วันเด็กแห่งชาติ ปี 60 ขอ "ลุงตู่-หมอธี" ลดเหลื่อมล้ำ | คมชัดลึก

        วันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมในทุกๆ ปี ถูกกำหนดให้เป็นวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันสำคัญของเด็กไทยทั่วประเทศ โดยในปี 2560 ตรงกับวันเสาร์ที่14 มกราคม โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นเจ้าภาพหลัก ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมครั้งแรกในปี 2498 และจัดต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นครั้งที่ 62 ซึ่งทุกปีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชนต่างๆ จะร่วมกันเนรมิตให้พื้นที่ต่างๆ กลายเป็นลานกิจกรรมสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง จูงมือลูกหลานมาเล่นสนุก อย่างสร้างสรรค์

        มิใช่แค่สนุกแต่ทุกปี..วันเด็กแห่งชาติเป็นเวทีของเด็กอย่างแท้จริง ที่ผู้ใหญ่ต้องหยุดและรับฟังเสียงของเด็กและเยาวชนตัวเล็กๆ ที่ใช้โอกาสนี้สะท้อนปัญหาการศึกษาที่เขาประสบโดยตรง ตลอดจนสื่อสารเรื่องที่อยากให้ผู้ใหญ่ยื่นมือมาช่วยเหลือ แก้ไขและให้การสนับสนุน 

        "ทุกวันนี้เด็กไทยเรียนหนักมากและต้องสอบเยอะมาก ทั้งการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต การทดสอบความถนัดทั่วไป หรือ แกต การทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ แพต ฯลฯไม่นับรวมการสอบเพื่อวัดประเมินผลในโรงเรียน กลายเป็นว่าทุกวันนี้เราเรียนเพื่อสอบแข่งขัน และเมื่อเนื้อหาความรู้ในห้องเรียนไม่เพียงพอ ทำให้เด็กๆ โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัดที่เรียนเนื้อหาแน่นไม่เท่าเด็กในกรุงเทพฯก็ต้องหันไปกวดวิชาเพื่อได้ความรู้และเทคนิคการเรียนใหม่ๆ เพื่อนำความรู้มาใช้สอบได้คะแนนดีๆ ตรงนี้กลายเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา" น้องแม็ก หรือ นายณัฐพล ทุมทอง นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร สะท้อนปัญหาการศึกษา

        น้องแม็ก บอกอีกว่า ส่วนตัวอยากให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาล ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ปรับปรุงการเรียนการสอนอย่างเร่งด่วน รวมทั้งอยากให้ปรับปรุงเนื้อหาหนังสือเรียนให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เด็กทุกคน โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาส เด็กที่อยู่ในต่างจังหวัดได้รับความรู้เข้มข้นไม่ต่างกับเด็กกรุงเทพฯ ในส่วนของการสอบต่างๆ ก็อยากให้ลดลง ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สภานักเรียนระดับประเทศ ประจำปี 2559 เคยเสนอไว้ ในฐานะรองประธานสภานักเรียนฯ ก็ได้ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้โดยตลอดและพบว่า ศธ.เตรียมจะปรับระบบการเข้าเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษาระบบใหม่ ส่วนจะช่วยแก้ปัญหาการวิ่งรอกสอบ และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้หรือไม่นั้น จากที่พูดคุยกับเพื่อนๆและรุ่นน้องยังไม่มั่นใจเท่าใดนัก แต่ก็เห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่จะแก้ไขให้ดีขึ้น

“อยากขอให้ ศธ.ให้ความสำคัญกับการผลิตและพัฒนาครูมากขึ้นด้วย ปัจจุบันมีการผลิตครูจำนวนมาก แต่ก็พบว่าครูบางท่านไม่ได้เอาใจใส่เด็กอย่างจริงจัง ขาดเทคนิคการสอนที่น่าสนใจและจูงใจให้เด็กหันมาสนใจกับการเรียนในชั้นเรียนมากขึ้น ส่วนที่ ศธ.มีนโยบายปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เด็กๆ ทุกคนผมเห็นด้วย เพราะเวลานี้โลกก้าวไปไกลมาก แค่มีสมาร์ทโฟน มีอินเทอร์เน็ต เด็กก็เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งบางครั้งไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเด็กเข้าไปดูอะไรมาบ้าง บางคนได้รู้ได้เห็นสิ่งไม่ดีก็ทำตามเพราะขาดการยั้งคิดแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม  ดังนั้น รัฐบาลและศธ.อาจจะต้องมีมาตรการ หรือมีการคัดกรองแหล่งข้อมูลบางประเภทที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก และใช้กิจกรรม สื่อต่างๆมาเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เด็ก ทั้งนี้ คงไม่ถึงกับปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูล เพราะต้องยอมรับว่าอินเทอร์เน็ตก็เป็นประโยชน์ในการค้นคว้าหาความรู้ได้รวดเร็ว" น้องแม็ก ระบุ

        ขณะที่ เยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2560  น้องหลิว หรือ ด.ช.กีรติ สุธีรยงประเสริฐ ชั้นม.2 โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จ.สุโขทัย บอกว่า วันเด็กปีนี้อยากขอของขวัญจากผู้ใหญ่คือ ส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาส ในพื้นที่ห่างไกล บ้านขาดแคลนทุนทรัพย์ให้เพื่อนๆกลุ่มนี้ได้มีโอกาสได้เรียนหรือได้เข้าถึงสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัยไม่แตกต่างจากเด็กที่อยู่ในเมือง นอกจากนี้ อยากให้โรงเรียนกิจกรรมที่ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติมากขึ้น เพราะกิจกรรมจะช่วยให้เด็กได้คลายเครียดจากการเรียนวิชาการ ทั้งยังได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง ซึ่งส่วนตัวชอบนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เพราะเป็นโอกาสที่เด็กๆทุกคนได้มาทำกิจกรรมที่แต่ละคนชื่นชอบ เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้พัฒนาตนเองและค้นหาว่าตัวเราชอบอะไร มีความสามารถอะไร และวางแผนเส้นทางชีวิตต่อไปได้

        “อีกเรื่องที่อยากให้ดูแลคือ สุขภาพอนามัยของเด็ก ผมเห็นว่าทุกวันนี้เด็กๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ส่วนใหญ่ทานแต่ขนมขบเคี้ยว อยากให้ผู้ใหญ่ ผู้ปกครองช่วยกันรณรงค์ให้เด็กทานแต่ของมีประโยชน์ เพราะจะมีผลต่อการพัฒนาร่างกาย การเจริญเติบโตเพื่อให้เยาวชนของเรามีสุขภาพที่ดี” น้องหลิว ฝากเรื่องการดูแลสุขภาพ

        เช่นเดียวกับ น.ส.ชนิกานต์ สุพิทยาพร หรือ น้องกานต์ คณะเภสัชศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2560 สะท้อนปัญหาว่า จากประสบการณ์การลงพื้นที่ทำจิตอาสา ในพื้นที่จังหวัดเหนือ พบว่าประเทศไทย ยังมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาสูงยากต่อการเดินทาง ทำให้โอกาศทางการศึกษาเข้าไปไม่ถึง เกิดปัญหาขาดแคลนครู รวมถึงวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเรียนการสอน ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลและศธ.ลงไปดูแลให้ความช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความรู้แก่ชุมชนและผู้ปกครองให้เห็นความสำคัญของการศึกษา เพื่อจะได้ส่งเสริมให้ลูกหลานได้เข้าเรียน ขณะเดียวกันอยากให้เร่งแก้ปัญเรื่องยาเสพติดที่มักจะระบาดหนักในกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา ทำให้ถูกชักจูงไปในทางที่ผิดได้ง่าย

        จากเสียงสะท้อนของเด็กๆ เห็นได้ชัดว่าความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่รับรู้ แต่เด็กสัมผัสได้ด้วยตนเอง ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่เด็กๆ ฝากความหวังให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ แก้ไข