
"แควน้อยบำรุงแดน"ชื่อพระราชทานใหม่
ชาวจังหวัดพิษณุโลกปลื้มปีติ ในหลวงพระราชทานชื่อเขื่อนแควน้อย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นเขื่อน "แควน้อยบำรุงแดน" เพื่อให้เกิดความเจริญในพื้นที่
นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำแควน้อยโดยเร่งด่วน รวมทั้งก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามลำน้ำสาขาของแม่น้ำแควน้อยให้เก็บกักน้ำไว้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่าง เช่น อ.วัดโบสถ์ อ.พรหมพิราม อ.วังทอง และอ.เมือง จ.พิษณุโลก ไปจนถึงพื้นที่บางส่วนของ จ.พิจิตร ที่ประสบปัญหาความแห้งแล้งจากการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง จนไม่สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้ได้ผลผลิตเพียงพอกับการดำรงชีวิต รวมทั้งเป็นการจัดหาน้ำสนับสนุนโครงการชลประทานพิษณุโลกและโครงการชลประทานเจ้าพระยาใหญ่ให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์
การก่อสร้างเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงาน กปร. โครงการตั้งอยู่ในบริเวณบ้านเขาหินลาด ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการกักเก็บน้ำได้ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากเก็บน้ำได้เต็มศักยภาพ สามารถเก็บกักได้สูงถึง 769 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีองค์ประกอบของเขื่อน 3 เขื่อนติดต่อกัน ได้แก่ เขื่อนแควน้อย ซึ่งเป็นเขื่อนหินทิ้งดาดหน้าคอนกรีตสูง 75 เมตร ยาว 570 เมตร เขื่อนสันตะเคียน เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวสูง 80 เมตร ยาว 1,270 เมตร และเขื่อนปิดช่องเขาขาด มีลักษณะเป็นเขื่อนดินสูง 23 เมตร ยาว 790 เมตร
“ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อแก่โครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยพระราชทานชื่อว่า “แควน้อยบำรุงแดน” หมายถึง เขื่อนแควน้อยที่ทำให้มีความเจริญในเขตพื้นที่” เลขาธิการ กปร. กล่าว
ชื่อพระราชทาน “แควน้อยบำรุงแดน” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนั้น นับจากนี้ไป เขื่อนแห่งนี้จะได้สร้างความเจริญและประโยชน์ให้แก่ราษฎร จ.พิษณุโลก และใกล้เคียงได้มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสมบูรณ์พูนสุข สมดังพระราชประสงค์อย่างแท้จริง