
การแก้ปัญหา "กล้วยตาก"
คราวที่แล้วได้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับกล้วยตาก ซึ่งมีปัญหาว่ามักจะเสียหายมากกว่าครึ่งในช่วงฤดูฝน แต่ก็ยังจำเป็นต้องทำต่อเพื่อรักษาตลาดและคู่ค้าไว้ แม้ว่าจะต้องขาดทุนก็ตาม ดังนั้น การแก้ปัญหากล้วยตากเสียหายหรือตกเกรดในช่วงฤดูฝนนั้น
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่บรรดาผู้ประกอบการกล้วยตากมีความต้องการอย่างจริงจัง การแก้ไขที่ว่านี้ในปัจจุบันเริ่มมีทางออกแล้ว 2 แนวทางด้วยกัน ทางแรกคือหาทางลดความเสียหาย เนื่องจากฝน และทางที่สองคือหาทางใช้ประโยชน์จากกล้วยตากตกเกรดหรือกล้วยตากที่เสียหาย ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นได้
เรื่องการลดความเสียหายเนื่องจากฝน ก็ค่อนข้างตรงไปตรงมา นั่นคือหาทางตากกล้วยในสภาพที่ไม่ถูกฝน วิธีการที่เหมาะที่สุดคือ การสร้างโรงเรือนที่มุงด้วยวัสดุใสให้แสงผ่านได้ แล้วตากกล้วยในนั้น ได้มีการออกแบบและทดลองสร้างและใช้โรงเรือนดังกล่าวแล้วที่บางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก โดยเป็นโรงเรือนที่ใช้โครงอะลูมิเนียมแล้วมุงด้วยพลาสติกโพลีคาร์บอเนตแบบใสให้แสงผ่านได้ แล้วก็ตากกล้วยในนั้นประมาณ 4 วันก็ได้ที่ พร้อมขายได้ วิธีนี้นอกจากจะตากกล้วยได้ดีแล้ว ยังถูกสุขลักษณะด้วย เพราะว่าไม่มีแมลงวันหรือสัตว์อื่นเข้ามารบกวน และเมื่อควบคุมโรงเรือนให้มีอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม ก็จะทำให้ได้กล้วยตากสีสันสวยงามอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้อย่างสบาย เพราะว่ามีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย
ปัญหาของโรงเรือนแบบนี้ก็คือ เรื่องของความชื้นภายในโรงเรือนที่ค่อนข้างสูง เพราะว่าในสภาพการตากกล้วยในโรงเรือนนั้น กล้วยจะคายน้ำออกมามาก ทำให้ความชื้นสูง จึงต้องมีการระบายความชื้นในโรงเรือนที่ดีพอ ซึ่งในที่นี้ก็มีการใช้พัดลมตัวใหญ่ในการระบายอากาศ ซึ่งก็ช่วยได้มาก ผลจากการใช้โรงเรือนเช่นนี้ทำให้ความเสียหายของกล้วยตากเนื่องจากฝนลดน้อยลงจนแทบไม่มีเหลือ การที่เราสามารถตากกล้วยในฤดูฝนได้เช่นนี้ จึงทำให้มีกล้วยส่งขายตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ โดยน่าจะคุ้มค่ากว่าการสร้างห้องเย็นเพื่อกักตุนกล้วยตากไว้ขายในฤดูฝนอย่างเช่นที่บางรายทำกันอยู่
การสร้างโรงเรือนเพื่อการตากกล้วยต้องมีการลงทุนเริ่มแรกค่อนข้างสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงยังไม่ได้ใช้วิธีการนี้ จึงยังมีกล้วยตากที่ไม่ได้คุณภาพอีกมาก ซึ่งเป็นผลมาจากความเสียหายเนื่องจากฝน ดังนั้น จึงต้องมีความพยายามอีกด้านหนึ่งที่จะหาทางเพิ่มมูลค่าของกล้วยตากตกเกรดเหล่านี้ ซึ่งวิธีหนึ่งที่เริ่มเป็นรูปธรรมแล้วก็คือการทำน้ำหวานจากกล้วย น้ำหวานที่ว่านี้ไม่ได้หมายความว่าเอากล้วยมาเชื่อม แต่เป็นการสกัดน้ำหวานหรือที่เรียกว่าไซรัป ออกมาจากกล้วยตากโดยตรง นักวิจัยได้มีความพยายามดังกล่าวจนกระทั่งประสบความสำเร็จ สามารถสกัดน้ำหวานหรือไซรัปออกมาจากกล้วยตากได้ด้วยวิธีการต่างๆ มากกว่า 1 วิธี และมีโอกาสที่จะพัฒนาต่อไปเป็นการค้าได้
น้ำหวานจากกล้วยนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องของกลิ่นรส มีความหวานสูงเหมือนกับน้ำผึ้ง สีน้ำตาลเข้มแต่ใส และสามารถที่จะนำมาใช้แทนน้ำผึ้งหรือน้ำหวานจากพืชอื่นๆ ได้ ซึ่งที่รู้จักกันดีและนิยมในต่างประเทศก็คือพวกน้ำหวานเมเปิลหรือเมเปิลไซรัป ซึ่งได้มาจากต้นเมเปิล เป็นต้น นอกจากนี้น้ำหวานจากกล้วยยังสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบใส่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากชนิด เช่นทำคุกกี้ และขนมต่างๆ หรือใช้ราดขนมและไอศกรีมได้เหมือนกับน้ำหวานจากพืชชนิดอื่น ดังนั้น โอกาสทางการตลาดของน้ำหวานจากกล้วยตากจึงมีมาก คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าน้ำหวานกล้วยตากนี้มีวิธีการได้มาอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง
รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ