เงินกู้โครงการ 7 จะชะลอไปอีกนานไหม?
เปิดซองส่องไทย : เงินกู้โครงการ 7 จะชะลอไปอีกนานไหม?
ดิฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนลุงแจ่ม โดยที่ดิฉันอยากทราบเกี่ยวกับการดําเนินงานของ สกสค. เรื่องเงินกู้โครงการ 7 จะชะลอไปอีกนานแค่ไหน
เพราะครูและบุคลากรทางการศึกษามีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก สําหรับคนที่ไม่เคยกู้ แต่พอจะกู้กลับมีปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้กู้ จะกู้ก็กู้ไม่ได้เป็นเพราะสาเหตุอะไร ทำไมทาง สกสค.ถึงช่วยแต่คนที่เป็นหนี้ โดยไม่คิดถึงคนที่เดือดร้อนที่ยังไม่เคยได้กู้เลย
ดิฉันได้สอบถามไปยังทางสกสค.ก็ไม่มีคําตอบให้ ก็ไม่ทราบว่าเป็นด้วยสาเหตุอันใดถึงได้เลื่อนเงินกู้โครงการ 7 ออกไปแบบไม่มีกำหนดแบบนี้ โดยที่ผู้ที่ยังไม่เคยได้กู้มีความเดือดร้อนที่อยากกู้บ้างแต่กู้ไม่ได้ ดิฉันขอรบกวนลุงแจ่มช่วยสอบถามไปทางรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการให้หน่อยว่าจะมีวิธีช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้รอแบบลอยคออยู่ในทะเลกันแบบนี้ เพราะทางครูอีกกลุ่มนั้นเหมือนจะจมนํ้าอยู่แล้ว
สายฝน
ตอบ
สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ชี้แจงว่า สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลสมาชิก ช.พ.ค. ขอเรียนชี้แจงดังนี้
1.โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. เป็นการดำเนินงานร่วมกันของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. กับสถาบันการเงิน คือธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน การให้เงินกู้เป็นเงินของสถาบันการเงินนั้นๆ โดยสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. เป็นเพียงผู้ตรวจสอบคุณสมบัติและมีทายาทหรือผู้มีสิทธิรับเงิน ช.พ.ค. ของสมาชิกเป็นผู้ยินยอมให้นำเงิน ช.พ.ค. ที่ทายาทหรือผู้มีสิทธิรับเงิน ช.พ.ค. จะได้รับเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน
2.จากการดำเนินงานที่ผ่านมามีข้อค้นพบว่ามีปัญหาในการบริหารจัดการทั้งในการปล่อยสินเชื่อที่มากเกินกว่าศักยภาพของผู้กู้ที่ผ่อนชำระได้ เป็นการสร้างปัญหาให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ปัญหาเรื่องการติดตามหนี้ค้างชำระและเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันหลายประเด็นในวิธีปฏิบัติ ทั้งของ สกสค. และธนาคารออมสิน จากปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดหนี้ค้างชำระในอัตราที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะก่อให้เกิดวิกฤติทางการเงินในภาพรวมได้ จึงต้องทบทวนและวางแนวทางการปรับปรุงแก้ไขให้รอบคอบและรัดกุมเพื่อประโยชน์ของสมาชิก ช.พ.ค.
3.การดำเนินโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ ขอเรียนว่า ผู้บริหารทั้งในระดับกระทรวงศึกษาธิการและ สกสค. มิได้นิ่งนอนใจในการที่จะดูแลความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับการศึกษาและกำหนดนโยบายให้มีความเหมาะสม และไม่สร้างภาระให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาในอนาคต