ไลฟ์สไตล์

60 ปีตำนาน "เค้กขุกมิ่ง" เมืองตรัง
 ยึดมั่นการตลาด "สินค้าของฝาก"

60 ปีตำนาน "เค้กขุกมิ่ง" เมืองตรัง ยึดมั่นการตลาด "สินค้าของฝาก"

05 ก.ย. 2552

แม้จะมีปัจจัยในเชิงลบที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายขนมเค้กชื่อดังของเมืองตรัง "เค้กขุกมิ่ง" ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเป็นการเกิดของคู่แข่ง การตัดถนนเพิ่มขึ้น สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ รวมถึงการยึดอำนาจรัฐประหาร ท

  สุดสงวน บอกว่า การอยู่ได้ของกิจการผลิตและจำหน่ายเค้กขุกมิ่งที่ ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรังนั้น เกิดมาจากความเชื่อถือในคุณภาพและรสชาติของเค้กภายใต้แบรนด์ขุกมิ่งที่มีมานานกว่า 60 ปีแล้ว จนใครๆ คิดว่าผ่านเมืองตรังต้องซื้อเค้กขุกมิ่งเป็นสินค้าของฝากกลับบ้าน แม้ว่าปัจจุบันจะมีคู่แข่งอีกหลายเจ้าหลายยี่ห้อที่เกิดขึ้นใน จ.ตรัง และจังหวัดใกล้เคียง แต่ร้านสามารถอยู่ได้แม้ว่ายอดอาจจะตกบ้างเมื่อเทียบกับสมัยที่เศรษฐกิจของประเทศไทยรุ่งเรืองเมื่อก่อน 20 ปีที่แล้ว

 "การทำขนมเค้ก เราทำวันต่อวัน เมื่อภาวะเศรษฐกิจไม่ดี หรือมีปัจจัยอื่นที่ส่อให้ทราบว่า ในช่วงนั้นๆ เราขายไม่ดี ก็ลดปริมาณลง เมื่อลดปริมาณลงเท่ากับลดต้นทุน ลดค่าแรงงาน ทุกอย่างต้นทุนลดลงตามเงา ที่สำคัญเค้กขุกมิ่งถูกฝังลึกในความทรงจำของลูกค้ามาช้านานแล้ว จึงกระทบน้อย" สุดสงวน กล่าว

 ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายเค้กขุกมิ่งลดลง สุดสงวน บอกว่า มีปัจจัยหลักจริงๆ อยู่ 4 ปัจจัยด้วยกัน อาทิ การตัดถนนผ่านตัวจังหวัดหลายสาย ทำให้ผู้คนที่สัญจรผ่านถนนเพชรเกษมน้อยลง เนื่องจากตลอดระยะเวลาผ่านมากว่า 60 ปี จุดขายของเค้กขุกมิ่งจะขายที่ร้านในเทศบาลตำบลลำภูราเป็นหลัก ปัจจัยต่อมาเกิดจากคู่แข่งที่เกิดขึ้นอีกหลายเจ้าในเมืองตรัง ซึ่งบางเจ้าบางยี่ห้อเปิดกลยุทธ์ด้านการตลาดแบบดาวกระจาย เปิดสาขาทั่วเมือง

  ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดน ทำให้คนภาคใต้ตอนบนงดเดินทางผ่านเมืองตรัง เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอีกปัจจัยเกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งเศรษฐกิจฟองสบู่แตกเมื่อปี 2539-2540 รวมถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีปัจจัยเสริมอื่นๆ อีกเช่น เหตุกาณ์คลื่นยักย์สึนามิ การเกิดรัฐประหาร ซึ่งล้วนแต่ทำให้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวใน จ.ตรัง และส่งผลต่อยอดขายเค้กขุกมิ่งด้วย ประมาณการ ณ ปัจจุบันยอดขายเค้กขุกมิ่งหากเทียบกับสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดยอดลดลงถึง 40-45% แต่ก็ยังอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อน

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันจะมีเค้กยี่ห้ออื่นมาตีตลาดจนเป็นคู่แข่งสำคัญของเค้กขุกมิ่งมากขึ้น และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำตาม แต่สุดสงวน ยืนยันว่าจะใช้ระบบการตลาดแบบเดิมคือเน้นขายเป็นสินค้าของฝากสำหรับผู้เดินทางเข้าใน จ.ตรัง รวมถึงคนตรังเอง โดยเน้นขายที่ร้านเค้กขุกมิ่งในตลาดเทศบาลตำบลลำภูราเป็นหลัก ส่วนสาขาที่จำหน่ายในเมืองตรังหน้าโรงแรมธรรมรินทร์ธารา และการสั่งซื้อผ่านไปรษณีย์เป็นส่วนเสริมเท่านั้น เพราะยอดขายหลักกว่า 90 % จะเป็นรายได้มาจากที่ร้านเดิม ต.ลำภูรา ซึ่งปัจจุบันมียอดขายตกวันละกว่า 1,000 กล่อง ขายในราคากล่องละ 60 บาท ยกเว้นเค้กขุกมิ่งรสผลไม้รวมขายกล่องละ 100 บาท

 จากการสอบถามลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุนร้านเค้กขุกมิ่งที่ ต.ลำภูรา ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว มักจะตอบลักษณะเดียวกันว่า ทุกครั้งที่ไปตรังมักจะซื้อเค้กขุกมิ่งติดไม้ติดมือเป็นสินค้าของฝากกลับบ้าน เพราะเคยได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว และซื้อไปรับประทานรสชาติอร่อย หากเทียบกับอีกหลายยี่ห้อที่ลองรับประทานมา

 "เค้กขุกมิ่ง" เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองตรังที่คงรักษาคุณภาพและรสชาติความอร่อยมายาวนานกว่า 60 ปี แม้ที่ผ่านมาจะมีมรสุมมากมายกระทบต่อผู้ประกอบการหลายๆ ด้าน ถึงขนาดต้องปิดกิจการไป แต่ "เค้กขุกมิ่ง" ยังคงอยู่คู่เมืองตรังมาตลอดและคงอยู่ตลอดไป 

ทำเค้ก "สูตรขุกมิ่ง" กินเองได้
 สำหรับผู้ที่อยากลองทำขนมเค้กสูตร "ขุกมิ่ง" จากเมืองตรัง สามารถทำเองได้ ตามสูตรง่ายๆ ดังนี้

 วัตถุดิบที่ใช้และอัตราส่วนคือ 1.ไข่ไก่ 34% น้ำตาล 18% แป้งสาลี 18% และ มาการีน 28% อื่นๆที่เป็นผสมของกลิ่นอีก 2% อาทิ น้ำใบเตย กล้วยหอม ผลไม้รวม ลูกเกด กาแฟ เนยสด ขึ้นอยู่กับว่าต้องการรสและกลิ่นอะไรตามใจชอบ

 ส่วนกระบวนการผลิต เริ่มจากตีไข่ไก่กับน้ำตาลจนขึ้นฟู แล้วผสมแป้งสาลีและมาการีนละลายผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่พิมพ์แล้วเอาเข้าเตาอบใช้เวลา 30 นาที เมื่อเค้กสุกแล้ว ก็เทออกจากพิมพ์ และนำบรรจุใส่กล่อง หรือนำมารับประทานได้

 จัดเป็นอาหารว่างอีกชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานกับชา กาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ ตามที่ชอบ แต่ความอร่อยที่ทำเองนั้น บางครั้งต้องยอมรับว่า แม้สูตรเดียวกัน แต่ฝีมืออาจแตกต่างกัน อาจมาจากส่วนหนึ่งของพรสวรรค์ในการทำอาหารเป็นองค์ประกอบย่อยด้วย
   
"ดลมนัส  กาเจ"