Lifestyle

GLA 250 AMG Dynamic หรู... รักสนุก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จีแอลเอ เป็นรถในกลุ่ม เอ-แพลตฟอร์ม รุ่นเล็กสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตไม่เล็กในตลาดโลก

เนื่องจากรถขนาดกะทัดรัด ดูจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เป็นรถในรูปแบบครอสโอเวอร์ มีความสูง และดูลุยๆ มากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอย่างเอ-คลาส หรือ ซีแอลเอ

จีแอลเอ นั้นมี 2 รุ่นย่อย คือ จีแอลเอ 200 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 1.6 ลิตร เทอร์โบ 156 แรงม้าที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที ราคา 2.09 ล้านบาท

ส่วนคันที่อยู่กับผม เป็นรุ่น จีแอลเอ 250 เอเอ็มจี ไดนามิค ราคา 2.39 ล้านบาท เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ตามข้อมูลโรงงาน 6.6 วินาที ผมไม่ได้จับเวลาหรอกครับ แต่จับจากความรู้สึกก็เชื่อว่าทำได้จริง เพราะการออกตัวรถทำได้ทันใจมาก ลักษณะที่ชาวบ้านเรียกว่า กดแล้วหาย ทำได้จริง

จีแอลเอ 250 เอเอ็มจี ไดนามิค มีรูปร่างด้านหน้าที่ดุดันผสมผสานกับความหรู ไฟหน้าไบซีนอน ไฟเดย์ไทม์ซีนอน ดูโฉบเฉี่ยว ด้านข้างมองเห็นล้อทูโทนขนาดใหญ่ 19 นิ้ว กับยาง 235/45 R19 และเบรกที่มีสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์ ด้านหลังดุดันด้วยปลายท่อไอเสียเสริมโครเม่ียม 2 ท่อ และรอบคันติดตั้งชุดเอเอ็มจี ทั้งกันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง

ด้านบนมีราวหลังคาอะลูมิเนียม และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ยาวคลุมตอนหน้าและตอนหลัง ช่วยให้รถดูโล่งโปร่งขึ้นเมื่อเปิดหลังคา หรือแค่เปิดผ้ากรองแสง

อุปกรณ์มาตรฐานสำคัญๆ เช่น ฝาท้ายเปิดปิดควบคุมด้วยไฟฟ้าผ่านปุ่มหรือรีโมท ระบบพุชสตาร์ท เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ช่องเสียบยูเอสบี 2 ช่องในกล่องคอนโซลกลาง ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ด้านหน้า และห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย

วิทยุ-ซีดี พร้อมมอนิเตอร์ 7 นิ้ว ระบบบลูทูธเชื่อมต่อโทรศัพท์ ส่วนเนวิเกเตอร์ไม่มีแต่มีระบบรองรัับเตรียมไว้ให้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน และมือจับบริเวณหลังคาที่ออกแบบให้ซ่อนลงไปหลังคาดูเนียนตา 4 ตำแหน่งหน้าหลัง เบาะแถวหลังพับแยกได้ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างสำหรับเบาะคู่หน้า ม่านถุงลม 4 ตำแหน่ง เข็มขัดแบบ 3 จุด 5 ตำแหน่ง กล้องมองภาพถอยหลัง

ระบบเกี่ยวกับการขับขี่ เช่น โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เบรกเอบีเอส ระบบโฮลด์เบรกซึ่งทำงานโดยเหยียบเบรกให้สุดแล้วปล่อยเท้า รถจะจอดนิ่งโดยไม่ต้องเปลี่ยนมาเกียร์ N หรือ P ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเตือนแรงดันลมยาง เป็นต้น

ตัวรถมีขนาดกะทัดรัด บวกกับความแรงของเครื่องยนต์ และช่วงล่างที่ดี ทำให้มีความคล่องตัวสูงในทุกเส้นทาง ทางถนนหนทางในกรุงเทพฯ รวมถึงถนนพระราม 2 ขาออกในช่วงสายๆ วันเสาร์ที่คลาคล่ำไปด้วยรถทุกเลน ช้าบ้างเร็วบ้าง ผสมกันไป แต่จีแอลเอเคลื่อนที่ไปมาซ้ายทีขวาทีอย่างกระฉับกระเฉง ขับแบบนี้ใครจะว่าก็ยอมละครับ ในเมื่อมีพวกเกะกะอยู่ทุกเลน ไม่สนว่าขับเร็วหรือขับช้า

ความเร็วสูงสุดตามสเปก 235 กม./ชม. แต่เท่าที่ผมใช้ในบางช่วงสูงสุดที่ 180 ซึ่งการทำความเร็วในระดับต่างๆ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงออกตัว ช่วงกลาง หรือที่ความเร็วสูง เครื่องยนต์ตอบสนองเท้าขวาได้อย่างที่ต้องการ ไม่มีอิดออด กดเท่าเมื่อไร มาเมื่อนั้น

ซึ่งการใช้อัตราเร่งก็ใช้บ่อยเกิดบ่อยขึ้นเมื่อออกจากเพชรเกษมเข้าไปทางหนองหญ้าปล้อง ลัดเลาะถนนเส้นในไปเรื่อยๆ จนไปออกถนนใหญ่อีกทีช่วงบายพาสหัวหิน ช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นถนน 2 เลน และมีรถร่วมถนนอยู่เรื่อยๆ ทำให้ต้องใช้กำลังในการเร่งแซงบ่อยครั้ง

เส้นทางนี้ยังเต็มไปด้วยโค้งต่างๆ ให้ได้ลองช่วงล่างกันอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะรู้สึกว่ายังมีความนุ่มนวลอยู่บ้างสำหรับช่วงล่าง แต่การยึดเกาะ และความแม่นยำของพวงมาลัยในทางโค้งต่างๆ มีสูงทีเดียว ขณะที่เบาะนั่งทรงสปอร์ตที่กระชับลำตัว ก็ช่วยให้การควบคุมคุมรถทำได้ง่ายขึ้น ขับขี่สนุกขึ้นมาก

ห้องโดยสารโดยรวม อาจจะดูเหมือนแคบๆ แต่การใช้งาน 4 คน ก็สบายๆ และเบาะผู้โดยสารตอนหลังสามารถปรับองศาได้ ก็ช่วยให้สบายยิ่งขึ้น

โดยรวมแล้ว จีแอลเอ เป็นรถที่น่าใช้ครับ ใช้งานได้หลากหลาย ผมเอาไปลุยเข้าไปสะพานปลาแถวๆ ชะอำ ซึ่งทางพังเป็นหลุมเป็นบ่อชนิดรถเก๋งต้องค่อยๆ คลาน แต่จีแอลเอไปได้ไม่ยาก ขณะเดียวกันจะขับกินลมชมวิวก็เป็นรถที่ขับสบายๆ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ