ไลฟ์สไตล์

การเป็นครูไม่ได้ต้องรู้ทุกเรื่อง

การเป็นครูไม่ได้ต้องรู้ทุกเรื่อง

27 เม.ย. 2560

การเป็นครูไม่ได้ต้องรู้ทุกเรื่อง แต่อยู่ที่ว่าเมื่อเรามาเป็นครูแล้ว เราทำอะไรต่อ พัฒนาต่อยอดความรู้ตนเอง อย่างไร พิสูจน์ได้จาก ครูรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี

        "รางวัลนี้ไม่ได้มาจากตนเอง แต่เป็นรางวัลที่มาจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทำให้เรารู้สึกภูมิใจ เพราะในฐานะครูสิ่งที่เราอยากเห็นคือ เด็กของเราเรียนจบออกไปมีอาชีพ"   นายจิรัฏฐ์ เเจ่มสว่าง ครูเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เเละเทคโนโลยี โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรีครูจิรัฏฐ์  ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี คนที่ 2 ของประเทศไทย!!  เล่าถึงความรู้สึก

        วัยเด็ก ครูจิรัฎฐ์ มาจากครอบครัวที่แตกแยก ไม่มีบ้านอยู่ตั้งแต่จบประถมศึกษา เรียนมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ก็ต้องอาศัยนอนที่ต่างๆ จนมาเรียนปริญญาตรีต้องทำงานหาเงินเรียนไปด้วย ทำให้ขาดเรียนบ่อย  จนอาจารย์เรียกไปคุยแต่แม้จะขาดบ่อยแต่ผลการเรียนไม่เคยตก เกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.00 ตลอด

การเป็นครูไม่ได้ต้องรู้ทุกเรื่อง

        อาจารย์จึงหาทุนการศึกษามาให้ และมีโอกาสได้รับทุนภูมิพลด้วย ตรงนี้ทำให้ตั้งใจว่าจะเป็นครู และเมื่อมาเป็นครูก็ตั้งใจด้วยว่าจะดูแลเด็กด้อยโอกาส หรือมาจากสภาพครอบครัวแตกแยก มีปัญหาเหล่านี้เป็นพิเศษ

       "หากเรามองว่าเด็กด้อยโอกาส เด็กเกเร ปัญหาของสังคม แล้วเราก็ปล่อยไว้มันก็จะเป็นปัญหาไปตลอดกาล แต่อีกมุมหนึ่งผมคิดว่าถ้าเราดูแลเด็กกลุ่มนี้ให้ดี ดูแลให้โอกาสเขา ส่งเสริมและสนับสนุนดึงศักยภาพของเขาออกมาก็จะช่วยให้เขามีอนาคตที่ดีได้ จึงตั้งเป้าหมายว่าจะดูแลเด็กเหล่านี้ ให้ความรู้วิชาการ รวมถึงดูแลความประพฤติให้เด็กเป็นคนดีของสังคม"ครูจิรัฏฐ์ ระบุ

     เพราะ การเป็นครูไม่ได้ต้องรู้ทุกเรื่อง แต่อยู่ที่ว่าเมื่อเรามาเป็นครูแล้ว เราทำอะไรต่อ พัฒนาต่อยอดความรู้ตนเอง และช่วยเหลือ ลูกศิษย์อย่างไร เรียนจบออกไปมีอาชีพตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด 

         ด้วยเหตุนี้    “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” รางวัลเกียรติยศแห่งความเป็นครูจัดขึ้นในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดจากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา

การเป็นครูไม่ได้ต้องรู้ทุกเรื่อง

       โดยได้พระราชทานรางวัลเเก่ครูผู้สร้างการเปลี่ยนเเปลงในชีวิตศิษย์เเละมีคุณูปการต่อวงการศึกษา ประเทศละ 1 คน รวม 11 ประเทศในอาเซียนเเละติมอร์เลสเต

       ซึ่งจะมีการคัดเลือกทุกๆ 2 ปี ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2558 โดยในปี 2560 ถือเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งได้มีการประกาศรายชื่อในส่วนของประเทศไทยแล้ว ส่วนอีก 10 ประเทศจะมีการประกาศผลเร็วๆ นี้  

       และครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี คนที่ 2 ของประเทศไทย!! จึงเป็นของ ครู จิรัฏฐ์ เเจ่มสว่าง ครูเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เเละเทคโนโลยี โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี

       ซึ่งมาจากการเปิดให้ทั้งศิษย์เก่าอายุ 25 ปีขึ้นไป สถานศึกษา หรือสมาคมหรือองค์กรที่มีการคัดเลือกครู ได้เสนอชื่อครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตลูกศิษย์และสร้างคุณูปการวงการศึกษาไทย จนเฟ้นหาครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ 160 คนทั่วประเทศ และท้ายสุดคัดเพียงหนึ่งเดียวที่เหมาะสมเป็น ผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประเทศไทย ปี 2560

       ครูจิรัฏฐ์ เล่าถึงการทำงานด้วยว่า ตลอด 35 ปีเป็นครูสอนที่โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี มาตลอด แรกเริ่มสอนพลศึกษา ต่อมาเมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาท ประกอบกับมีคำพูดว่า ผู้ใดครองเทคโนโลยี ผู้นั้นครองอำนาจ ถ้าหากเราไม่รู้เทคโนโลยีก็จะตามหลังเขา จึงทำให้หันมองตัวเองสะท้อนว่าถ้าเด็กของเราไม่รู้เทคโนโลยีแล้ว เด็กเขาเราจะตามหลังเขา ซึ่งก็ไม่อยากให้เด็กตามหลังแต่อยากให้เป็นผู้นำ

การเป็นครูไม่ได้ต้องรู้ทุกเรื่อง

      จึงเริ่มหันมาศึกษาเรื่องนี้และพัฒนาความรู้ทางไอซีทีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การไปเรียนที่สถาบันเอไอที เรียนต่อปริญญาโท สาขานิเทศการศึกษาและพัฒนาหลักสูตร ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถเขียนหลักสูตรการเรียนการสอน และหลักสูตรที่ใช้เพื่อการอบรมครูได้ และที่ผ่านมาหลายภาคส่วนทั้งรัฐ และเอกชนมาชวนไปร่วมงาน ก็เป็นโอกาสนำความรู้ความสามารถไปขยายผลวงกว้าง

       "ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเด็กสวนกุหลาบนนทบุรี การจัดการเรียนการสอนจะเน้นย้ำให้เด็กสืบค้นจนรู้ข้อเท็จจริง หาคำตอบดูตั้งแต่ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ มีการรีเช็คข้อมูลอื่นๆ ว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ไม่ใช่แค่เชื่อเพียงครั้งแรกที่พบเจอข้อมูล นอกจากนั้น ได้นำหลักการสอนพลศึกษามาปรับใช้ เช่น การทำงานเป็นทีม ซึ่งเด็กไม่รู้เรื่องเดียวกันมาทำงานด้วยกัน เป็นการสอนให้รู้ว่าการทำงานในชีวิตจริงแม้คนจะไม่รู้เท่ากัน แต่ทำงานร่วมกันได้ ทำให้งานประสบความสำเร็จ"ครูจิรัฏฐ์ กล่าว