ไลฟ์สไตล์

"หมอนิ่ม"ยังเป็นแพทย์ต่อไปได้

"หมอนิ่ม"ยังเป็นแพทย์ต่อไปได้

22 ธ.ค. 2559

แพทยสภายังไม่ดำเนินการใดๆกับ “หมอนิ่ม” จนกว่าคดีจะถึงที่สุด จึงจะพิจารณาคุณสมบัติการเป็นสมาชิกแพทยสภา

            จากกรณีที่ศาลจังหวีดมีนบุรี มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตพญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ในคดีจ้างวานฆ่านายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ก่อนที่ต่อมาศาลอุทธรณ์จะให้ประกันตัว  โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ  และกรณีการจับกุม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ  ที่ศาลพิพากษาประหารชีวิต ข้อหาร่วมกันฆ่าแรงงานชาวพม่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันฝัง ปิดบัง ซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตายและการกระทำใดๆ แก่ศพก่อนมีการชันสูตรพลิกศพเพื่อการอำพรางคดี

            ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สิ้นสุดของคดี แพทยสภาจึงยังไม่ดำเนินการถอนการเป็นสมาชิกแพทยสภาหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือดำเนินการใดๆกับพญ.นิธิวดี ยังถือว่าสามารถประกอบวิชาชีพแพทย์ได้จนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุดและศาลมีคำพิพากษาเป็นอย่างไร  แพทยสภาจึงจะดำเนินการพิจารณาในเรื่องการเป็นสมาชิกแพทยสภา  ส่วนกรณีพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์  ขณะนี้แพทยสภาอยู่ระหว่างการดำเนินการขอคำพิพากษาของศาล

            ศ.นพ.สมศักดิ์  กล่าวอีกว่า  ตามปกติผู้ที่สำเร็จปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตจะประกอบอาชีพแพทยได้จะต้องเป็นสมาชิกแพทยสภาและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งในมาตรา 11 พรบ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กำหนดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกไว้เป็นข้อหนึ่งคือ ไม่เคยต้องโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุกในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ดังนั้น หากแพทย์ที่เป็นสมาชิกแพทยสภาและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมทำผิดกฎหมายบ้านเมืองโดยศาลตัดสินถึงที่สุดแล้วให้ต้องโทษให้จำคุก แพทยสภาก็จะดำเนินการขอคำพิพากษาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการแพทยสภา เพื่อพิจารณาว่าการกระทำความผิดที่ทำให้ต้องได้รับโทษจำคุกนั้น ทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพหรือไม่ หากคณะกรรมการฯเห็นว่าไม่ทำให้เสื่อมเสีย บุคคลผู้นั้นก็ยังเป็นสมาชิกแพทยสภาต่อไปได้ แต่ในกรณีที่มีการพิจารณาว่าทำให้เสื่อมเสีย ก็จะถอนการเป็นสมาชิกแพทยสภา เมื่อไม่เป็นสมาชิกแพทยสภาก็จะส่งผลให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมถูกเพิกถอน บุคคลผู้นั้นก็จะมีอาชีพเป็นแพทย์อีกไม่ได้และไม่สามารถมาขอเป็นสมาชิกใหม่ได้เนื่องจากขากคุณสมบัติ

            “กรณีการฆ่าคน แน่นอนย่อมทำให้เสื่อมเสียเกียริตศักดิ์แห่งวิชาชีพ แต่ในการพิจารณาก็อยู่ที่การวินิจฉัยของคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งที่ผ่านมาแพทย์ที่ต้องคดีเกี่ยวกับการฆ่าผู้อื่น และศาลตัดสินถึงที่สุดแล้ว แพทยสภาก็ดำเนินการถอนการเป็นสมาชิกและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทำให้ไม่สามารถเป็นแพทย์ได้อีกไปแล้วทั้งสิ้น”ศ.นพ.สมศักดิ์กล่าว

            อนึ่ง แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆ่าผู้อื่นแล้วถูกถอนการเป็นสมาชิกแพทยสภาทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพแพทย์ได้อีก อาทิ  นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ  อดีตสูตินรีแพทย์ รพ.จุฬาฯ  ,นพ.บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์  อดีตแพทย์ประจำโรงพยาบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนพ.ศรชาติ ศิริโชติ อดีตแพทย์ประจำโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก เป็นต้น