ไลฟ์สไตล์

วิจัยชี้ “ประชากรเปราะบาง”เข้าไม่ถึงสิทธิรักษาพยาบาล

วิจัยชี้ “ประชากรเปราะบาง”เข้าไม่ถึงสิทธิรักษาพยาบาล

01 ก.พ. 2560

วิจัยชี้“ประชากรเปราะบาง”เข้าไม่ถึงสิทธิรักษา –ขาดโอกาสรับบริการคุณภาพ-เป็นธรรม ยังมีความเหลื่อมล้ำภายในแต่ละกองทุน เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากกว่าประชากรทั่วไป

         ดร.นพ.สัมฤทธิ์ ศรีธำรงสวัสดิ์ นักวิจัย ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวในการจัดประชุมย่อยคู่ขนานในหัวข้อ The last mile of UHC in Thailand, “Do we reach the vulnerable?” ในงานประชุมนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2560 เปิดเวทีนำเสนอประเด็นการพัฒนาระบบสุขภาพเพื่อตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชากรกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย จัดโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)ว่า สวรส. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “ศึกษาแนวคิดและแนวทางปฏิบัติเพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพของประชากรกลุ่มเปราะบางด้านสุขภาพในระดับพื้นที่ของประเทศไทย” เพื่อถอดบทเรียนจากโครงการพัฒนาสุขภาพในชุมชนเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชากรกลุ่มเปราะบางในบริบทของประเทศไทย โดยการวิจัยเชิงคุณภาพศึกษาระบบสุขภาพอำเภอ ใน 8 พื้นที่ ได้แก่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก, อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, อ.ด่านซ้าย จ.เลย, อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา, อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์, อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี, อ.กงหรา  จ.พัทลุง และ อ.คลอง ขลุง จ.กำแพงเพชร

วิจัยชี้ “ประชากรเปราะบาง”เข้าไม่ถึงสิทธิรักษาพยาบาล

         “ข้อมูลจากรายงานการวิจัย ระบุว่า ประชากรกลุ่มเปราะบาง เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากกว่าประชากรทั่วไปและมีโอกาสเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำกัด แม้ว่าประเทศไทยจะมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า  แต่ยังพบว่านโยบายดังกล่าวยังมีช่องว่างของปัญหาทางสุขภาพสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบางที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสิ่งที่รัฐจัดให้ภายใต้นโยบายดังกล่าว ประกอบกับความเข้าใจเรื่องนี้ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งการตีความคำจำกัดความประชากรกลุ่มเปราะบางทำให้มีการให้คุณค่าความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของการพัฒนาแตกต่างกันออกไป”ดร.นพ.สัมฤทธิ์กล่าว

         ผศ.ดร.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ นักวิจัย ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า ทีมวิจัยได้เสนอเกณฑ์พิจารณาประชากรกลุ่มเปราะบางด้านสุขภาพในบริบทของประเทศไทย ได้แก่ ประชากรที่มีคุณสมบัติอย่างน้อย 2 ใน 3 ข้อ คือ  1.ประชากรชายขอบ ซึ่งอาจถูกตีตราหรือถูกเลือกปฏิบัติจากสังคม หรือถูกกักกั้นออกจากสังคมในทางใดทางหนึ่ง เช่น คนยากจน คนไร้รัฐ ชาติพันธุ์กลุ่มน้อย แรงงานข้ามชาติ เด็กกำพร้า คนข้ามเพศ ผู้ขายบริการทางเพศ ผู้ใช้ยาเสพติด ผู้เคยได้รับโทษจำคุกหรือพ้นโทษแล้ว เป็นต้น 2.ประชากรที่มีความต้องการทางด้านสุขภาพแต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ เช่น ผู้ไม่มีหลักประกันสุขภาพ ประชากรซึ่งมีถิ่นที่อยู่อาศัยในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น และ 3.ประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการถูกทอดทิ้งหรือการถูกกระทำทารุณ หากไม่ได้รับการตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพในระยะยาว เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการทางกาย ผู้พิการทางจิตเวช ผู้ป่วยติดบ้าน ผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น

วิจัยชี้ “ประชากรเปราะบาง”เข้าไม่ถึงสิทธิรักษาพยาบาล

            นพ.บวรศม กล่าวอีกว่า   แม้ประเทศไทยจะมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มุ่งเน้นในเรื่องของการจัดสิทธิให้มีความครอบคลุม  แต่ประเด็นสำคัญ คือ เมื่อคนไทยมีสิทธิแล้ว  พวกเขาสามารถเข้าถึงสิทธิที่รัฐจัดให้ได้หรือไม่  และเมื่อเข้าถึงสิทธิได้แล้ว พวกเขาได้รับบริการที่มีคุณภาพและเป็นธรรมตอบสนองตรงต่อความต้องการหรือปัญหาทางด้านสุขภาพที่แท้จริงของเขาเพียงใด นโยบายส่วนกลางยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ปัจจุบันพยายามลดความแตกต่างของสิทธิด้านสุขภาพระหว่าง 3 กองทุนหลักภาครัฐ แต่ไม่ได้เน้นการพัฒนาระบบการดูแลประชากรกลุ่มเปราะบาง ซึ่งแฝงอยู่ในผู้มีสิทธิของทั้ง 3 กองทุน เราพูดถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างกองทุน แต่ยังไม่ได้พูดถึงความเหลื่อมล้ำภายในแต่ละกองทุน

        ยกตัวอย่างเช่น  คนที่อยู่ห่างไกลได้สิทธิและมีบัตร 30 บาทพกติดตัวตลอดเวลา  แต่พวกเขาไม่สามารถเดินทางเข้ามาใช้สิทธิในรพ.ที่อยู่ห่างไกลจากภูมิลำเนา หรือแม้แต่มีสิทธิแต่ไม่มีผู้ให้บริการสุขภาพอยู่ในพื้นที่ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญหรือมีทีมงานซึ่งมีความสามารถในการตอบสนองปัญหาสุขภาพดังกล่าวอย่างมีคุณภาพ หรือไม่มีระบบส่งต่อการดูแลที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ  ซึ่งการเสนอนิยามกลุ่มเปราะบางที่ชัดเจน จะทำให้การออกแบบระบบการทำงานและการจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสม โดยให้การทำงานเรื่องนี้อยู่บนฐานคิดเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพ ทั้งในด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพของประชากรกลุ่มเปราะบาง และในด้านคุณภาพของบริการสุขภาพที่ได้รับ ซึ่งจำเป็นต้องมีระบบติดตามประเมินผลที่ชัดเจนและต่อเนื่อง

วิจัยชี้ “ประชากรเปราะบาง”เข้าไม่ถึงสิทธิรักษาพยาบาล

           ด้าน นพ.พีรพล สุทธิวิเศษศักดิ์ ผอ.สวรส. กล่าวว่า จากผลการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ทำให้ได้แนวทางและข้อเสนอเชิงนโยบายที่จะส่งต่อให้ผู้กำหนดนโยบายนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการพัฒนานโยบายสุขภาพสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบางของประเทศไทยต่อไป โดย สวรส. เห็นว่า 1.ประเทศไทยต้องมีนโยบายสาธารณะที่ชัดเจนสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบาง โดยพิจารณาถึงความต้องการทางสุขภาพเพื่อการจัดระบบบริการที่เหมาะสม เชื่อมโยงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าข้ากับสิทธิการให้บริการตามความจำเป็นของผู้คนได้อย่างแท้จริง

         2.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการใช้เงื่อนไขการดูแลประชากรกลุ่มเปราะบาง เป็นประเด็นชี้วัดในการติดตามคุณภาพ ความเท่าเทียม การเข้าถึงบริการของระบบหลักประกันสุขภาพของคนไทย หากสามารถวัดได้ว่าประชากรกลุ่มนี้ได้รับการดูแล และมีความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการสุขภาพตามความต้องการได้เพียงใด ก็จะเป็นตัวพิสูจน์ได้ว่าระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยเป็นระบบที่มีคุณภาพจริง และ 3.นโยบายสุขภาพสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบางไม่สามารถใช้แผนนโยบายแบบสำเร็จรูปได้ จำเป็นต้องมีรูปแบบที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับกลุ่มประชากรที่แตกต่างกันได้