ไลฟ์สไตล์

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

05 มี.ค. 2560

 คนส่วนใหญ่รู้จักชาวชนกลุ่มน้อย “มละบลิ” ว่าเป็น“ตองเหลือง” เป็นคนป่า จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ อรัญวา ชาวพนาไพร หรือติ๊ก ลุกขึ้นมาพัฒนาชนเผ่ามละบลิให้มีความรู้

 

    อรัญวา ชาวพนาไพร หรือติ๊ก เล่าว่าคนภายนอกจะเรียกตองเหลืองแต่มละบลิไม่ชอบ ซึ่งตองเหลืองไม่มีความหมาย แต่มละบลิมีความหมายว่าคนป่า ในความคิดของพี่คืออยากจะพัฒนาชนเผ่าตนเอง เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเป้าหมายหลักคือการสนับสนุนให้เด็กได้มีการศึกษา

      “ติ๊ก” บัณทิตมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ เติบโตอยู่ที่หมู่บ้านบุญยืน บ.ห้วยฮ่อม อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ที่เกิดขึ้นโดยชาวต่างชาติ โดยมีกรอบที่ถูกสร้างให้ชาวมละบลิต้องอยู่เฉพาะแต่บริเวณของตน ป้องกันจากการโดนคนภายนอกล่อลวง เรียนที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อ.ร้องกวง จ.แพร่ ตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จึงตัดสินใจไปอยู่ที่ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา จ.น่าน ในปี 2547

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

อรัญวา ชาวพนาไพร

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

     เหมือนฟ้าเห็นใจ ติ๊ก เรียนจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กศน.บ่อเกลือ จ.น่าน มีความฝันที่อยากจะสร้างหมู่บ้านสำหรับมละบลิ ที่เร่ร่อน อาศัยรับจ้างงานจากเผ่าม้ง โดนคนอื่นเอาเปรียบบ่อยครั้ง อ.ผ่องพรรณ เอกอาวุธ ผู้จัดการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา จ.น่าน จึงชวนติ๊ก ทำงานวิจัยเกี่ยวกับชนเผ่ามละบลิ สิ่งสำคัญในการทำวิจัยครั้งนี้คือ การเปิดทางให้ได้พบว่ายังมีพื้นดินพระราชทานที่บ่อเกลือ ชาวมละบลิสามารถมาอาศัยอยู่ได้ ในพื้นที่ 7 ไร่ อยู่ในการดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จ.แพร่

      โดยเริ่มเข้าอาศัย เมื่อพ.ศ. 2552 พร้อมกับ ชาวมละบลิอีก8 คน ร่วมถึงพ่อแม่ ทำให้ชาวมละบลิที่อยู่ห้วยฮ่อมย้ายถิ่นอาศัยมาที่ อ.บ่อเกลือ ในบางส่วน เริ่มเกิดการสร้างที่อยู่อาศัย หาแนวทางเลี้ยงชีพ ด้วยจำนวนประชากร 77 คน 19 ครัวเรือน

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

       โดยเป้าหมายหลักของ ติ๊ก คือพัฒนาการศึกษาให้เด็กและเยาวชน ได้สร้างอนาคตของตนเองและกลับมาพัฒนาชาวมละบลิในพื้นที่อื่นๆ โดยมีหน่วยงาน กศน.บ่อเกลือ จ.น่าน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จ.แพร่ ได้เข้ามาช่วยบริจาคอาคารเรียน โรงเรียนศูนย์ชาวเขาแม่ฟ้าหลวง สังกัด กศน. และเด็กเล็กที่ต้องเริ่มเรียนรู้ก็ได้ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ( มจธ.) ร่วมสร้างศูนย์เตาะแตะ เพื่อเด็กอายุ 3-6 ปี

       รวมถึงสื่อการเรียนการสอน เพื่อวางพื้นฐานการศึกษา ในการก้าวออกไปเรียนด้านนอกหมู่บ้านมละบลิ เพราะการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการพัฒนา มจธ. ยังได้เข้ามาส่งเสริมให้ เยาวชนมีกระบวนการคิด การวางแผน สอนชาวบ้านการปลูกผัก ปลูกข้าว ทำรายได้เสริมคือ กระเป๋า ไม้เท้าจากไม้ไผ่ น้ำผึ้งป่า จนชาวมละบลิสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ รู้จักสังคม และมีการวางแผนชีวิตของแต่ละครอบครัว

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

     โสภา ศรีชาวป่า หรือ โสภา อายุ 25 ปี กำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษาปีที่ 4 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ย้ายมาอยู่ที่บ่อเกลือประมาณ 9 ปี ความฝันคืออยากพัฒนาหมู่บ้านให้ดีขึ้น ความเป็นอยู่ของพี่น้องให้ดีขึ้น ให้พ่อแม่ได้เห็นความสำคัญเรื่องการเรียน เพราะแต่ก่อนพ่อแม่จะเห็นเรื่องการรับจ้างเป็นอันดับหนึ่งไม่ได้สนใจครอบครัว อยากจะรักษาภาษาของมละบริไว้

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

      ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายที่เรียนของ โสภา จะได้รับการสนับสนุนจากกรมอุทยาน ที่เธอต้องรับจ้างทำงานได้ค่าแรงวันละ 180 บาท และเงินจากศูนย์ภูฟ้าเป็นจำนวนเงิน 2,080 ต่อครอบครัว มจธ. จะดูแลเรื่องอาชีพ ทำบัญชีร่ายรับรายจ่าย บัญชีครัวเรือนและบัญชีที่ทำการค้าขาย ตั้งใจว่าถ้าเรียนจบจะเอามาสอนชาวบ้าน

      ปลูกต้นกล้าอย่างใส่ใจ เติบดตอย่างแข็งแรง สุภารัตน์ ขันหลวง หรือ ครูนวล อายุ 32 ปี ย้ายมาจากในเมืองรับหน้าที่สอนชั้นประถมศึกษา 5-6 โรงเรียนศูนย์ชาวเขาแม่ฟ้าหลวง สังกัด กศน. ตั้งแต่ปี 2553 เพราะเห็นว่าการศึกษาสำคัญสำหรับเยาวชนชนเผ่ามละบลิ มองเห็นปัญหาที่เมื่อเด็กชนเผ่ามละบลิไปเรียนนอกหมู่จะมีปัญหาโดนล้อ เรียนตามไม่ทัน และไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง จึงทำให้เด็กเรียนแบบไม่มีความสุข

ติ๊กสาว“มละบลิ”นักพัฒนา

       โดยเปิดสอนตั้งแต่อนุบาลถึงประถมศึกษาที่ 6 นักเรียนทั้งหมด 22 คน อนุบาล 10 คน ประถมศึกษา 12 คน ในแต่ละช่วงชั้นมีเด็กประมาณ 2-3 คน มีครูที่รับผิดชอบ 3 คนและครูพี่เลี้ยง ด้วยนักเรียนน้อย พื้นที่การสอนจำกัดอาคารชั้นเดียวจึงต้องเรียนร่วมชั้นกัน แบ่งเป็นสามส่วนโดยมีตู้หนังสือกั้น คือ อนุบาล2กับประถมศึกษาปีที่ 1 ประถมศึกษาปีที่ 2กับประถมศึกษาปีที่3-4 ประถมศึกษาปีที่5กับประถมศึกษาปีที่6 เน้นสาระภาษาไทยคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อังกฤษ และสาระที่พัฒนาขึ้นมาคือ สาระของมละบลิ นักเรียนที่จบจะศึกษาต่อในระดับมัธยมที่ กศน. อ.บ่อเกลือ จ.น่าน อยากให้เด็กที่เรียนเขามีอนาคตที่ดี เรียนสูงๆ เอามาใช้ในชีวิตได้

 

         สุเมธ ท่านเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลวง และโครงการตามพระราชดำริ สถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ มจธ. กล่าวว่า ตามโครงการภายใต้แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

      โดยเน้นเรื่องการศึกษาพัฒนาอาชีพให้กับเด็กและเยาวชน มจธ. เข้าไปในพื้นที่อำเภอบ่อเกลือโดยมีเป้าหมายว่า สิ่งที่เราจะเข้าไปทำในพื้นที่ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามต้องมีความมั่นคง มีคนสานต่อ และยั่งยืนในที่สุด สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อความสำนึกและหวงแหนในถิ่นอาศัยเกิดขึ้นจากคนภายในพื้นที่นั้นเอง และไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นเก่าหรือผู้นำพื้นที่เท่านั้น แต่กำลังสำคัญที่ต้องสร้างและปลูกฝังคือกลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่จะเติบโตขึ้นมาแทนที่กลุ่มคนรุ่นก่อนๆ ต่อไป

     “หลายหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ จนตอนนี้นับว่าชนเผ่ามละบลิปัจจุบันอยู่ด้วยกันแบบมีความสุข เด็กได้เรียน พ่อแม่มีงานทำ อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่นมากเหมือนในอดีต สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้บางแล้ว” ติ๊กกล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม

   

          0อภิญญา พวงมณี 0