
ทอดผ้าป่า-รับบริจาคช่วยสภาพคล่องรพ.
ตั้งแต่ปี 53 การเงินรพ.มีปัญหาสภาพคล่องต่อเนื่อง 191 แห่งจนไตรมาส 2 ปี 2559 เหลือ 50 แห่ง และล่าสุดปี 2560 เหลือเพียง 8 แห่งจากรพ.สธ.ทั้งสิ้น 886 แห่ง
มีการส่งสัญญาณมาตั้งแต่ปี 2553 เกี่ยวกับสภาพทางการเงินของโรงพยาบาล(รพ.)รัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) โดยมีการระบุว่าไตรมาส 2 ของปี2553มีรพ.191 แห่งที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่มีเงินบำรุงรพ.เหลือไว้จ่ายเป็นยามฉุกเฉิน และ 467 แห่งอยู่ในภาวะขาดทุนคือมีรายรับน้อยกว่ารายจ่าย
ถึงปี 2557 มีรพ.ขาดสภาพคล่องทางการเงินระดับ7 หรือระดับวิกฤติ 105 แห่ง ปี 2558 ระดับ7 เพิ่มเป็น 136 แห่ง จนไตรมาส 2 ปี 2559 เหลือ 50 แห่ง และล่าสุดปี 2560 เหลือเพียง 8 แห่งจากรพ.สธ.ทั้งสิ้น 886 แห่ง รพ.ระดับอำเภอ 780 แห่ง ระดับจังหวัดและรพ.ศูนย์ 106 แห่ง : 0 พวงชมพู ประเสริฐ รายงาน 0
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดสธ. บอกว่า รพ.สธ.มีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก คือ 1. รพ.ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล และประชากรในพื้นที่น้อย จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลประชาชนในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองในจำนวนน้อย เนื่องจากงบฯรายหัวจะให้ตามจำนวนประชากร ซึ่งแต่ละแห่งจะได้รับโดยการนำจำนวนประชากรในพื้นที่ คูณด้วยงบฯรายหัวต่อคนต่อปี 2.การบริหารจัดการงบประมาณไม่ดี แม้จะรับผิดชอบประชากรมากกว่า 30,000 คน แต่สถานะทางการเงินยังแย่ และ3.ในพื้นที่เดียวกัน มีรพ.ขนาดใหญ่ระดับรพศ./รพท.หลายแห่ง เช่น จ.สิงห์บุรี และราชบุรี เป็นต้น ทำให้เกิดการแบ่งเงินและแย่งทรัพยากร
ในการแก้ปัญหาที่ผ่านมามีตั้งแต่รับนโยบายด้วยการปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดสรรงบฯเหมาจ่ายรายหัวใหม่เป็นแบบขั้นบันไดแทนการจัดสรรตามจำนวนหัวประชากร รวมถึง การวางแผนงบประมาณรายรับรายจ่ายของรพ.แต่ละแห่งอย่างชัดเจนมากขึ้น และปรับการบริหารจัดการ ส่งผลให้สถานะทางการเงินของรพ.แต่ละแห่งค่อยๆคลี่คลายลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม รพ.แต่ละแห่งก็มีการดิ้นรนหาเงินช่วยเหลือตัวเองเช่นกัน เพราะหวังเพียงแค่รองบประมาณจากรัฐเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ช่องทางต่างๆที่รพ.ใช้ในการระดมทุนนมีอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างจริงการรับบริจาค การทอดผ้าป่าและการเปิดคลินิกพิเศษนอกเวลา
การรับบริจาคของรพ.เห็นได้ทั่วไปยามไปรพ.สธ.ซึ่งจะตู้รับบริจาควางไว้ตามจุดต่างๆ ให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้หย่อนเงินเพื่อสมทบทุนในการช่วยเหลือรพ.และผู้ป่วย อีกทั้ง การรับบริจาคในกรณีพิเศษ อย่างเช่น รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ที่นักร้องชื่อดัง ตูน บอดีสแลม ออกวิ่งเพื่อหาเงินสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์จนได้เงินบริจาคถึง 63 ล้านบาท หรือกรณีรพ.อุ้มผาง จ.ตาก ขอรับบริจาคยาเหลือที่ยังไม่หมดอายเพื่อนำมาใช้กับคนไข้ เป็นต้น
ส่วนการทอดผ้าป่าเป็นอีกช่องทางที่ปัจจุบันหลายโรงพยาบาลเลือกใช้เพื่อหาเงินเข้ารพ. เช่นที่ รพ.พัทลุงมีการทอดผ้าป่าเมื่อปี 2557 โดยระบุว่าเพื่อหาเงินสมทบทุนการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ขาดแคลน 9 รายการ อาทิ เครื่องเขย่าถุงเลือด เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ และชุดเครื่องมือผาตัดถุงน้ำดีทางกล้องวิดีทัศน์ เป็นเงินเกือบ 3 ล้านบาท
ปี 2558 รพ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช และ ปี2559 รพ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ก็จัดทอดผ้าป่าเพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์เช่นเดียวกัน ส่วนใน ปี 2560 รพ.สมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดินได้จัดทอดผ้าป่าเพื่อนำเงินสมทบการตั้งหอสงฆ์อาพาธ บริเวณชั้น 5 อาคารปาริฉัตร สำหรับให้บริการพระสงฆ์ที่อาพาธ และมีอีกหลายรพ.ที่ดำเนินการไม่ต่างไปจากนี้เช่นกัน
ขณะที่หากเป็นรพ.ขนาดใหญ่ระดับโรงพยาบาลศูนย์(รพศ.) จะใช้วิธีการเปิดบริการคลินิกพิเศษนอกเวลา เป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่พอจะมีกำลังทรัพย์ในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง มาใช้บริการแทนการใช้ในเวลาราชการตามปกติ เพื่อลดความแออัดของรพ. เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน และเพิ่มรายได้ให้กับรพ.
นอกจากนี้ อีกหลายแห่งเลือกที่จะผลิตยาสมุนไพรภายใต้ยี่ห้อของรพ. สำหรับใชภายในรพ.และวางจำหน่ายให้กับประชาชน ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหาเงินเลี้ยงตัวเองเช่นกัน
สำหรับโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องระดับปานกลางหรือระดับ 3-4 มีเพียง 5 แห่งเท่านั้น คือ รพ.พะเยา -59,598,270.18 บาท รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี -56,744,814.17 บาท รพ.ประจวบคีรีขันธ์ -39,535,105.97 บาท รพ.พิจิตร -27,820,366.25 บาท และ รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรลงคราม -3,696,876.44 บาท อย่าง รพ.พระนั่งเกล้า แม้จะติดลบกว่า 56 ล้านบาท แต่สถานการณ์ก็ดีขึ้นในทุกๆ ปี
ส่วนการช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องในไตรมาส 3-4 นั้น สธ.และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็มีแนวทางช่วยเหลือร่วมกัน โดยมีเงินฉุกเฉินที่กันไว้ลงไปช่วยเหลือ โดยจะประเมินจากไตรมาสที่ 2 แล้วพบว่ามีโรงพยาบาลใดที่ขาดสภาพคล่องบ้าง นอกจากนี้ จะมีการของบประมาณกลางปีเพื่อมาจ่ายในส่วนของค่าตอบแทนบุคลากรที่ถูกตัดไปด้วย เป็นต้น รวมไปถึงจะมีการรวบรวมระเบียบต่างๆ ที่ช่วยแก้ปัญหา รพ.ขาดทุน เอาไปเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้มีความยั่งยืนขึ้นด้วย
ในวันที่งบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนจำกัด ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น การที่รพ.จะหวังรอเพียงเงินงบประมาณเพียงอย่างเดียวคงไม่ทันการ จำเป็นที่แต่ละจำต้องดิ้นรนหาแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของโรงพยาบาลเพื่อหาเงินเข้ารพ.เองด้วย ภาพเช่นนี้ดูจะเห็นจนชินตาและคงมีให้เห็นต่อไปอีกนาน