลาไปช่วยเหลือมูลนิธิคนตาบอด และอาสาเป็นอาจารย์พิเศษให้โทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม โรงเรียนวังไกลกังวล และเป็นประธานคณะทำงานอีกด้วย

          เวลาผ่านมาจนมาเป็นแม่บ้านนายกรัฐมนตรี เธอก็ยังคงครองตำแหน่ง “เบื้องหลังความสำเร็จของบิ๊กตู่” อยู่อย่างไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

          แต่บทบาทหนึ่งที่แม้จะลาออกจากการสอนหนังสือแล้ว ความเป็น “ครู” ไม่เคยสูญหายไปจากจิตวิญญาณ โดยเธอยังคงออกงานต่างๆ อยู่เงียบๆ ดีงาม อยู่ในแวดวงการศึกษา เพราะว่ากันว่าอุปนิสัยของ อ.น้องนั้น ชอบทำงานแบบเงียบๆ ไม่เป็นข่าว และไม่อยากเป็นคนเด่นคนดัง แต่หากเช็กดีๆ จะพบว่า อ.น้อง ไปมาหลายงานมาก...

          อย่างล่าสุดเร็วๆ นี้ก่อนจะบินไปปั่กกิ่ง เพิ่งให้เกียรติเข้าร่วมงานประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุม

          ว่ากันว่า รมว.ศึกษาคนนี้ ขึ้นรับตำแหน่งแบบไวไวปรุงสำเร็จ เพราะมีความสนิทสนมกับ อ.น้อง ด้วยอยู่ในแวดวงเดียวกัน แต่เขาให้สัมภาษณ์มติชนว่า “ทุกคนสนิทกับนางนราพร จันทร์โอชา หรืออาจารย์น้อง ภริยานายกฯ หมดทุกคน”

          ส่วนว่าจริงแท้ยังไง ถ้าไม่มีคุณสมบัติพอ รัฐบาลประยุทธ์คงไม่ให้มาเป็นตัวเลือก

          อ.น้อง เคยให้มุมมองเกี่ยวกับอาชีพครูว่า ด้วยประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษ และจัดกิจกรรม PLC มากว่า 27 ปี (PLC ย่อมาจาก Professional Learning Community ซึ่งหมายถึงชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ)

          "ในหลายประเทศมักถูกกำหนดโดยผู้บริหารระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับกระทรวง/เขต ทำตามนโยบายผู้บริหารซึ่งไม่ได้ปฏิบัติการสอนจริงในห้องเรียน เป็นหัวเรื่องกว้างๆ ไม่เจาะลึก"

          "การสะท้อนของครูต้องสะท้อนการเรียนรู้ของผู้เรียน Student Learning เราต้องมองว่าเขาได้อะไร เพียงพอหรือยังแล้วนำมาปรับปรุง การพัฒนาวิชาชีพควรให้ครูเป็นผู้ให้ วางแผน แบ่งปัน มีส่วนร่วมเอง ตามบริบทจริงในห้องเรียน" 

          อ่านจบ...ต้องยืนปรบมือให้แก่วิสัยทัศน์ เพราะนี่คือมุมมองของคนรู้จริง และคลุกมาเอง ไม่ได้จำใครมาอวด! หรืออ่านตามสคริปต์!

          แต่บทบาทอื่นของภริยานายกฯ คนนี้ ก็ครบรส เพราะยังมีบรรดางานวันสตรี งานวันสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับของเพศหญิง หรือแม่บ้านเหล่าทัพ ที่ อ.น้องก็แสดงบทบาทตามโอกาสและทำได้ดีมาก สมคุณค่าหลังบ้านผู้นำ

          ดังงานที่ปักกิ่ง ก็ล้วนอันแน่นไปด้วยสาระและคุณประโยชน์ที่จะนำกลับมาใช้ในบ้านเกิด เพราะทั้งไปดูงานด้านการศึกษา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ "หลิน ห้วยชิง" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและผู้บริหารที่มหาวิทยาลัยผลิตครูปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศปักกิ่ง

          เพียงแต่มีจุดน่าสนใจอยู่นิดหนึ่ง ก็ตรงที่เดิมทีข่าวภารกิจภริยานายกรัฐมนตรี ไม่ค่อยปรากฏในฟีดข่าวเป็นวงกว้างมากนัก แต่งานนี้...ว่ากันว่ากองงานโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งผ่านไลน์สื่อมวลชนประจำทำเนียบเลยทีเดียว

          ก้าวย่างครั้งนี้จึงน่าจับตาว่าภารกิจของ “หลังบ้านบิ๊กตู่” ต่อจากนี้จะอยู่ในสายตาประชาชนมากขึ้นกระมัง