ท่านผู้ชมขรั่บ! รู้ยัง..“หย่อน” ไม่ใช่น้อง "หยุ่น”
จะขำกลิ้ง หรือ แปลกใจดี เมื่อตลก “ยาว ลูกหยี” ผู้เลียนเสียง “สุทธิชัย หยุ่น” ในชื่อ “สุทธิชัย หย่อน” ทั้งคู่มาพบกันใน "สภากาแฟ" ว่าแต่ ยาว ลูกหยี เป็นใครกันนะ?
จะขำกลิ้ง หรือ แปลกใจดี เมื่อตลกชื่อดัง “ยาว ลูกหยี” ผู้เลียนเสียง “สุทธิชัย หยุ่น” จนโด่งดังในชื่อ “สุทธิชัย หย่อน”
แล้วอยู่ๆ ทั้งคู่ได้โคจรมาพบกันในรายการ “สภากาแฟ” เช้าเสาร์ที่ผ่านมา ใครดูแล้ว บอกเลยว่า “โดน” ส่วนถามว่า ยาว ลูกหยี เป็นใคร ไปไงมาไง งานนี้ไม่รู้ไม่ได้
“ยาว ลูกหยี” คือ ชื่อในวงการตลกไทยของ “สันต์ ไชยมาตร” โดยเขานั้นเข้าวงการครั้งแรก ด้วยการชักนำของ “หม่ำ จ๊กมก” ในฐานะคนบ้านเดียวกัน “ยโสธร” โดยยาวนั้นเป็น คนอำเภอเลิงนกทา
ชีวิตในวัยเด็กของยาว เคยชวชเป็นสามเณร ก่อนที่จะร่ำเรียนจนจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย จากนั้นก็สึกออกมาเรียนต่อในระดับ ปวส. (แต่ภายหลัง ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีในคณะบริหารการจัดการศึกษา จนจบปริญญาตรี)
ก่อนหน้านั้น ชิวิตของ “ยาว” ก็นับว่าคลุกฝุ่นมาเยอะ เช่น เคยติดคุก และไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท แต่พอเริ่มตั้งหลักได้เพราะไปทำงานเป็นเซลส์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ตระเวนไปเปิดบู๊ธตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ
อาชีพเซลล์แมน ก็ดูจะถูกโฉลกกับตัวเองมาก เพราะขายดีจนเก็บเงินไปกลับสู่ขอเมียที่รออยู่บ้านเกิดได้ ซึ่งหมายถึง พิชญา ไชยมาตร จนมีลูกด้วยกัน 2 คน
ต่อมาชะตาฟ้าลิขิต คนจะดัง อะไรจะรั้งอยู่ หลังจากนั้นอีก 2 ปี ก็มาเจอกับ “หม่ำ จ๊กมก” ซึ่งตอนนั้นยังเป็นลูกน้องในคณะ “เทพ โพธิ์งาม” ว่าแล้วหม่ำจึงเอ่ยปากชักชวนให้เปลี่ยนอาชีพ
ช่วงแรก ยาว ลูกหยี ทำทุกอย่างตั้งแต่ขนเครื่องดนตรี เก็บชุด เก็บวิก ล้างถ้วยล้างชาม ขนตู้
“หน้าที่ในคณะตอนอยู่กับคุณหม่ำคือ ขนของ เก็บอุปกรณ์ฉิ่ง-ฉาบ วิกผม จนกระทั่งปี 39 ตัวเล่นขาด เลยได้ขึ้นไปบนเวที แต่ยังไม่ได้เล่นอะไรมาก เพราะเล่นไม่เป็น แต่พออยู่ไปสัก 3-4 ปี เริ่มซึมซับมุขต่างๆ จนเกิดความคิดอยากเป็นนักแสดงตลก”
และด้วยรูปร่างสูงโปร่ง ยาวสมชื่อแล้ว เขายังมีความสามารถเฉพาะตัว โดดเด่นออกมาเป็นเอกลักษณ์ คือ การเลียนเสียงเป็น “สุทธิชัย หยุ่น” สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ก่อตั้งเครือเนชั่น
แต่ใครจะรู้ว่า แท้จริงแล้ว “หม่ำ จ๊กม๊ก” นี่แหละที่เป็นคนไกด์สอนให้ ยาว ลูกหยี เลียนแบบเสียงคนข่าวคนดังคนนี้
บวกกับที่ตนเองนั้น รู้จักและชื่นชอบ สุทธิชัย หยุ่น อยู่แล้ว จากการรายงานข่าวสงครามอ่าวเปอร์เชีย ที่กำลังร้อนทั้งในสมรภูมิจริง และสมรภูมิข่าว
ปรากฏว่าเมื่อเขาลองหัดทำดู ก็โดนใจหม่ำ จ๊กม๊ก เป็นอันมาก แล้วบอกเขาเลยว่า ให้ยาว ลูกหยี เลียนแบบเสียงคนๆ นี้ไปเรื่อยๆ
ผลคือ “ปัง” เพราะหลังจากนั้น เรียกว่าเมื่อไหร่ที่ “ยาว ลูกหยี” เริ่มเลียนเสียงและลีลาการรายงานข่าวของเจ้าพ่อค่ายสื่อรายนี้แล้ว จะเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างท่วมท้น
ถึงขนาดมีลูกค้ามากระซิบหลังเวทีว่า ถ้าไม่พูดเลียนเสียง สุทธิชัย หยุ่น จะไม่จ่ายตังค์นะเอ้า!
พอถึงตรงนี้ ตอนแรกที่บอกว่าถูกโฉลกกับอาชีพเซลล์ สงสัยลืมหมด เพราะจากตอนเป็นเซลส์ มีรายได้วันละ 250 บาท พอมาเล่นตลก ตอนนั้นรายได้อย่างต่ำๆ วันละ 4,000-5,000 บาท มายก๊อด...
“แล้วจะไปทำงานอะไรที่มีรายได้ดีเหมือนเล่นตลก ไม่มีแล้ว เห็นตลกหลายคนมีบ้าน มีรถ ผมเลยตั้งใจสักวันหนึ่งต้องเป็นตลกให้ได้”
ที่สุด เขาก็ยังเล่นตลกเรื่อยมา และยังเล่นในบทบาทอื่นๆ ด้วย เลียนเสียง สมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ประกาศข่าวเชิงขำขัน โฆษก หรือพิธีกร อยู่เสมอ บางทีก็เสียงพระดังอย่าง ว.วชิรเมธี และ พระพยอม ที่ หยอง ลูกหยี เป็นคนสอนให้
แต่ที่คนไทยชอบสุดๆ ก็เสียงเจ้าพ่อสื่อค่ายบางนานี่แหละ โดยเฉพาะคำทิ้งท้ายประโยคว่า “ขรั่บ” ที่เข้าเส้นคนไทยม้ากกก... จนทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาตามลำดับ
กระทั่งได้มีผลงานทางด้านภาพยนตร์ตามมาอีกหลายเรื่อง เช่น แหยมยโสธร 2, Delivery Sexy Love, ผีหัวขาด, ช้างเพื่อนแก้ว, สภาพบุรุษปีนป่าย, เสน่ห์ลูกทุ่ง, ภพเสน่หา, คนปีมะ, ปัญญาเรณู, “ชิป”หาย และ กรรไกร ไข่ ผ้าไหม สองบาทห้าสิบ
แต่ชีวิตก็เปลี่ยนไปตามครรลอง หลังจากร่วมงานกับ “หม่ำ” อยู่ราว 3 ปีเศษ “หยอง ลูกหยี” ดาวตลกรุ่นพี่ ได้แยกตัวออกจากคณะ “ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม” แล้วมาชวนตนร่วมตั้งคณะตลกด้วยกัน
และที่นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของฉายา “ยาว ลูกหยี” ที่ใช้ทำมาหากิน กระทั่งปัจจุบันสามารถขึ้นแท่น “หัวหน้า” คณะลูกหยีในภายหลัง
และด้วยความสำเร็จที่หลายคนยอมรับ เขายังเป็นหนึ่งในความภูมิใจของคนยโส โดยช่วงปี 2552 เขาเข้ารับ โล่รางวัล “คนดีศรียโสธร” พร้อมกับ เพชรทาย วงศ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กม๊ก พร้อมด้วยศิลปินอีกรวม 9 คน
ขณะที่ชีวิตดำเนินไปโดยการเล่นตลกหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนฝ่ายภรรยาก็เย็บผ้าโหล และเลี้ยงลูกไปด้วย วันหนึ่งเมื่อพอมีเงินเก็บ เกิดนึกถึงอนาคตที่ไกลกว่านี้
ตอนนั้น เขามองอนาคตว่า “ชั่วโมงบินการเป็นตลกของผม ก็พอทำมาหากินได้อยู่ แต่อาจไม่ยั่งยืนยาวนานนัก เลยอยากพลิกตัวเองมาทำธุรกิจดูบ้าง มันท้าทายดี ดีกว่าไม่มีเงิน แล้วไปหยิบยืมใคร หรือเป็นหนี้เป็นสินเขา”
ที่สุด ด้วยความที่ส่วนตัวชอบนวดฝ่าเท้า จึงตัดสินใจให้ก็ให้ภรรยาไปศึกษาวิชาการนวดแผนไทย หลักสูตร 150 ชั่วโมง กับ “อาจารย์สมัคร แก่นจันทร์” จนได้เกียรติบัตรรับรองพร้อมวิชาติดตัว
จนได้มีร้าน “นวด แอนด์ สปา” เป็นกิจการของตนเอง โดยใช้เงินลงทุน ห้าแสนบาท สำหรับร้านนวดที่แรก มี 2 เตียงนวดตัวกับนวดฝ่าเท้า 4 เตียง
“ยังจำได้แม่นวันแรกทำเงินได้ 700 บาท เมียกับผมดีใจจนนอนไม่หลับเลย ไม่คิดว่าจะได้เงินเยอะขนาดนั้น”
เมื่อกิจการดีขึ้นตามลำดับ จึงขยับขยายมาเช่าร้านใหม่ใหญ่กว่าเดิม มีเตียงนวด 5 เตียง เตียงนวดฝ่าเท้า 6 เตียง ทำอยู่พักหนึ่ง เกิดปัญหาค่าไฟฟ้าแพงกว่าค่าเช่าห้องต่อเดือน เลยตัดสินใจย้ายมาเช่าร้านใหม่ ซึ่งอยู่ในทำเล บางบอน
อย่างไรก็ดี ช่วงหลังๆ คนไทยเห็นหน้าเขาน้อยลง จนบางคนอาจเกือบลืมเขาไป จนกระทั่งก่อนหน้านี้ช่วงต้นปี อยู่ๆ ก็มีข่าวทางโลกออนไลน์ว่า ยาว ลูกหยี ถูกยิงเสียชีวิตที่ชลบุรี
งานนี้ เป็นข่าวดัง จนตกใจไปตามๆ กัน แต่สุดท้ายโล่งใจ เพราะเจ้าตัวออกโรงบอกว่า ผมยังอยู่!!!
จากนั้นโร่ไป ปอท. แจ้งวัฒนะ เพื่อแจ้งความเอาผิดบุคคลที่ปลอมเว็บไซต์ข่าวชื่อดังและเขียนกุข่าวปลอมดังกล่าว ในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์
ก็ถ้า ยาว ลูกหยี ไม่อยู่เสียแล้ว ใครจะมาโต้ตอบมันๆ กับต้นฉบับเจ้าของเสียง สุทธิชัย หยุ่น แล้วยังได้โปรโมทอัลบั้มเพลงของตนเองออกสื่อด้วย
แถมเป็นเพลงโดยเลียนเสียงเจ้าของรายการสภากาแฟนั่นแหละ เพราะเสียงนี้ทำให้เขาได้แจ้งเกิดในวงการตลก โดยนำมาทำเป็นแร้พหมอลำ “เพลงข่าว แร้พแอนด์ลาว ยาวลูกหยี” ไปหาฟังได้เลยทางยูทูบ!!