
“ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา”คณบดีศิิริราชเป็นนายกแพทยสภาคนใหม่
“ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา”คณบดีคณะแพทย์ ศิิริราชเป็นนายกแพทยสภาคนใหม่ แทน “ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่หืเลขา”ที่หมดวาระ และเป็นมา 7 สมัย 14 ปี
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา(บอร์ดแพทยสภา) วาระการพิจารณาเลือกนายกแพทยสภา แทน ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ที่หมดวาระลงเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้เสนอบุคคล 2 รายชื่อ คือ นพ.วิชัย เทียนถาวร อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลว่า ที่ประชุมได้ลงคะแนนเลือกนายกแพทยสภา โดยเลือก ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา เป็นนายกแพทยสภา ด้วยคะแนน 27 เสียง ขณะที่นพ.วิชัย ได้คะแนน 26 เสียง โดย 1 เสียงของดใช้สิทธิ และที่ประชุมยังเลือกอุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 คือ ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ และอุปนายกแพทยสภาคนที่ 2 คือ พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ส่วนเลขาธิการแพทยสภา และตำแหน่งอื่นๆ จะเป็นหน้าที่ของนายกแพทยสภาเลือกภายใน 30 วัน
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา กล่าวว่า หลังจากรับตำแหน่งตั้งเป้าไว้ว่า 6 เดือนแรกจะต้องทำให้เกิดความไว้วางใจทั้งของแพทย์ และประชาชน โดยต้องลดช่องว่างที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการฟ้องร้อง ความไม่เข้าใจกันทั้งของแพทย์และประชาชน โดยแพทยสภาจะต้องดึงประชาชนเข้ามา สร้างความเข้าใจร่วมกันให้มากขึ้น ขณะเดียวกันหน้าที่แพทยสภาคือ การกำกับดูแลแพทย์ให้อยู่ในหลักของวิชาชีพ ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่เป็นแพทย์ที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าก็มีบ้างที่ยังมีปัญหา ตรงนี้ต้องมาดูแลให้ถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้ จะมีทูตความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งในเรื่องของการผลิตแพทย์ไม่ใช่แค่หลักสูตรแพทย์เท่านั้น จะต้องลงไปสื่อสารกับนักศึกษาแพทย์ด้วยว่า ต้องการอะไร และมีปัญหาอะไร เพื่อให้รับทราบตั้งแต่ต้น
ต่อข้อถาม มีกระแสข่าวก่อนการเลือกตั้งว่า มีการล็อบบี้เลือกนายกแพทยสภา ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ควรเลิกนำการเมืองเข้ามาเชื่อมโยงงานกันได้แล้ว เพราะหากการเมืองเข้าไปที่ไหนมักมีปัญหาตลอด และทำให้คนทำงานหมดกำลังใจ ถึงเวลาที่ต้องหันมาทำงานด้วยกัน เลิกแบ่งพรรคแบ่งพวกจะดีกว่า
ด้านศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา อดีตนายกแพทยสภา กล่าวว่า ตนได้ขอสละสิทธิตั้งแต่ก่อนมีการประชุมบอร์ดแพทยสภา แม้ว่าตนจะได้คะแนนจากการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 และมีผู้โทรมาขอว่าอย่าสละสิทธิ แต่เนื่องจากมองว่าได้ดำรงตำแหน่งนี้มาหลายสมัย ควรเปิดโอกาสผู้อื่นมาดำรงตำแหน่งในการบริหารใหม่ อีกทั้งตนถูกกระแสโจมตีมาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกถึง 7สมัย 14ปี หรือถูกโจมตีว่าอิงแพทย์มากเกินไป ซึ่งถึงแม้ว่าจะบริหารงานโดยไม่เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ก็อยากเปิดโอกาสให้คนอื่นมาดำรงตำแหน่งบ้าง เพื่อให้รับทราบสถานการณ์ความเป็นจริง
อนึ่ง ศ.นพ.ประสิทธิ์เป็นกรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่ง ซึ่งตามพรบ.วิชาชีพเวชกรรมพ.ศ.2525 หมวด 3 คณะกรรมการแพทยสภา มาตรา 14 ระบุว่า ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่าคณะกรรมการแพทยสภา โดยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัย จะเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ขณะที่จะมีกรรมการที่ได้จากการเลือกตั้งโดยสมาชิกแพทยสภาในจำนวนที่เท่ากับจำนวนกรรมการโดยตำแหน่งด้วย ซึ่งในครั้งนี้คณะกรรมการแพทยสภามีจำนวน 56 คน แบ่งเป็น คณะกรรมการโดยตำแหน่ง 28 คน และกรรมการจากการเลือกตั้ง 28 คน