
วิธีมองเห็นในที่มืด ของสัตว์กลางคืน
โดย - เม่นแคระ
สัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน หรือมีถิ่นที่อยู่อาศัยลึกลงไปใต้มหาสมุทร จะทำทุกอย่างไล่ตั้งการล่าเหยื่อ ไปจนถึงจับคู่ผสมพันธุ์ และปกป้องเขตแดนของตัวเอง ในบรรยากาศที่มืดสนิท ถึงขั้นที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการเคลื่อนไหวไปยังที่ต่างๆ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ที่ต้องพึ่งพาแสงในการมองเห็นสิ่งต่างๆ
แม้สัตว์บางชนิด ที่อาศัยอยู่ในความมืด อย่างปลาถ้ำ จะมีเพียงร่องรอยเหลืออยู่ในส่วนที่น่าจะเป็นดวงตา และพึ่งพาประสาทสัมผัสอื่นๆ ในการอยู่รอด แต่สัตว์หลายชนิดที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืด ไม่เพียงแต่มีดวงตาเท่านั้น แต่ยังเป็นดวงตาที่สามารถปรับให้พวกมันมองเห็นได้อย่างกระจ่างชัด แม้จะมีแสงสว่างแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผลการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า สัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดเหล่านีิ้ ซึ่งมีทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ปลา แมลง และสัตว์จำพวกหมึก ล้วนแต่มีความสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในที่มืดมิดได้อย่างชัดเจน และเป็นการมองเห็นอย่างมีสีสันมากกว่าที่คาดกันไว้
เดวิด ซี โอแครอลล์ ศาสตราจารย์ด้านสรีรศาสตร์สัตว์ และอีริค เจ วอร์แรนท์ ศาสตราจารย์ด้านสัตววิทยา จากมหาวิทยาลัยลุนด์ในสวีเดน 2 บรรณาธิการวารสาร ฟิโลโซฟิคัล ทรานแซคชันส์ บี ของราชสมาคมแห่งลอนดอน ฉบับพิเศษ ที่ตีพิมพ์ผลการศึกษาดังกล่าว ระบุว่า สัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน และที่อยู่ในทะเลลึกไม่ได้อยู่ในโลกที่มืดมิดแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะสามารถแยกแยะสี มองเห็นสิ่งกีดขวาง และเคลื่อนไหวได้ดี
หนึ่งในผลการศึกษาครั้งนีิ้ รวมถึง มดวัว ที่ออกหากินกลางคืน มดชนิดนี้ช่วยทำเครื่องหมายเส้นทางหาอาหารให้กับมดตัวอื่นๆ ในบริเวณที่พวกมันคุ้นเคย เมื่อมดตัวอื่นๆ เรียนรู้ที่จะเดินตามรอยเส้นทางดังกล่าว ทำให้พวกมันหาอาหารในที่มืดได้
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาหมึกแสนปมอีก 2 ชนิด ถึงวิธีการที่พวกมันใช้ดวงตาที่ไม่เข้าคู่กันในการดำรงชีวิต โดยสัตว์ทะเลซึ่งอาศัยอยู่ที่ระดับความลึก 1,000 กม.จากผิวน้ำชนิดนี้ มีตาข้างหนึ่งที่มีขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายท่อ เพื่อมองหาเหยื่อที่ว่ายน้ำอยู่ข้างบน และ่อีกข้างมีขนาดเล็กกว่าเป็นรูปครึ่งวงกลม ใช้มองหาเหยื่อที่อยู่เบื้องล่าง
ทั้งโอ'แคร์รอล และวอร์แรนท์ ระบุว่า การมองเห็นเป็นประสาทสัมผัสที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างหนึ่ง ทำให้ผู้คนต่างหลงใหลกับสิ่งมีชีวิตที่ตื่นตัวในความมืดยามค่ำคืนและสัตว์ประหลาดจากท้องทะเลลึก หัวข้อการวิจัยนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก ทั้งในหมู่นักวิทยาศาสตร์ นักเรียนมัธยมปลาย และบุคคลทั่วไปที่ต้องการเรียนรู้ถึงการมองเห็นในที่มืดของสัตว์