เปิด"จาโรเม่"ขาย"กาแฟสด-สมุทตี้"5สาขา อาชีพเสริมรายได้หลัก"สมศักดิ์ แผนสท้าน"
แม้อีกบริบทหนึ่งของหนุ่มใหญ่วัย 41 ปี "สมศักดิ์ แผนสท้าน" จะอยู่ในแวดวงวิชาชีพสื่อมวลชนมาตั้งแต่จบคณะนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เมื่อปี 2533 แต่ด้วยที่เขาเกิดในครอบครัวของพ่อค้าขายกาแฟกว่า 40 ปี ทำให้อีกมุมหนึ่งของเขาคือเถ้าแก่น้อยๆ ที่มีกิจการร้าน
ที่จริง สมศักดิ์ เริ่มต้นด้วยอาชีพเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งที่เสนอข่าวเน้นการเมืองและทั่วไปหลังจากจบคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะยอดฮิตในสมัยนั้นจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพปี 2533 อีก 3 ปีต่อมาย้ายสังกัดเข้ามาเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์แนวเศรษฐกิจ และตรงนี้เองทำให้เขาเรียนกลยุทย์ด้านการค้าและการตลาดจากประสบการณ์ในการทำข่าว ทำได้ไม่กี่ปีเกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตกในปี 2539 เขาจึงกลายเป็นคนตกงาน จึงหันมาขายกาแฟเจริญรอยตามคุณพ่อ เป็นกาแฟสด รับจาก อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ขายตามตลาดนัด "เปิดท้ายขายของ" ช่วงแรกขายได้เพียงวันละกว่า 100 บาท กระทั่งวันละกว่า 1 หมื่นบาท
"คุณพ่อผมขายกาแฟโบราณที่บ้านพักของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยที่พระโขนง กรุงเทพฯ แต่ตอนที่ผมทำข่าวทราบว่าทางภาคเหนือมีการปลูกกาแฟอาราบิก้า ที่ชงเป็นกาแฟสด ผมเป็นเจ้าแรกๆ ที่ขายกาแฟสด แต่ตอนนั้นเครื่องบด เครื่องชงยังไม่มี ผมใช้หม้อดินมาต้ม และชงคล้ายกาแฟโบราณ ขายถ้วยละ 15 บาทเท่านั้น" สมศักดิ์ย้อนอดีต
สมศักดิ์บอกอีกว่า ในปี 2545 เก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง หุ้นกับน้องชายลงทุนกว่า 2 แสนบาท ซื้ออุปกรณ์เครื่องบด เครื่องชงกาแฟสด เปิดร้าน "จาโรเม่" ขายกาแฟสดที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต จ.ปทุมธานี ขยายสาขาที่ 2 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท พอน้องชายและลูกน้องเป็น สมศักดิ์หวนกลับมาสู่วงการหนังสือพิมพ์อีกครั้งในตำแหน่งซับเอดิเตอร์ จัดหน้าหนึ่ง หนังสือพิมพ์หัวสีในเครือเนชั่น พร้อมๆ กับการขยายสาขาร้านจาโรเม่ สู่สาขา 3 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต สาขาที่ 4 ที่โรงเรียนโยธินบูรณะ เกียกกาย และสาขาที่ 5 ที่อาคารเนชั่นทาวเวอร์ โดยให้น้องชายเป็นคนดูแลหลัก ในแต่ละสาขาสร้างรายได้สาขาตกเดือนละ 5-7 หมื่นบาท หักต้นทุนแบ่งกำไรกับน้องชายแล้วได้เดือนละหลายหมื่นบาท
"ในปี 2549 กระแสการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพหรือสมูทตี้ (Smootie) กำลังมาแรง ผมได้สูตรมาจึงน้ำปั่นเพื่อสุขภาพควบคู่กัน ปรากฏว่าขายดีครับ มีทั้งสูตรช็อกโกแลต โยเกิร์ต ผลไม้ ต่างๆ อย่างสตรอเบอร์รี่ กีวี ลูกพรุน เป็นต้น น้ำปั่นเพื่อสุขภาพเหล่านี้กินได้ทั้งครอบครัว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่กินแล้วมีผลดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญลงทุนน้อยมาก เพียงซื้อเครื่องปั่นผลไม้ราคาไม่กี่ร้อยบาท ทำน้ำปั่นสุขภาพขายได้แล้ว ได้กำไรดีกว่ากาแฟสดอีก เพราะทุนน้อย" สมศักดิ์กล่าว
ด้าน วาณิช กาญจนรัตน์ หัวหน้าแผนกฝ่ายศิลปกรรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ บอกว่า ทั้งคณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษารู้จักร้านจาโรเม่เป็นอย่างดี ทั้งสาขาที่กล้วยน้ำไทและที่รังสิต เนื่องจากชาวมหาวิทยาลัยกรุงเทพจะใช้บริการร้านนี้มาตลอด ทั้งกาแฟ และน้ำปั่นสุขภาพ ซึ่งมีหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรมีรสชาติเข้มข้นและคงที่เสมอมา แม้แต่เขาเองก็ใช้บริการเป็นประจำเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสมูทตี้ของร้านจาโรเม่จะขายดี แต่สมศักดิ์บอกว่าไม่ได้หวงสูตร พร้อมถ่ายทอดให้ทุกขั้นตอนในโครงการ "คม ชัด ลึก ฝึกอาชีพ" ในวันเสาร์ที่ 19 กันยายนนี้ สนใจสอบถามที่โทร.0-2338-3356-7
"ดลมนัส กาเจ"