ไลฟ์สไตล์

อย่าปล่อยผู้สูงอายุอยู่เฉยๆเสี่ยงโรคสมองเสื่อม!!

อย่าปล่อยผู้สูงอายุอยู่เฉยๆเสี่ยงโรคสมองเสื่อม!!

30 เม.ย. 2560

ผู้สูงอายุไทยป่วยสมองเสื่อม 8 แสนคน ชี้ลูกหลานหวังดีให้อยู่เฉยๆ ทำร้ายทางอ้อม กระตุ้นให้เกิดเร็วเพราะสมองฝ่อขาดการใช้งาน กรมสุขภาพจิตเร่งพัฒนาเครื่องมือคัดกรอง

       จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2557 พบว่า ไทยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 10 ล้านกว่าคน คิดเป็นร้อยละ 14.9 ของประชากรทั้งประเทศ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับครอบครั ว โดย น.อ.ต.นพ.บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงวัย ผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กรมสุขภาพจิตมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ โดยเน้นการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพจิต ทั้งกลุ่มที่ยังมีสุขภาพดี ไปไหนมาไหนได้ และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาเจ็บป่วย ช่วยเหลือตนเองได้น้อยหรือไม่ได้ อยู่ติดบ้าน ติดเตียง เน้นการดูแลและเฝ้าระวังปัญหาภาวะซึมเศร้าอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเครือข่ายสุขภาพระดับตำบลได้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อสม. เครือข่ายจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ผู้ดูแลผู้สูงอายุ  

        สำหรับปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุไทยที่น่าห่วงขณะนี้ คือ โรคสมองเสื่อม ทำให้เกิดอาการหลงลืม การช่วยเหลือตัวเองลดลง ผลสำรวจโดยการตรวจร่างกายของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขล่าสุดครั้งที่ 5 ในพ.ศ. 2557  พบผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นโรคนี้ร้อยละ 8  หรือประมาณ 800,000 กว่าคนทั่วประเทศ ยิ่งอายุมากยิ่งพบสูงขึ้น ซึ่งโรคนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องพึ่งพิงการดูแลจากครอบครัวและสังคม กำลังเป็นปัญหาใหญ่ทั้งระดับประเทศและระดับโลก
       “ สาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุไทยเป็นโรคสมองเสื่อมมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากโรคทางกายเช่นเส้นเลือดในสมองตีบแตกหรืออุดตัน ส่วนหนึ่งเกิดต่อเนื่องจากการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และจากการที่สมองของผู้สูงอายุขาดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซลล์สมองส่วนที่เคยใช้งานประจำเกิดการลีบและฝ่อตัว เป็นภัยเงียบและสังคมไทยยังขาดความรู้ ความเข้าใจคิดว่าปัญหาสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ เป็นความเสื่อมธรรมดาที่เกิดขึ้นตามวัย และที่น่าห่วงคือ ค่านิยมลูกหลานไทยที่ปลูกฝังสืบทอดกันมา ส่วนใหญ่มักจะไม่ให้ผู้สูงอายุทำงาน เพราะเห็นว่าอายุมาก กลัวจะเหนื่อย เป็นความปรารถนาดีแต่ทำร้ายผู้สูงอายุทางอ้อม เป็นตัวเร่งให้ผู้สูงอายุเกิดโรคสมองเสื่อมได้เร็วขึ้น เพราะสมองส่วนที่เคยใช้งานประจำไม่ได้รับการกระตุ้น”อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
       อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อไปว่า โรคสมองเสื่อม สามารถชะลอการเกิดให้ช้าลงได้ แนะนำให้ลูกหลานกระตุ้นให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมที่ใช้สมอง ใช้ความคิดความจำบ่อยๆเช่นเดียวกับการออกกำลังกายฝึกการใช้กล้ามเนื้อ เช่น ออกกำลังกายตามความเหมาะสม เล่นไพ่ฝึกนับตัวเลข รำวง  
ใช้นิ้วเท้าปั้นกระดาษให้เป็นลูกบอลกลมๆขณะนั่งดูทีวี เป็นต้น ควรส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มวัยเดียวกันและให้ผู้สูงอายุทำงานตามศักยภาพที่มีอยู่ ทั้งนี้ ในปี 2560 นี้ กรมสุขภาพจิตเร่งพัฒนาระบบบริการเน้นหนัก 2 เรื่องใหญ่ ได้แก่ การพัฒนาโปรแกรมสร้างสุขผู้สูงอายุ 5 มิติ ได้แก่สุขสบาย สุขสนุก สุขสง่า สุขสว่างและสุขสงบป้องกันโรคซึมเศร้าและโรคสมองเสื่อม ขณะนี้ขยายใช้กับผู้สูงอายุทุกชุมชนแล้ว และมอบให้โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี วิจัยและพัฒนาเครื่องมือตรวจคัดกรองโรคสมองสื่อมที่มีปัญหามาจากด้านจิตใจและพฤติกรรมควบคู่กันเป็นต้นแบบของประเทศ เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ป่วยเข้าถึงบริการที่เร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาผู้ป่วยเข้าถึงบริการร้อยละ 10-15 เท่านั้น ขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์  คาดว่าจะใช้ทั่วประเทศในปลายปีนี้
        ด้าน นพ.จุมภฎ พรมสีดา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ กล่าวว่า อาการหลงลืม สามารถเกิดได้กับคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่ในผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อม ญาติหรือคนในครอบครัวสามารถสังเกตุสัญญานอาการเบื้องต้นง่ายๆ โดยให้ดูที่การทำกิจวัตรประจำวันที่ผู้สูงอายุเคยทำได้ แต่ทำได้น้อยลงกว่าเดิมหรือทำผิดพลาด  เช่น ติดกระดุมเสื้อผิด ใส่เสื้อกลับด้าน หากพบขอให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อจะได้รับการส่งต่อไปยังสถานบริการที่มีความเชี่ยวชาญต่อไป เพราะหากผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมนี้ไม่ได้รับการดูแล อาจมีโรคแทรกซ้อนหลายอย่างตามมา เช่น โรคติดเชื้อ โรคขาดสารอาหาร โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง  เป็นเหตุให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้